เวทีความเห็น และรับเรื่องร้องเรียน

ไม่เห็นจะมี่ความยุติธรรมตรงไหน ยิ่งเป็นข้าราชการที่เงินเดือนต้องไปคิดขั้นต่ำด้วยแล้ว ทำงานกี่ชาติเงินถึงจะไปอยูู่ในฐานสูง ขึ้นเงินเดือน 2 ปีขาดทุนเป็นพัน และจะมีใครบ้างที่ได้เงินเดือนถึง 6% ส่วนใหญ่เต็มที่ก็ 3% เหมือนเฉลี่ยกัน มากกว่า อย่างนี้ใครจะอยากทำงานยิ่งเป็นคนเงินเดือนกินฐานสูง ก็ได้เงินเยอะไปตามระเบียบ  ถ้าทำแบบนี้สู้ใช้ขั้นอย่างเดิมดีกว่า เพราะยังไงก็ขั้นครึ่ง  ใครหนอที่ดิดวิธีนี้

เห็นกทม.เขาจะเข้าแท่ง แล้วจะร้องเอาเงินที่สูญไป คนละแสนสองแสน ย้อนหล้ง 11 ธค51 เขาคงไม่รู้ว่าแท่งมันได้ น้อยกว่าระบบขั้นอยู่ อย่างผมหายไปปีละ 300-400 บาท ขำกทม กลิ้ง

ได้น้อยไม่พอ แต่กว่าจะได้นี่สิ แทบตาย ลำพังทำงานตามปกติก็เหนื่อยแทบขาดใจอยู่แล้ว พอเวลาจะขึ้นเงินเดือน ต้องมาหาหลักฐานเอกสารมาแนบอีก ทั้งสมรรถนะ ทั้งตัวชี้วัด ชี้โรงเรียนอีกมากมาย กว่าจะได้ 2.7 เปอร์เซ็น หมดกระดาษไปอี 1 ห่อ หมึกปริ้นไม่นับ สรุปแล้ว ถ้ามีข้าราชการ 100 คน เอกสารประกอบการพิจารณาความดีความชอบเอามากองรวมกัน ยังสูงท่วมหัวเราเลย  เห็นข้าราชการทั้งหลายวิ่งหาเอกสารมาประกอบผลงานของแต่ละคน ก็ทำให้นึกถึงคุณครูเขาทำชำนาญการพิเศษ ไม่น่านักเรียนถึงอ่านหนังสือไม่ เพราะพวกนักวิชาการมันเอาผลงานตามกระดาษนี่เอง ยิ่งพวกดอกเตอร์ทั้งหลาย เวลาคุยด้วย ปวดหัว แค่ปริญญาโท ก็คุยด้วยเหนื่อยแล้ว