นายกรัฐมนตรีย้ำหน้าตาของระบบราชการคือการให้บริการที่ดีแก่ประชาชน
นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลคุณภาพการให้บริการประชาชน และรางวัลมาตรฐานศูนย์บริการร่วม/เคาน์เตอร์บริการประชาชน ประจำปี 2552
วันนี้ (15 ธ.ค.) เวลา 17.00 น. ณ หอประชุมกองทัพเรือ ถนนอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลคุณภาพการให้บริการประชาชน และรางวัลมาตรฐานศูนย์บริการร่วม/เคาน์เตอร์บริการประชาชน ประจำปี 2552 โดยมีผู้เข้่าร่วมประมาณ 1,000 คน ประกอบด้วย กรรมการพัฒนาระบบราชการ อนุกรรมการพัฒนาระบบราชการ ปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัด อธิการบดี นายกเทศมนตรี ผู้บริหาร และผู้แทนของส่วนราชการ หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) กล่าวรายงานความเป็นมา ว่า สืบเนื่องจากพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมือง ที่ดี พ.ศ.2546 หมวด 5 การลดขั้นตอนการปฏิบัติงาน ในมาตรา 27 ได้กำหนดให้ส่วนราชการต้องจัดให้มีการกระจายอำนาจการตัดสินใจเกี่ยวกับการ สั่ง การอนุญาต การอนุมัติ การปฏิบัติราชการ หรือการดำเนินการอื่นใด ลงไปสู่ผู้ปฏิบัติที่ดำเนินการในเรื่องนั้น ๆ โดยตรง เพื่อลดขั้นตอนการปฏิบัติราชการที่เกินจำเป็น และมาตรา 30 และมาตรา 32 ยังกำหนดให้กระทรวง จังหวัด อำเภอ จัดให้ส่วนราชการในสังกัดที่รับผิดชอบปฏิบัติงานเกี่ยวกับการบริการประชาชน ร่วมกันจัดตั้งศูนย์บริการร่วมเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนให้สามารถ ติดต่อสอบถามขอทราบข้อมูล ขออนุุญาต หรือขออนุมัติเรื่องใด ๆ ได้ โดยติดต่อเจ้าหน้าที่ ณ ศูนย์บริการร่วมเพียงแห่งเดียว และในหมวด 7 การอำนวยความสะดวก และตอบสนองความต้องการของประชาชน ในมาตรา 37 กำหนดให้ส่วนราชการต้องกำหนดระยะเวลาแล้วเสร็จของงานแต่ละงาน และประกาศให้ประชาชนและข้าราชการทราบเป็นการทั่วไป ประกอบกับมาตรา 53 กำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องมีการจัดทำหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการลด ขั้นตอนการปฏิบัติงาน การอำนวยความสะดวก และตอบสนองความต้องการของประชาชนด้วย
เพื่อให้สอดคล้องกับ พระราชกฤษฎีกาดังกล่าว สำนักงาน ก.พ.ร.ได้ดำเนินการดังต่อไปนี้ โดยช่วงแรกได้กำหนดให้มีการลดขั้นตอนและเวลาการปฏิบัติลงร้อยละ 30-50 นอกจากนั้นยังได้มีการดำเนินการโครงการนำร่อง จัดตั้งศูนย์บริการร่วมรูปแบบต่าง ๆ รวมทั้งศูนย์บริการร่วมรูปแบบเคาน์เตอร์บริการประชาชน ซึ่งเป็นการทำงานเชิงรุก นำบริการของภาครัฐสู่ประชาชนในแหล่งชุมชนต่าง ๆ และในปี 2549 ยังได้กำหนดตัวชี้วัดภาคบังคับให้กระทรวงและจังหวัดพัฒนาการดำเนินงานของ ศูนย์บริการร่วมและเคาน์เตอร์บริการประชาชนให้สามารถอำนวยความสะดวกและตอบ สนองความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริง ในการนี้คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ โดยคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบราชการเฉพาะกิจ เกี่ยวกับการยกระดับคุณภาพมาตรฐาน และลดขั้นตอนระยะเวลาการปฏิบัติราชการ เพื่ออำนวยความสะดวกและตอบสนองความต้องการของประชาชนได้กำหนดให้มีการติดตาม ประเมินผล และมอบรางวัลคุณภาพการให้บริการประชาชน และรางวัลมาตรฐานศูนย์บริการร่วมและเคาน์เตอร์บริการประชาชนแก่หน่วยงานภาค รัฐที่สามารถพัฒนาคุณภาพการให้บริการได้ตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด ซึ่งมีการดำเนินการต่อเนื่องมาทุกปีจนถึงปัจจุบัน โดยในปีนี้ซึ่งเป็นปีที่ 7 จะมีการมอบรางวัล 2 ประเภท คือ ประเภทที่ 1 รางวัลคุณภาพการให้บริการประชาชน อันเป็นรางวัลที่มอบให้ส่วนราชการที่สามารถพัฒนาคุณภาพการให้บริการในมิติ ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งด้านระยะเวลาที่ลดลง ด้านการอำนวยความสะดวก และด้านการสร้างความพึงพอใจแก่ประชาชน และด้านการเรียนรู้ ประเภทที่ 2 รางวัลมาตรฐานศูนย์บริการร่วมและเคาน์เตอร์บริการประชาชน เป็นรางวัลที่มอบให้แก่กระทรวงและจังหวัด ที่สามารถพัฒนาศูนย์บริการร่วมและเคาน์เตอร์บริการประชาชนได้ตามเกณฑ์ มาตรฐานที่กำหนด
สำหรับผล การประเมินเพื่อมอบรางวัลประจำปี พุทธศักราช 2552 มีรายละเอียดดังนี้ 1. รางวัลคุณภาพการให้บริการประชาชน มีส่วนราชการและหน่วยงานภาครัฐได้รับรางวัลดีเด่น 36 รางวัล และรางวัลชมเชย 43 รางวัล โดยมีรางวัลเกียรติยศอีก 1 รางวัลที่มอบให้แก่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ที่ได้รับการพัฒนาระบบราชการอย่างโดดเด่นและได้รับรางวัลดีเยี่ยม รางวัล United Nations Public Service Awards ขององค์การสหประชาชาติอีกด้วย 2. รางวัลมาตรฐานศูนย์บริการร่วมและเคาน์เตอร์บริการประชาชน มีส่วนราชการและหน่วยงานภาครัฐได้รับรางวัลดีเด่น 2 รางวัลและรางวัลชมเชย 4 รางวัล นอกจากนี้ ยังมีการให้่รางวัลในการสนับสนุนการจัดตั้งเคาน์เตอร์บริการประชาชนอีก 2 รางวัล ที่มอบให้แก่หน่วยงานภาคเอกชนที่สนับสนุนภาครัฐในการจัดระบบอำนวยความสะดวก โดยให้ใช้สถานที่จัดตั้งเคาน์เตอร์บริการประชาชนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ที่สะท้อนให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคเอกชน
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้มอบรางวัลคุณภาพการให้บริการประชาชน และ รางวัลมาตรฐานศูนย์บริการร่วมและเคาน์เตอร์บริการประชาชน ท่ี่ส่วนราชการได้รับการพิจารณาคัดเลือกให้ได้รับรางวัลทั้งในส่วนกลางและ ส่วนภูมิภาค ประจำปี 2552 รวม 86 รางวัล และรางวัลพิเศษที่มอบให้แก่ภาคเอกชนที่สนับสนุนการจัดตั้งเคาน์เตอร์บริการ ประชาชนอีก 2 รางวัล คือ ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาขอนแก่น และห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ สาขานครราชสีมา รวมทั้งสิ้น 88 รางวัล
โอกาส นี้ นายกรัฐมนตรีได้แสดงความยินดีแก่หน่วยงานที่ได้รับรางวัลระดับดีเด่นและชม เชยทั้ง 86 รางวัล รวมทั้งหน่วยงานภาคเอกชนที่ให้การสนับสนุนหน่วยงานรัฐในการพัฒนาระบบการให้ บริการประชาชนอีก 2 รางวัล พร้อมกล่าวว่าในการทำงานของภาครัฐนั้นได้ย้ำเสมอว่าระบบราชการเป็นกลไกสำคัญ ที่สุด ที่จะนำมาซึ่งความสำเร็จของการทำงานของภาครัฐ และจุดสำคัญที่เป็นภารกิจหลักของกลไกของราชการก็คือ หนึ่ง การขับเคลื่อนนโยบายที่สำคัญ ๆ ของรััฐบาล เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน สอง งานที่เป็นงานการให้บริการโดยตรงกับประชาชน ซึ่งถือเป็นหน้าตาของระบบราชการ เพราะประชาชนจะสัมผัสกับระบบราชการมากที่สุด เมื่อมีความจำเป็นจะต้องเข้าไปติดต่อเพื่อขอรับบริการในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ที่ในอดีตนั้นระบบราชการมักจะถูกมองว่ามีความล่าช้า ไม่สะดวก รวมทั้งไม่ได้รับการต้อนรับที่ีดีเท่าที่ควร แต่ในระยะหลังรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับเรื่องการให้บริการของประชาชนมากยิ่ง ขึ้น จนถึงขณะนี้ทุกส่วนราชการทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่นได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงการให้บริการต่าง ๆ ที่สามารถอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้รับบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่ง ขึ้น และประชาชนมีความประทับในบริการ
นายก รัฐมนตรี กล่าวว่า ธนาคารโลกได้จัดอันดับความยากง่ายของการประกอบธุรกิจของประเทศต่าง ๆ ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่า ประเทศไทยได้ก้าวกระโดดขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 12 จากเดิมที่อยู่ในอันดับที่ 20 และเป็นอันดับที่ 2 ในอาเซียน และอันดับที่ 3 ในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นการเสริมขีดความสามารถ ศักยภาพในการแข่งขันของประเทศโดยรวมด้วย ทั้งนี้ รัฐบาลได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการสานต่องานทางด้านนี้ และพยายามที่จะคิดค้นนวัตกรรม และสนับสนุนปัจจัยต่าง ๆ ที่จะทำให้การบริการประชาชนนั้น มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการสนับสนุนทางด้านเทคโนโลยี การสนับสนุนในเรื่องของการที่จะจูงใจให้มีการลดขั้นตอน คลายกฎระเบียบต่าง ๆ และในเรื่องของการบูรณาการการบริการ ซึ่งเชื่อมโยงกับหลายหน่วยงาน โดยล่าสุดรัฐบาลได้มีการจัดตั้งศูนย์ประสานการบริการด้านการลงทุนจุดเดียว ที่เรียกว่า One Star One Stop Investment Center หรือ OSOS เพื่อเชื่อมโยงการให้บริการแก่นักลงทุน ซึ่งขณะนี้ก็ได้มีการจัดตั้งสถานที่ศูนย์ และมีการเปิดทำการเรียบร้อยแล้ว และกำลังจะบูรณาการงานทางด้านของวีซ่า และด้านใบอนุญาตการทำงานเพิ่มเติมในช่วงต้นปีด้วย
นายก รัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า การปรับปรุงการให้บริการนั้น ที่สุดแล้วผู้ที่จะรู้ดีที่สุดว่าจำเป็นจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนใด ก็คือผู้ให้และผู้รับบริการ ดังนั้น ผู้ที่ทำหน้าที่ในการให้บริการประชาชนจะต้องสังเกตว่ามีสิ่งใดที่ยังสามารถ ปรับปรุงได้อีกในเชิงขั้นตอน และถ้าติดขัดในเรื่องของกฎระเบียบ หรือการได้รับการสนับสนุนจากส่วนกลาง ขอให้แจ้งมายังรัฐบาล ซึ่งเราพร้อมที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ และที่สำคัญคือการรับฟังเสียงสะท้อนจากผู้รับบริการ เพราะหากเรายึดประโยชน์และความสะดวกของผู้รับบริการแล้ว จะมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เราสามารถปรับปรุงได้ และการสร้างความประทับใจนั้นก็มาจากการทำงานด้วยจิตใจที่มีความตั้งใจในการ บริการประชาชนอย่างแท้จริง
-------------------------------------------------
ที่มา : กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
ฐานันดร์ นาคยุติ ถ่ายภาพ
http://www.thaigov.go.th/
เผยแพร่ข้อมูลเมื่อ 16 ธันวาคม 2552 10:41:38 ปรับปรุงข้อมูลล่าสุดเมื่อ 15 มิถุนายน 2553 16:40:20