เวทีความเห็น และรับเรื่องร้องเรียน

ตามมติ ค.ร.ม. เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา อนุมัติในหลักการให้ ก.พ.ร. มีสถานะเป็นกรม (นิติบุคคล) หลังจากที่เดิมไม่เป็นนิติบุคคล

หาก พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าวผ่านสภานิติบัญญัติฯ แล้ว หน่วยงานอื่นที่มีลักษณะเดียวกับ ก.พ.ร. จะทำอย่างไร

เข้าใจเอาเองว่าการไม่เป็นนิติบุคคลของ ก.พ.ร. เป็นนโยบายของทักษิณที่จะต้นแบบของส่วนราชการในอนาคต ซึ่งต้องการจะลดปัญหาการคอรัปชั่น เนื่องจากการมีอำนาจในการทำนิติกรรมต่างๆ และไม่ต้องรับผิดหากเกิดเสียหายโดยการอ้างการกระทำตามหน้าที่ หากไม่เป็นนิติบุคคลข้าราชการที่กระทำผิดจะต้องถูกดำเนินการคดีโดยไม่สามารถหยิบยกประเด็นการปฏิบัติหน้าที่ขึ้นสู้คดีได้ และต้องแต่งตั้งทนายความเอง

ในกรณีเช่นนี้ ก.พ.ร. จึงขอเปลี่ยนแปลงสถานะหน่วยงานเพื่อการนี้หรือไม่ เพราะในตอนแรกการไม่เป็นนิติบุคคลก็เป็นความคิดของ ก.พ.ร. นั่นเอง

หากท่านทั้งหลาย หวนคิดถึงพระราชดำรัสแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (พ่อหลวงของปวงชนชาวไทย) สักนิดคงคิดกันได้บ้าง ว่าคำสอนของพระองค์ที่ทรงตรัสกับข้าราชฯ ทั้งหลาย มีประโยชน์ และสามารถนำไปใช้ปฎิบัติได้จริง ความมั่นคงที่แท้จริงอยู่ที่พื้นฐานของประชาชน รัฐบาล ไม่ควรส่งเสริมให้ประชาชนเป็นหนี้ อย่านำค่านิยมผิดๆ มาเพื่อประโยชน์ทางธุรกิจของคนกลุ่มน้อย ความเจริญทางวัตถุ จะเทียมได้อย่างไรกับด้านจิตใจ ควรปลูกจิตสำนึกในความเป็นจริงแห่งรากฐานของสิ่งแวดล้อมตัวตนของตน และคนในชาติ

ปีวิเศษกุลเดช