กระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางได้ห้ามเบิกยารักษาข้อและกระดูกแก่ข้าราชการ ทำให้ดิฉันซึ่งเป็นข้าราชการและมารดาซึ่งได้รับการรักษาโดยใช้ยา viatril-s และ coxiumได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก ดิฉันและมารดามีอาการข้อเข่าเสื่อม มีเสียงดังในเข่า เวลาลุกนั่งรู้สึกเสียวที่เข่า เข่าและขาไม่มีแรงโดยเฉพาะตอนขึ้นบันไดหรือสะพานลอยข้ามถนน ดิฉันต้องเดินทางไปทำงานโดยยืนบนรถเมล์วันละเกือบ 2 ชั่วโมงและเดินต่อด้วยเท้าอีกเกือบ 2 กม. บางครั้งต้องหอบงานกลับไปทำต่อที่บ้าน ซึ่งหนัก 3-4 กก.
หลังจากใช้ยาดังกล่าวมีอาการดีขึ้น ขาและเข่ามีแรงไม่เจ็บหรือปวดเหมือนก่อนรักษา เมื่อเบิกยาไม่ได้ดิฉันไม่มีรายได้เหลือพอที่จะซื้อยามาใช้เอง เพราะยามีราคาแพง (ทั้งยาสำหรับตัวเองและมารดา) เหตุใดกรมบัญชีกลางจึงไม่พิจารณาความจำเป็นของยาสำหรับกลุ่มข้าราชการสูงอายุที่มีโรคข้อและเข่า และจำเป็นต้องได้รับยาดังกล่าว แต่กลับหาทางจำกัดสิทธิในการเบิกค่ารักษาพยาบาลที่จำเป็นสำหรับข้าราชการสูงอายุ กรมบัญชีกลางควรไปหาช่องทางอื่น ที่ทำให้ประหยัดงบประมาณได้มีประสิทธิผลมากกว่าการตัดสิทธิเบิกค่ายาที่ทำให้คุณภาพชีวิตของข้าราชการลดน้อยลงเรื่อยๆ ซึ่งขัดกับนโยบายที่นายกรัฐมนตรีประกาศในเรื่องการยกระดับคุณภาพชีวิตของข้าราชการ (ช่องทางอื่น เช่น ตัดการจ่ายเงินโบนัสที่ไม่ได้ให้ผลประโยชน์แก่ราชการคุ้มค่ากับงบประมาณที่ใช้จ่ายซึ่งเป็นจำนวนเงินที่มากกว่า ส่วนราชการทำเพียงให้เป็นไปตามรูปแบบ สิ้นเปลืองเวลาและกระดาษที่นำมาใช้จัดทำรายงานเพื่อให้เห็นว่าหน่วยงานของฉันทำแล้ว เพื่อให้ได้รับเงินรางวัลเท่านั้น)
ดิฉันรับราชการมาเป็นเวลา 26 ปี ทำงานด้วยความซื่อสัตย์ และทุ่มเทเพื่อการทำงานให้ราชการมาโดยตลอด แต่สุดท้ายราชการกลับไม่เห็นความสำคัญของกลุ่มข้าราชการสูงอายุที่รับใช้ราชการมาเป็นเวลานาน
จึงขอให้นำกราบเรียนนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา
|