ข่าวเด่น
เลขาธิการ ก.พ.ร. เข้าร่วมอภิปรายในงานประชุม Asia Pacific launch of Paying Taxes 2014
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม เลขาธิการ ก.พ.ร. เข้าร่วมประชุมงาน Asia Pacific launch of Paying Taxes 2014 ที่จัดขึ้นโดยสำนักงาน PwC และ The World Bank and IFC เพื่อนำเสนอผลการศึกษา “Paying Taxes 2014” โดยเลขาธิการ ก.พ.ร. ยังได้เข้าร่วมอภิปรายถึงแนวทางที่รัฐจะปรับลดภาระด้านการบริหารจัดการสำหรับภาคธุรกิจและความสำเร็จของมาตรการที่ใช้ในปัจจุบัน เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ที่ผ่านมา ณ ห้องแอทธินีคริสตัล ฮอลล์เอ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี
ในช่วงการอภิปราย เลขาธิการ ก.พ.ร. ได้กล่าวถึงแนวทางแก้ไขปัญหาของภาครัฐเพื่ออำนวยความสะดวกให้ภาคธุรกิจไว้หลายแนวทาง เช่น จะมีการปรับปรุงขั้นตอนการทำงานของภาครัฐให้มีความชัดเจนขึ้น โดยจัดทำคู่มือการให้บริการสำหรับภาคธุรกิจ ให้หน่วยงานบริการต่างๆ จัดทำ Service Level Agreement (SLA) เพื่อเกิดการประกันคุณภาพการให้บริการ และ แก้ไขกฎระเบียบต่างๆ อย่างกฎหมายธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น ตลอดจน ได้กล่าวถึงการดำเนินการของภาครัฐที่ผ่านมาที่ประสบความสำเร็จ เช่น หลายหน่วยงานมีการนำระบบ IT มาใช้ในการให้บริการ การปรับปรุงขั้นตอนการทำงาน ทำให้สามารถลดขั้นตอนและระยะเวลาการให้บริการลงไปได้เกือบครึ่งหนึ่ง แล้วยังสามารถลดขั้นตอนและระยะเวลาต่อไปได้อีก และปรับปรุงบริการด้านการชำระภาษีโดย พัฒนาระบบการยื่น/ชำระภาษีผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
การศึกษา “Paying Taxes 2014” เป็นผลจากการศึกษาส่วนหนึ่งที่รวมอยู่ในผลการศึกษา “Doing Business by World Bank” ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค โดย Paying Taxes เป็นการศึกษาด้วยการสำรวจเพื่อให้ทราบถึงความยากง่ายในกระบวนการจ่ายชำระภาษีอากรให้แก่รัฐ รวมถึงการจัดอันดับความยากง่ายในกระบวนการจ่ายชำระภาษีอากรของแต่ละประเทศ ซึ่งมีจำนวน 189 ประเทศทั่วโลก โดยจากรายงานผลการวิจัยประเทศที่มีความสะดวกในการเข้าไปประกอบธุรกิจ ประจำปี 2556 (Ease of Doing Business 2014) นั้น ประเทศไทยได้ปรับปรุงบริการด้านการชำระภาษี (Paying Taxes) ทำให้มีอันดับที่ดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด จากอันดับที่ 96 ในปีที่แล้ว ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 70 โดยมีตัวชี้วัดในการพิจารณา ได้แก่ จำนวนภาษีที่ต้องจ่าย(รายการ) ระยะเวลาโดยรวมของการจ่ายภาษี (ชั่วโมง) และอัตราร้อยละของภาษีที่ต้องชำระเมื่อเทียบกับรายได้ (% profit) จึงทำให้ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีความสะดวกในการเข้าไปประกอบธุรกิจ อันดับที่ 18 จาก 189 ประเทศทั่วโลก และจัดอยู่ในอันดับที่ 3 เมื่อเปรียบเทียบในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยรองจากประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย
กลุ่มสื่อสาร ฯ / จัดทำ