เห็นด้วยค่ะ แต่ขอเสริมว่าต้องให้กับทุกหน่วยงานในจังหวัดนั้นๆ ค่ะ มิใช่แค่ให้กับสำนักงานจังหวัดอย่างเดียว เพราะหลายหน่วยงานในจังหวัดก็ยังครางแคลงใจกับตัวชีวัดนี้อยู่ เนื่องจากงานบางอย่างเป็นรูปธรรม งานบางอย่างเป็นนามธรรม งานบางอย่างวัดค่าพึงพอใจเป็นตัวเงินไม่ได้ งานบางอย่างวัดค่าพึงพอใจอย่างเดียวแต่ไม่คิดถึงผลสะท้อนกลับว่าบุคคลนั้นได้รับการยุติธรรมในการวัดนี้หรือไม่ รวมถึงการวัดความพึงพอใจกับความโลภนั้นย่อมนำความเสียหาย และเสียขวัญและกำลังใจมาให้ผู้ปฏิบัติเช่นกัน และผู้ตอบปัญหาในการวัดความพึงพอใจ (ผู้ออกแบบ) ก็ให้ความกระจ่างแจ้งไม่ได้เพราะไม่เข้าใจในงานที่มีหลากหลายของภาครัฐอย่างแท้จริง
การวัดความพึงพอใจจึงควรมีการขอความเห็นกลับจากผู้ถูกวัดและรับฟังความคิดเห็นนั้นด้วย เพราะปัญหาของแต่ละจังหวัดหรือพื้นที่ย่อมไม่เหมือนกัน รวมถึงนโยบายหลักของแต่ละจังหวัดและพื้นที่ก็แตกต่างกัน ปัญหาเหล่านี้จึงควรเป็นตัวที่จะมาปรับปรุงในการวัดความพึงพอใจ เพราะผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่เท่านั้นจะรู้ดีกว่าว่าปัญหาและอุปสรรคคือสิ่งใด
แต่สังคมไทยเป็นสังคมที่แปลกคือ ไม่ยอมรับความจริงของปัญหานั้นๆ และไม่ยอมรับความคิดเห็นของผู้ปฏิบัติเพื่อมาวิเคราะห์แก้ไขในปัญหาเหล่านั้นทั้งๆ ที่มีการบอกกล่าว ปัญหาจึงมีการรื้อรังและทวีความรุนแรงมากขึ้น ทำให้ต้องมีกฎเกณฑ์มากขึ้นตามมาแต่ไม่สามารถแก้ไขอย่างแท้จริง
และตัวแปรที่สำคัญของการวัดความพึงพอใจคือ เงิน นั่นเอง |