การบ้านสำหรับ ก.พ.ร.
...ปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นหน่วยไหน จะพบว่าข้าราชการจะพยายามหนีงานที่มากแล้วย้ายไปอยู่ในหน่วยที่มีงานน้อยๆ ทำสบายๆ และมีผลประโยชน์มากกว่า สาเหตุที่พบกับตนเองก็คือ เมื่อมีงานมากโอกาสพลาดก็มีมาก(เหนื่อยแล้วถูกด่าถูกตำหนิ หรืออาจถูกลงโทษ) โอกาสได้สองขั้นมีสูง แต่โอกาสที่จะถูกลงโทษลงทัณฑ์ก็มีสูงเช่นเดียวกัน และเมื่อพลาดแล้วผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมาก็จะสูญเปล่าทันที ผู้บังคับบัญชาไม่พูดถึงและก็จะมีการลงโทษลงทัณฑ์ ซึ่งในขณะเดียวกันผู้ที่มีงานในความรับผิดชอบไม่มากก็มีโอกาสที่จะทำผลงานที่ดีกว่าโอกาสได้สองขั้นค่อนข้างจะสูง โอกาสพลาดมีน้อย
...ระบบการใช้ตัวชี้วัดถ้าหากว่าทำได้สมบูรณ์จะดี แต่ถ้าหากคนที่รับผิดชอบตัวชี้วัดคือคนที่มีงานมากอยู่แล้วอะไรจะเกิดขึ้น...
...ทำอย่างไรจะแก้ไขปัญหาข้าราชการหนีงานหนักไปหางานเบาได้ ซึ่งธรรมชาติของคนก็ต้องวิ่งไปหาที่สบาย หน่วยที่มีงานหนักผลประโยชน์น้อยบุคลากรก็จะค่อย ๆ หนีหายหมด แล้วในที่สุดก็จะล้ม เพราะคนที่เหลืออยู่ไม่สามารถแบกรับภารงานได้(ผลประโยชน์ในที่นี้หมายถึงเงินเบี้ยเลี้ยงหรือรายได้อื่นนอกเหนือจากเงินเดือน)
...เมื่อมีงานมาก แถมมีรายได้น้อย (งานหนักเงินน้อย) เวลาก็ไม่ค่อยมี เพราะหมดเวลาไปกับงาน จะไปหวังหารายได้พิเศษนอกเวลางานเป็นไปไม่ได้ บางคนอาจจะถามว่าทำไมไม่เบิกเงินล่วงเวลา ขอตอบตามตรงว่าการเบิกเงินล่วงเวลา ต้องได้รับจัดสรรงบประมาณไว้รองรับแล้วถึงจะเบิกได้ ไม่มีงบประมาณเบิกไม่ได้
...ถ้ามีคนถามว่างานมาก งานหนักเอาอะไรมาวัด ในบางครั้งชื่องานที่รับผิดชอบมันสั้นนิดเดียว ยกตัวอย่างเช่น รับผิดชอบในจัดทำบัญชีการเลื่อนเงินเดือนข้าราชการในหน่วย บางหน่วยอาจจะสบายเพราะมีบุคคลากรในหน่วยแค่หลักร้อย บางหน่วยอาจจะมีถึงหลักพัน สอง.. สาม.. สี..หรือ ห้าพันคน แต่เชื่อได้ว่าจำนวนเจ้าหน้าที่ที่ผู้รับผิดชอบในการทำบัญชีไม่แตกต่างกัน เช่นหลักร้อยใช้เจ้าหน้าที่สองคน บางหน่วยหลักพันก็ใช้เจ้าหน้าที่ สองถึงสามคนเท่านั้น คนที่ในหน่วยต้องทำบัญชีถึงหลักพันคนก็ต้องทำงานหนักหน่อย คนที่ในหน่วยต้องทำบัญชีแค่หลักร้อยก็สบายหน่อย ปริมาณงานจึงแตกต่างกันตรงนี้ |