เวทีความเห็น และรับเรื่องร้องเรียน

ผมเคยมีประสบการณ์การประเมินตนเองกับเจ้าหน้าที่ของ ก.พ.ร.และ ทริส จึงขอแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา (ระบบราชการไม่ชอบ ผมจึงต้อง early ออกจากราชการ) ดังนี้
1. เจ้าหน้าที่ก.พ.ร.และทริส บางท่านขาดวุฒิภาวะ ความรู้ความสามารถ และประสบการณ์ในงานที่รับผิดชอบ
2. การที่เจ้าหน้าที่ ก.พ.ร.และ ทริสไม่รู้ไม่เข้าใจว่าหน่วยงานนั้นมีหน้าที่ทำต้องอะไรอย่างถูกต้อง มีระเบียบอะไรเป็นข้อจำกัด แล้ว ท่านว่าเขาเหล่านั้นจะประเมินหน่วยงานนั้น ๆ ได้ถูกต้องหรือไม่
3. การใช้โบนัสเป็นเครื่องมือหรือกลไกเพท่อใช้ในการผลักดันการเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผล ท่านได้ดำเนินการมาหลายปี ท่านเคยประเมินผลหรือไม่ว่ามีผลกระทบอะรบ้าง เพราะในช่วงที่ผมรับราชการอยู่ ผมประเมินคร่าว ๆ พบว่า การนำโบนัสมาใช้ได้ก่อให้เกิด Discrimination at Work ในหน่วยงาน
4. ผลการปะรเมิรตนเองที่ผ่านมา ท่านว่าหน่วยงานราชการมีประสิทธิภาพหรือประสทธิผลเพิ่มขึ้นจริงหรือไม่ เพราะปัจจุบันผมประเมินว่าข้าราชการที่ทำงานโดยใช้เครื่องจักรเป็นหลักทำงานได้เร็วขึ้นเพราะความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ไม่ใช่เพราะ ability ส่วนงานที่ต้องใช้สติปัญญา เช่น การวางแผนพัฒนา ผมมองว่าข้าราชการส่วนใหญ่เริ่มขาดสิตและไม่มีปัญญาในการวางแผน
5. ผมว่าโครงการ Early ส่งผลการพัฒนาระบบราชการ เพราะข้าราชการที่ early ส่วนใหญ่เป็นบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถและเข้าสู่ตลาดแรงงานได้ ในขณะที่ข้าราชการเช้าชามเย็นชามไม่กล้าสมัครใจ Early เพราะกลัวขาดรายได้ ดังนั้น หาก ก.พ.ร. มีหน้าที่ในการพัฒนาระบบราชการ ผมว่าประเด็นนี้ ก.พ.ร. ควรจะต้องมีการศึกษาวิเคราะห์ทั้งเชิงทฤษฎีและข้อเท็จจริง
6. ผมอยากเห็น ก.พ.ร.เป็นหน่วยงานกลางที่มีบทบาทต่อการพัฒนาระบบราชการอย่างแท้จริง ผมไม่อยากให้ ก.พ.ร.เป็นเพียงหน่วยงานราชการแบบไทย....
ขอบคุณมากที่ให้โอกาสผมแสดงความคิดเห็น และความคิดเห็นใดที่เป้นประโยชน์ ผมก็ขออุทิสความดีเหล่านั้นแก่ประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ที่ท่านได้เสียสละภาษีเป็นรายได้ของผม แต่ถ้าหากความคิดเห็นไม่ถูกใจหรือกระทบต่อความรู้สึกของท่านในทางนิเสธ ผมก็กราบขออภัยมา ณ ที่นี้ และนำมาเป็นบทเรียนที่คุณค่าในการพัฒนาสติปัญญาอันน้อยนิดของผมต่อไป ขอขอบคุณมากครับ

เรียน คุณearly
  สำนักงาน ก.พ.ร. ขอขอบพระคุณท่านเป็นอย่างสูงที่ได้ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์  และจะได้นำคำแนะนำไปปรับปรุง เพื่อพัฒนาให้การพัฒนาระบบราชการไทยมีประสิทธิภาพในภาพรวมต่อไป
   สำหรับเรื่องการประเมินผลเกี่ยวกับการจัดสรรสิ่งจูงใจที่มีต่อการปรับปรุงประสิทธิภาพและประสิทธิผล นั้น สำนักงาน ก.พ.ร.ได้มีรายงานผลการศึกษาวิจัยผลการจัดทำคำรับรอง  
การประเมินผลการปฏิบัติราชการ และการจัดสรรสิ่งจูงใจที่มีต่อการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของข้าราชการ โดยมีผลการศึกษาดังนี้
1.การจัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการ
  ส่งผลในระดับสูงทำให้เกิดการปรับปรุงประสิทธิภาพของกระบวนการทำงาน ประสิทธิผลในการยกระดับภารกิจด้านต่างๆ ขององค์การและการตอนสนองความพึงพอใจของประชาชน/ผู้รับบริการ ตลอดจนการยกระดับการบริหารจัดการภายในหน่วยงานให้มีระบบและคุณภาพที่สูงขึ้น
2. การประเมินผลราชการตามคำรับรองการปฏิบัติราชการ
ได้ส่งผลในระดับสูงช่วยให้เกิดการแก้ไขปรับปรุงประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการทำงานทำให้มีการพิจารณาทบทวนแก้ไขผลงานตามตัวชี้วัดต่างๆ ที่ยังไม่บรรลุเป้าหมาย ซึ่งครอบคลุมทั้งการทำงานอย่างมียุทธศาสตร์ ประสิทธิภาพของกระบวนการภายใน คุณภาพของผลผลิต และการบริการแก่ประชาชน/ผู้ใช้บริการ ตลอดจนการยกระดับความสามารถในการทำงานของบุคลากรเอง ทั้งนี้ผลกระทบของการประเมินผลการปฏิบัติราชการที่มีต่อประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการทำงานอยู่ในระดับสูงใกล้เคียงกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการจัดทำคำรับรอง  
3. หลักเกณฑ์และแนวทางการจัดสรรสิ่งจูงใจ
      มีความเหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบราชการ ส่งเสริมประสิทธิภาพของหน่วยงาน ตลอดจนช่วยให้บุคลากรเกิดความพึงพอใจและปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงานให้สูงขึ้น
     นอกจากนี้ สำนักงาน ก.พ.ร. ได้ร่วมกับสถาบันสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ สำรวจความพึงพอใจต่อการจัดสรรสิ่งจูงใจ  ในงานวิจัยผลของการบริหารผลงานและการจัดสรรสิ่งจูงใจต่อการพัฒนาระบบราชการและข้าราชการไทยโดยมีผลการศึกษาดังนี้
       ผลจากการสำรวจพบว่าการจัดสรรเงินเพิ่มพิเศษ/เงินรางวัลช่วยทำให้หน่วยงานทำงานมีประสิทธิภาพสูงขึ้นโดยมีเกณฑ์อยู่ในระดับสูงทั้งในกลุ่มของผู้บริหารและผู้ปฏิบัติ
อีกทั้งสำนักงาน ก.พ.ร. ร่วมกับสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต ได้ดำเนินโครงการสำรวจความพึงพอใจของข้าราชการและลูกจ้างประจำทีมีผลต่อการรับเงินรางวัล และเงินเพิ่มพิเศษสำหรับผู้บริหาร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ 2551 จากการสำรวจพบว่าข้าราชการและลูกจ้างประจำมีความพึงพอใจต่อการจัดสรรเงินรางวัลประจำปีในภาพรวมถึงร้อยละ 62.30 โดยมีมีความพึงพอใจมากที่สุด คือ การจัดให้มีเงินรางวัลประจำปี รองลงมา คือ หลักเกณฑ์การจัดสรรเงินรางวัลประจำปีที่ ก.พ.ร. กำหนด  ข้าราชการและลูกจ้างประจำส่วนใหญ่ เห็นว่า ควรมีการจัดสรรเงินรางวัลประจำปีต่อไปถึง ร้อยละ 68.74  เพราะเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจแก่ผู้ปฎิบัติงาน เป็นการสร้างแรงจูงใจในการทำงานและเป็นการช่วยข้าราชการและลูกจ้างที่มีรายได้น้อย  ส่วนผลการสำรวจความพึงพอใจของผู้บริหารพบว่า ผู้บริหารส่วนใหญ๋เห็นว่าควรจัดให้มีการจัดสรรเงินเพิ่มพิเศษต่อไป ร้อยละ 74.46 เพราะเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจแก่ผู้ปฎิบัติงาน เป็นการสร้างแรงจูงใจในการทำงาน เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ดียิ่งขึ้น  จุดเด่นของการจัดสรรเงินเพิ่มพิเศษสำหรับผู้บริหารมากที่สุดคือ เป็นการกระตุ้นให้ข้าราชการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล จูงใจให้มีการปฏิบัติงานโดยมุ่งเน้นผลสำเร็จของงานมากยิ่งขึ้นหรือทำให้มีการตื่นตัวและมีความมุ่งมั่นในการทำงานให้มีประสิทธิภาพและประโยชน์สูงสุด รองลงมา คือ เป็นการสร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติราชการ สำหรับจุดด้อยของการจัดสรรเงินเพิ่มพิเศษสำหรับผู้บริหารมากที่สุดคือ การจัดสรรเงินเพิ่มพิเศษยังมีช่องว่างหรือจุดที่ควรแก้ไข เช่น ผู้บริหาร ผู้กำกับตัวชี้วัด และผู้ปฏิบัติเกิดความไม่เท่าเทียมกัน รองลงมา คือ จำนวนเงินรางวัลที่ได้น้อยเมื่อเทียบกับเอกชน ทำให้ไม่สร้างแรงจูงใจในการทำงานเท่าที่ควร ทั้ง ๆ ที่ต้องปฏิบัติงานเพื่อให้ได้ประโยชน์ส่วนรวมสูงสุด ซึ่งสามารถศึกษาข้อมูลรายละเอียดได้ในรายงานฉบับสมบูรณ์ (Final Report) การสำรวจความพึงพอใจของข้าราชการและลูกจ้างประจำทีมีผลต่อการรับเงินรางวัล และเงินเพิ่มพิเศษสำหรับผู้บริหาร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ 2551 ของสำนักงาน ก.พ.ร. นอกจากนี้สำนักงาน ก.พ.ร.ยังได้รับข้อมูลจากผู้ปฏิบัติ ซึ่งพบว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง คือ หลักเกณฑ์วิธีการประเมินผลงานของหน่วยงานอาจจะขาดความมีส่วนร่วม ไม่ชัดเจน และไม่มีการชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ปฏิบัติ
   ขอขอบคุณ