เวทีความเห็น และรับเรื่องร้องเรียน

ผมมีโอกาสได้เห็นคำสั่งแต่งตั่งคณะกรรมการบริหารจังหวัดแบบบูรณาการของจังหวัดร้อยเอ็ด(กบจ.)ในคำสั่งนั้นมีระบุชื่อองค์กรคือ"สภาองค์กรชุมชนตำบล"ตามกฎหมายว่าด้วยสภาองค์กรชุมชน...แต่ความจริงแล้วในคณะกรรมการฯ ไม่มีตัวแทนของสภาองค์กรชุมชนตำบลเลย...จึงตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการเอาองค์กรใส่ให้ครบตามกฎหมายเท่านั้นเอง...แต่ตัวคนไม่มี จึงทำให้ตัวแทนของสภาองค์กรชุมชนตำบล เสียโอกาส...จังหวัดควรทบทวน...กพร ควรเน้นให้ยึดหลักความจริง มันถึงจะเข้าหลักเกณฑ์การบริหารบ้านเมืองที่ดีครับ

เรียน เจ้าหน้าที่
      ผมได้อ่านคำตอบแล้ว ขอแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า สภาองค์กรชุมชน จัดตั้งขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์ในการพัฒนา อนุรักษ์ฟื้นฟูจารึตประเพณี บำรุงรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในชุมชน จริงอยู่ ผวจ.มีอำนาจแต่งตั้งกรรมการผู้แทนภาคประชาสังคม จาก ข้อ1และ 2 ในสัดส่วนใกล้เคียงกัน จำนวนอย่างน้อย สี่คน แต่ไม่เกินสิบสองคน ดังนั้นตัวแทนสภาองค์กรชุมชนจึงควรได้รับสิทธิด้วย....กรณีเจ้าหน้าที่ตีความคุณสมบัติคลาดเคลื่อน มันจะเป็นคำตอบที่สวนทางกับคำสั่งหรือไม่ เพราะในคำสั่งระบุชัดว่า ตัวแทนสภาองค์กรชุมชนตำบล ผมคงได้หารือคุณควีนส์อีกครั้ง เพื่อให้ภาคประชาชนได้มีโอกาสเข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาท้องถิ่นของตัวเอง ขอบคุณที่สละเวลาตอบ

เรียน คุณ sarayut untachai

     ในการแต่งตั้งผู้แทนภาคประชาสังคมเป็นกรรมการใน ก.บ.จ. กำหนดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้แต่งตั้ง ตามจำนวนที่กำหนด โดยให้คำนึงถึงสัดส่วนของหญิงและชายที่ใกล้เคียงกัน  ซึ่งผู้ที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้แทนภาคประชาสังคมจะต้อง
     1. เป็นสมาชิกสภาองค์กรชุมชนตำบลตามกฎหมายว่าด้วยสภาองค์กรชุมชน หรือ
     2. กลุ่มที่หน่วยงานของรัฐสนับสนุน  หรือกลุ่มที่ประชาชนจัดตั้งขึ้น และมีวัตถุประสงค์การดำเนินงานในการพัฒนา  ส่งเสริม หรืออนุรักษ์ ฟื้นฟูด้านเศรษฐกิจ สังคม ทรัพยากรธรรมชาติ  หรือสิ่งแวดล้อมในจังหวัดนั้น  รวมทั้งได้ดำเนินกิจกรรมตามวัตถุประสงค์มาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งปี  
       ดังนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดจึงอาจแต่งตั้งกรรมการผู้แทนภาคประชาสังคม  จากสมาชิกสภาองค์กรชุมชนตำบลตามข้อ 1 หรือจากกลุ่มที่หน่วยงานของรัฐสนับสนุน หรือกลุ่มที่ประชาชนจัดตั้งตามข้อ 2 ก็ได้
      ขอขอบคุณ