เวทีความเห็น และรับเรื่องร้องเรียน

ทำไมตำแหน่งระดับทั่วไปถึงต้องไปสอบปรับตำแหน่งเป็นวิชาการเท่านั้นด้วยคับ(หมายถึงสอบเริ่มใหม่ตั้งแต่ ภาคก เลยคับ)  คนเริ่มทำงานปีแรกๆอาจไม่เป็นไรแต่คนที่ทำงานมาสิบกว่าปีแล้วจะให้ไปสอบใหม่คงจะไม่เอาแล้ว เพราะปัจจุบันตำแหน่งทางวิชาการก็รับคนจบ ป.ตรีและคนในปัจจุบันส่วนมากก็จบ ป.ตรีทั้งนั้นเลยคับ คนที่บรรจุระดับทั่วไปส่วนมากน่าจะจบ ป.ตรีกันหมด แต่ก็เข้าใจคับถ้าเราได้สอบระดับวิชาการได้ก็คงสอบไปแล้ว อาจมีเหตุผลแตกต่างกันไปคับ และในอนาคตคนส่วนมากคงจบ ป.โท และ ป.เอก กันมากขึ้น ช่วยพิจารณาด้วยคับ

การเกิดไม่สามารถเลือกได้ แต่เป็นคนดีเลือกได้ การศึกษาให้จบปริญญาในบางฐานะไม่มีโอกาศหรอก การวัดความรู้คนไม่ใช่ว่าวัดเมื่อจบใหม่หรือบรจุใหม่ เช่นกันตำแหน่งวิชาการไม่ใช่วัดกันที่ต้นกำเหนิด ถ้าจะหาคนดีหรือคนมีความรู้หาได้ทุกชั้น วรรณะ

เห็นด้วยค่ะ  ตัวดิฉันเองก็เพิ่มมูลค่าตนเองจนจบป.โท  งานที่รับผิดชอบส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่งานงานธุรการ  สุดท้ายก็เป็นได้แค่นี้หรือ  ในเมื่อก.พ.ต้องการ คนดี  คนเก่งไว้ในวงราชการแต่ทำไมรักษาพวกเราไว้แค่นี้  ไม่ให้เจริญเติบโตหากมีวุฒิทำไม่แก้ระเบียบ  ให้ไปสอบนักจัดการงานทั่วไป  (ไม่ได้ว่า ก.พ.ร.) นะค่ะ ว่าก.พ.ค่ะ

กรณีการเลื่อนเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง จากแท่งทั่วไป เป็นแท่งวิชาการ  การเลื่อนจะต้องมีคุณสมบัติเฉพาะในสายงาน หมายความว่าท่านต้องมีวุฒิปริญญาตรีขึ้นไปและใบประกอบวิชาชีพ(บางสายงาน) แล้วต้องมีตำแหน่งของหน่วยงานว่างอยู่ แล้วก็ต้องสอบแย่งกันใหม่ และจะต้องเริ่มจากระดับปฎิบัติการก่อน สมมุติถ้าท่านอายุ 48 ปี ทำงานมาแล้ว 25 ปี อยู่ในตำแหน่งอาวุโส เงินเดือนสัก 33,000 บาท ท่านต้องมาเริ่มเงินเดือนใหม่ประมาณ 12,000 บาท ท่านเปลี่ยนตำแหน่งเป็นแท่งวิชาการแล้ว ทำงานจนปลดเกษียรจะได้เงินเดือน 33,000 บาทเหมือนเดิมหรือเปล่าคิดเอาเอง นี่ยังไม่นับเวลาการครองตำแหน่งนะ นี่แหละระบบปฎิรูปราชการไทย เรียกว่าระบบสืบสันดานต้นกำเนิด

ตำแหน่งประเภททั่วไป โดนปล่อยปละละเลยไม่เคยได้รับความยุติธรรมในหลาย ๆ เรื่อง แต่ไม่เคยมีใครสนใจที่จะเข้ามาดูแลเลย สังคมไทยก็แยกออกเป็น 2 ระดับตั้งแต่เริ่มจบการศึกษาแล้ว คนพัน อาฯ และคนพัน มอฯ คนพัน อาฯ มีความรู้ตั้งแต่รากเง้า รู้ลึกเนื่องจากจบมาโดยตรงและยังมีการต่อยอดโดยการศึกษาต่อในระดับ มอฯ ด้วย ซึ่งในตรงนี้จะได้คนที่เก่งและรอบรู้ในคนคนเดียวกัน แต่ก็โดนสกัดกั้นโดยคนพัน มอฯ อย่างเดียว เนื่องจากพวกนี้จบมาก็นั่งในระดับที่สูงเลย แกอย่ามาแซงข้าน่ะ แล้ว ระบบราชการไทยก็เลยไม่เคยที่จะได้คนที่รอบรู้และใฝ่หาความรู้เพิ่มเติมเพื่อการทำงานจริง ๆ มาเป็นในระดับผู้นำ บางคนอาจเถียงว่า ก็คนพัน อาฯ เรียนมาแบบ อาฯ อย่าลืมว่าในส่วนของวิชาชีพแล้ว เช่นนักบัญชี เขาเรียนมากันตั้งแต่ ปวช. ปวส. รวม 5 ปี แต่ระดับปริญญาตรี คุณเรียนแค่ 4 ปีเท่านั้น แต่ในทางปฏิบัติสวัสดดิการของนักบัญชีในระดับ ปวส.ซึ่งใช้เวลาเรียนมาถึง 5 ปี และรับราชการมาจนถึงระดับบริหารงานการเงินและบัญชี แล้ว เมื่อปรับเป็นแท่งกลับเข้าไปอยู่ในระดับเจ้าพนักฯคือกลับไปตำแหน่งเดิมเมื่อเริ่มบรรจุ คุณเล่นถอยแบบไม่ต้องคิดมาก การบริหารงานก็จบเห่ บางคนจบปริญญาตรีมาซึ่งปริญญาตรีในสายบริหารต่าง ๆ ยังไม่สามารถเอามาเทียบเพื่อให้เขาอยู่ในระดับวิชาการได้ ผลที่ตามมาก็คือ คุณต้องอยู่ในตำแหน่งเจ้าพนักงาน คุณต้องไม่สามารถที่จะเป็นหัวหน้าของนักวิชาการได้ทั้งที่คุณเก่งกว่าและตำแหน่งสูงกว่า(ก่อนแท่ง) และคุณก็ต้องใส่เครื่องแบบที่โดนแบ่งแยกโดยชัดเจนทุกอย่างโดนสกัดกั้น ความรู้สึกของพวกเจ้าหน้าที่บริหาร 6 เดิม เกือบทุกคน ขมขื่น แต่ทุกคนก็ต้องทำงานเนื่องจากเราเลือกมารับราชการแล้ว สิ่งเดียวที่ทำได้ทุกวันคือทำงานให้ดีที่สุดและเรียกร้องสิ่งที่ควรจะได้ ควรจะเป็นคือความยุติธรรม

การผลักดันให้เกิดผลเรื่องการเปลี่ยนสายงานตามกระทู้นี้ ข้อ 1.ต้องมีผู้นำ ซึ่งจะต้องมีความรู้ในระเบียบพอสมควร 2.มีสถานที่หรือเว็ปไซด์ไว้สำหรับสมาชิกรวมตัวกัน 3.ศึกษาเนื้อหาข้อระเบียบประกอบให้ท่องแท้ เช่นรัฐธรรมนูญ ,หนังสือเวียน ก.พ. ,พ.ร.บ.ข้าราชการ ,มติ อกพ.ของหน่วยงาน,กฎระเบียบทางการปกครอง เป็นต้น 3.ปัจจัยที่จำเป็นในการผลักดัน(อันนี้สำคัญมากสำหรับเมืองไทย)คงเข้าใจ 4.ควรรับฟังทางด้านอื่นที่จะได้รับผลกระทบด้วย เพราะจะเกิดแรงต้าน ซึ่งข้อนี้ถ้าประสานกันได้จะเกิดประโยชน์กับระบบราชการรวมถึงข้าราชการและประเทศชาติ 5.ไม่ควรเปรียบเทียบว่าใครเก่งกว่าใครหรือผลตอบแทนด้านตัวเงินมาเปรียบเทียบกัน 6.พร้อมหรือยังถ้าพร้อมก็หาผู้นำ

ยินดีร่วมด้วยเป้นอย่างยิ่ง

ผมก็เหมือนกัน บรรจุโดยใช้วุฒิต่ำกว่าปริญญา ปัจจุบันเป็นชำนาญงาน(6 เดิม) จบ ป.ตรี สอบขึ้นบัญชี นักวิเคราะห์ กพ. ไม่มีที่รับโอน ที่หน่วยงานเดิมไม่มีตำแหน่งว่าง ตอนนี้ก็เรียนโท อยู่ครับ

อย่าคิดอะไรเลยครับ ทำเพื่อประเทศชาติ กินเงินเดือนจากภาษีของประชาชน อย่างทหาร จบ ม.6 สายวิทย์ แล้วมาเป็นนักเรียนทหารอีก 2 ปี ก็เทียบอนุปริญา บางคนรับราชการมา ยี่สิบกว่า ปี ก็ได้แค่จ่าทหาร ทั้ง ๆที่จบ ปริญญาตรี โท ผิดกลับข้าราชการพลเรือนที่เป็น ซี เป็น ซี2 ทำงาน 2 ปี ซี 3 อีก 2ปี ซี 4 อีก 3ปี ซี 5 7 ปี จากวุฒิ ซี2 ได้ซี 5 ก็เทียบเท่า พันตรี อย่าคิดมากเลยครับ ยิ่งเปลี่ยนเป็นระบบแท่งเิิงินเดือนก็ไหลแล้วถ้าเป็นซี 8 หรือผู้อำนวยการระดับต้น ก็จะมีเงินประจำตำแหน่งอีก แต่ทหารอย่างมากก็เกษียณแค่ ร้อยตรี