Logo of OPDC ก.พ.ร. FAQ สำหรับการค้นหา  |  ภาษาไทย   |   English   |   Mobile   |   Help   |  

หน้าหลัก หน้าหลัก | ติดต่อ | ผังเว็บไซต์ |  หน้าหลัก
Share แชร์ พิมพ์หน้านี้
ยุทธศาสตร์ปี 2551-2555 / ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 3 (เก่ง) / การปรับบทบาทภารกิจและโครงสร้างส่วนราชการที่ผ่านมาในช่วงปี 2545 - 2549 / การดำเนินการปรับบทบาทภารกิจและโครงสร้างส่วนราชการปี 2546-2549

การดำเนินการปรับบทบาทภารกิจและโครงสร้างส่วนราชการปี 2546-2549

| ผู้รับผิดชอบ:

การปรับบทบาทภารกิจและโครงสร้างส่วนราชการ อันเป็นผลให้เกิดการปรับปรุงกระทรวงจาก 14 กระทรวง/ 1 ทบวง เป็น 20 กระทรวงนั้น เป็นการจัดภารกิจภาครัฐให้เข้าที่ มีผู้รับผิดชอบในแต่ละเรื่องชัดเจน จำเป็นต้องติดตามและแก้ปัญหาการทำงานของกระทรวงต่าง ๆ ดังกล่าว เพื่อปรับกลไกในส่วนราชการและองค์การอื่นของรัฐในกำกับกระทรวง ให้เอื้อต่อการบริหารราชการยุคใหม่และแก้ไขปัญหาในการทำงาน ทั้งปัญหา การทำงานระหว่างหน่วยงานในกระทรวงและระหว่างกระทรวง รวมทั้งระหว่างหน่วยงานส่วนกลางกับราชการบริหาร ส่วนภูมิภาคซึ่งในการจัดส่วนราชการในราชการส่วนกลางใน ปี พ.ศ. 2545 นั้น ยังมิได้ครอบคลุมถึง ทั้งนี้จากการติดตามผล 20 กระทรวง หลังจากจัดตั้งครบ 4 ปี โดยจำแนกเป็นกลุ่มกระทรวงเดิม และกลุ่มกระทรวงตั้งใหม่ สิ่งที่ค้นพบโดยสรุปมีดังนี้

1. กระทรวงเดิม 14 กระทรวง : มีบทบาทภารกิจที่ชัดเจนขึ้นทุกกระทรวง มีการยุบเลิกภารกิจที่หมดความจำเป็น มีการถ่ายโอนภารกิจ (รวมทั้งบุคลากรที่ปฏิบัติงาน) จากกระทรวงหนึ่งไปรวมอยู่กับกระทรวงอื่นที่มีภารกิจเชื่อมโยงสัมพันธ์กันและมีแนวทางที่จะถ่ายโอนภารกิจให้ภาคเอกชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งการปรับปรุงภารกิจบางส่วนให้บริหารงานในรูปแบบองค์การมหาชนและหน่วยบริการรูปแบบพิเศษ ปัญหาสำคัญ ๆ ที่พบ คือ ปัญหาการจัดโครงสร้างหน่วยงานในภูมิภาคของกระทรวงการคลัง และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งต่อมาได้มีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้ว

2. กระทรวงตั้งใหม่ 6 กระทรวง : มีการจัดโครงสร้างรองรับภารกิจได้ค่อนข้างครบถ้วนยกเว้นบาง ส่วนราชการที่ต้องดำเนินการต่อไปตามบทเฉพาะกาล

กระทรวงพลังงาน : มีการตัดโอนภารกิจเกี่ยวกับพลังงานที่กระจายอยู่ในส่วนราชการต่าง ๆ
เข้าไว้ด้วยกันในกระทรวงพลังงานที่จัดตั้งขึ้นใหม่ รวมทั้งรัฐวิสาหกิจ/บริษัทจำกัดที่เกี่ยวกับพลังงาน แต่ยังไม่สามารถตัดโอนการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มาสังกัดกระทรวงพลังงานได้ รวมทั้งมีปัญหาเรื่องศักยภาพของบุคลากรที่ตัดโอนมาบางส่วนต้องมีการพัฒนาให้เหมาะสมกับบทบาทภารกิจใหม่

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ : ตั้งขึ้นโดยการตัดโอนภารกิจและบุคลากรจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องมารวมกันจัดตั้งเป็นกระทรวง เพื่อทำภารกิจใหม่ในบทบาทใหม่ซึ่งแตกต่างจากบทบาทเดิม โดยเฉพาะข้าราชการส่วนใหญ่มาจากกรมประชาสงเคราะห์ซึ่งเน้นงานบริการ เมื่อต้องทำภารกิจในบทบาทเชิงรุกและบริหารเชิงยุทธศาสตร์ จึงไม่สามารถดำเนินงานตามบทบาทใหม่ของกระทรวงได้

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม : เป็นการรวมหน่วยงานหลายหน่วยจากหลายกระทรวงเข้าด้วยกัน ซึ่งมีระบบการบริหารที่แตกต่างกัน ทำให้ต้องมีการพัฒนาหรือหลอมละลายแนวคิดและพฤติกรรมของบุคลากรให้เป็นหนึ่งเดียว รวมทั้งต้องพัฒนาบุคลากรให้สามารถปฏิบัติตามบทบาทภารกิจใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้มีปัญหาความซ้ำซ้อนของภารกิจ และปัญหาการถ่ายโอนทรัพย์สินอาคารสถานที่กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร : ภารกิจบางส่วนยังอยู่ที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไม่สามารถตัดโอนมาได้ และบุคลากรบางส่วนต้องมีการพัฒนาให้เหมาะสมกับบทบาทภารกิจใหม่

กระทรวงวัฒนธรรม : มีการตัดโอนภารกิจด้านศาสนาและวัฒนธรรมจากกระทรวงศึกษาธิการ มารวมกันและจัดตั้งเป็นกระทรวง มีปัญหางานด้านศาสนาที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงวัฒนธรรมกับงานด้านศาสนาที่อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ รวมทั้งมีปัญหาเรื่องสถาบันพัฒนศิลป์ ซึ่งเป็นการจัดการศึกษาว่าควรสังกัดกระทรวงวัฒนธรรมหรือกระทรวงศึกษาธิการ อัตรากำลังในส่วนกลางมีค่อนข้างจำกัด ในขณะที่อัตรากำลังในส่วนภูมิภาคมีค่อนข้างมาก เนื่องจากรับโอนภารกิจและอัตรากำลัง (จำนวน 2,030 ตำแหน่ง) จากสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด และสำนักงานศึกษาธิการอำเภอของ กระทรวงศึกษาธิการมาปฏิบัติงานด้านศาสนาวัฒนธรรมในจังหวัด ซึ่งต่อมาได้นำไปสู่การจัดตั้งเป็นราชการบริหารส่วนภูมิภาค นอกจากนี้บุคลากรบางส่วนต้องมีการพัฒนาศักยภาพให้เหมาะสมกับบทบาทภารกิจของกระทรวง

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา : มีการรวมงาน 2 ด้าน ซึ่งค่อนข้างแตกต่างกันเข้าด้วยกันเป็นกระทรวง โดยมีฐานภารกิจจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ 2 หน่วย ทำให้มีปัญหาในการทำงานค่อนข้างมาก อัตรากำลังส่วนใหญ่ตัดโอนจากกรมพลศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งขาดทักษะด้านการท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นภารกิจใหม่ไม่เคยทำมาก่อน รวมทั้งมีปัญหาเรื่องวิทยาลัยพลศึกษา ซึ่งเป็นการจัดการศึกษาว่าควรสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาหรือกระทรวงศึกษาธิการ

การดำเนินการปรับบทบาทภารกิจและโครงสร้างส่วนราชการในช่วง 4 ปี ที่ผ่านมา นอกจากการปรับแก้ส่วนที่ยังไม่สมบูรณ์หรือลงตัว อันเนื่องมาจากการจัดการปฎิรูประบบราชการปี พ.ศ. 2545 แล้ว ทุกกระทรวงจะได้มีการปรับบทบาท ภารกิจให้รองรับแผนการบริหารราชการแผ่นดิน 4 ปี ที่มีทั้งส่วนที่ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ และนโยบายเร่งด่วน ตามวาระของรัฐบาล โดยมีการปรับปรุงรูปแบบหน่วยงานในราชการบริหารส่วนกลาง และราชการบริหารส่วนภูมิภาค ในทุกด้าน เช่น การจัดกลุ่มภารกิจเพื่อเพิ่มความเข้มแข็งในการบริหารเชิงยุทธศาสตร์ การจัดบทบาทส่วนราชการให้มีความพร้อมในบริบทของผู้ซื้อบริการ และผู้ขายหรือผู้ทำบริการ กรณีกรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การจัดองค์กรมหาชน และหน่วยบริการรูปแบบพิเศษ ตลอดจนการบริหารแบบบูรณาการในราชการบริหาร ส่วนภูมิภาค โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทำหน้าที่ฐานะนายกรัฐมนตรีในพื้นที่แต่ละจังหวัด ทำให้จังหวัดบริหารทรัพยากรที่รัฐจัดสรรไปให้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ในแต่ละกระทรวงจะได้รับการปรับแก้บทบาท ภารกิจ และขนาดให้สอดคล้องกับการทำงานของแต่ละกระทรวง ดังนี้


หน้าถัดไป

 


เผยแพร่ข้อมูลเมื่อ 22 มกราคม 2552 12:09:45 ปรับปรุงข้อมูลล่าสุดเมื่อ 22 มกราคม 2552 12:09:45
    ลิงค์     |     สมาชิกเครือข่าย     |     RSS feed     |     คำถามที่พบบ่อย            

เกี่ยวกับ

กฏหมายและระเบียบ

หนังสือเวียน

ข้อมูลหน่วยงานภาครัฐ

ศูนย์ความรู้

ประชาสัมพันธ์

W3C   Facebook Facebook สำนักงาน ก.พ.ร.   PMQA Channel  ฐานข้อมูลหน่วยงานภาครัฐ  ipv6 ready  www.info.go.th  การปฏิเสธความรับผิดชอบ |  Webmail| Intranet สำหรับข้าราชการ | ผังเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ 

Slocan

สงวนลิขสิทธิ์โดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ

59/1 ถนนพิษณุโลก แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300 โทร. 02 356 9999 โทรสาร 02 281 7882 สายด่วน 1785 e-mail: administrator@opdc.go.th