เห็นด้วยกับคุณ nokpakit เมื่อ 26 เมย.53 ที่ทำงานหนัก หากได้พนักงานราชการแบบนี้เป็นส่วนใหญ่ ราชการระบบใหม่คงทำให้ประเทศเจริญขึ้น ที่กระผมพบเห็นด้วยตนเองมีลักษณะคล้ายกัน เห็นเจ้านายบางท่านเรียกใช้พนักงานราชการในยามงาน ยามเที่ยว โดยใช้คำสั่งคุณต้องการต่ออายุหรือปล่าว คุณจะต้องการผ่านคัดเลือกหรือปล่าว แล้วต้องทำในสิ่งที่เจ้านายผู้นั้นต้องการ ทางกพร.ยังไม่ทราบว่าวิธีนี้เอื้อประโยชน์ให้โทษอย่างไรบ้าง และเกิดความวุ่นวายแทบทุกหน่วยงาน จากจำนวนเด็กฝากมีมากว่าจำนวนอัตราที่จะจ้าง เกิดปัญหาข้าราชการขัดแย้งเรื่องญาติใครได้ก่อน หากได้ก่อนก็มีความสำคัญกว่า ล้วนมีผลเสียด้านสัมพันธ์อันดีระหว่างข้าราชการ แล้วจะได้พนักงานราชการที่ดีและพนักงานราชการที่ดีจะอยู่ได้อย่างไร โดยเฉพาะพนักงานที่เป็นเพศหญิง ส่วนเพศชายก็มีอีกแบบ ได้รับการถูกดูแคลนจากเจ้านาย หรือเห็นว่าเป็นเด็กฝากหรือฝังไม่ทราบ ด้วยกระผมเคยคุยกับอาจารย์ที่ไปจากกพ. พบว่างานตรงนี้กพ.มีบุคคลากรน้อย ขาดงบ กระผมเห็นว่าหากกพ. จะดำเนินการเองจะเป็นสิ่งที่ดี เพราะทุกคนเชื่อมั่นกพ. ผู้ที่ได้รับการจ้างจะมีความภาคภูมิใจ ไม่ถูกดูแคลนถูกหยามได้ เหตุที่เกิดเป็นผลกรรมจากการใช้ระบบอุปถัมภ์ หากท่านไม่ดำเนินการแก้ไขปัญหา กำจัดระบบอุปถัมภ์ที่แฝงตัวให้หมดไป อาจทำให้ประสิทธิภาพของงานราชการลดลง อยากเห็นระบบคุณธรรมถูกนำไปใช้เป็นรูปธรรมมากกว่านี้ เห็นควรให้การสนับสนุนเพิ่มบุคลากรและงบประมาณในขบวนการสรรหาในส่วนพนักงานราชการให้กับกพ. ด้วย โดยให้กพ.นำร่อง และเลือกหน่วยงานที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ/ ด้านนโยบายระดับกรมและกระทรวงในส่วนกลาง เนื่องจากงานจุดนี้ต้องการพนักงานราชการที่มีความตั้งใจจริง เกร่ง มีไหวพริบ มีศักยภาพสามารถอุทิศตนให้กับทางราชการให้เหมาะสมกับค่าจ้าง อีกประการกระผมเห็นน้องที่ทำงานนั่งทำงานแบบหมดกำลังใจ เนื่องจากตนเองบรรจุเป็นข้าราชการตำแหน่งเศรษฐกร ทำงานมาหลายปี (8 ปี) เงินเดือนยังน้อยกว่าพนักงานราชการ เมื่อเปรียบเทียบการทุ่มเท ความรับผิดชอบ นักวิชาการต้องนั่งเขียนงานในที่ทำงานและเขียนที่บ้าน ต้องรับผิดชอบนำเสนอแนะแก้ไขงานเสนอต่อผู้บังคับบัญชา เนื่องจากเป็นงานที่มีความสำคัญทางนโยบายของภาครัฐ โดยต้องใช้วิชาการทางเศรษฐศาสตร์มาวิเคราะห์ ทำโมเดล แต่พนักงานราชการที่เป็นผู้ช่วยกลับมีวุฒิอื่น(จัดการทั่วไป นิเทศ จิตวิทยา ทำนองนี้) และได้ยืนเสียงบ่นจากพนักงานราชการอีกว่าตนเองไม่มีความสำคัญ ไม่มั่นคง จะเอาอะไรกับงานของพนักงานราชการ ซ้ำร้ายไปกันใหญ่แล้วคร๊าบ ท่านกพร.จะทราบมั้ยเนียะ (กระผมมีลูกหลานหลายคนแต่ไม่ต้องการใช้วิธีนี้ เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีเห็นแล้วกระผมไม่ปลื้มหากลูกหลานต้องตกชะตากรรมแบบนี้ จึงต้องสอนลูกหลานให้หัดพึ่งตนเอง เรียนให้เก่ง(เกียรตินิยมยิ่งดี)แต่ไม่บังคับ แล้วกระผมมีรางวัลงามมากๆ ลูกได้เกียรตินิยมจริงส่วนของหลานก็แชร์ญาติลงขัน ก็ดาวส์รถให้สองคนแล้ว ซึ่งหลานเหล่านี้ได้งานดีเช่น เครือซีเมนต์ ปตท. เป็นต้น กระผมภูมิใจในครอบครัวของผมมาก แถมสิ้นเดือนแบ่งเงินให้กระผมอีก นับว่าเป็นตัวอย่างที่พอใช้ได้) และกระผมคิดว่าลูกหลานคนนี้ต้องภาคภูมิใจตัวเอง ที่ไม่ถูกมองว่าเป็นเด็กฝาก
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และพิจารณาหามาตรการกำจัดระบบอุปถัมภ์เพื่อให้ได้คนดีคนเก่ง ลดการขัดแย้งในองค์กร และให้โอกาสแก่บัณฑิตที่ไม่มีญาติฝากฝังได้เข้ามาทำงานช่วยให้ชาติเจริญขึ้นต่อไปด้วย (ขอโทษอย่างสูงที่มีน้ำมากไปหน่อย ขอระบายให้ท่านได้ทราบบ้างก็พอ) ไม่ทราบว่าท่าน กพร.มีความคิดเห็นกับความคิดกระผมอย่างไรบ้าง ขอบคุณครับ |