เรียน ท่านอธิบดีกรมการปกครอง
เนื่องด้วยดิฉันใช้บริการที่ว่าการอำเภอบางสะพาน และปัญหาก็เกิดขึ้นจากเจ้าหน้าที่ที่อำเภอ เริ่มด้วยจากการที่ดิฉันได้ไปจดทะเบียนสมรสที่ว่าการอำเภอบางสะพาน เนื่องจากเป็นบ้านเกิด และเมื่อจดทะเบียนสมรสเสร็จ ก็ได้เดินทางกลับไปยังจังหวัดที่ทำงานอยู่ แต่เมื่อดิฉันได้ไปดำเนินเรื่องในการทำบัตรประจำตัวประชาชนใหม่ เริ่มจากที่เจ้าหน้าที่อำเภอขอใบเปลี่ยนชื่อสกุล เนื่องจากใช้นามสกุลสามี แต่ดิฉันไม่มีจึงบอกเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่อำเภอบอกว่า ต้องมีใบนี้เป็นหลักฐานการเปลี่ยนชื่อสกุล จึงจะทำได้และจะออกให้ตอนจดทะเบียนสมรส และไม่สามารถ ออกแทนให้ได้ ต้องให้ไปขอที่อำเภอที่จดทะเบียน ดิฉันก็ได้โทรกลับไปที่ว่าการอำเภอบางสะพาน เพื่อสอบถาม และเจ้าหน้าที่ก็ยืนยันว่าสามารถออกหนังสือให้ได้แต่ต้องมาติดต่อด้วยตัวเอง รุ่งขึ้นดิฉันและสามีจึงเดินทางกลับไปยังอำเภอบางสะพานเพื่อขอรับเอกสารการเปลี่ยนชื่อสกุล แต่เมื่อไปติดต่อเจ้าหน้าบอกว่าหนังสือฉบับนี้ไม่สามารถออกย้อนหลังได้ ดิฉันจึงถามว่าแล้วจะทำยังงัยได้บ้าง เจ้าหน้าที่ก็เงียบและให้รอ เวลาผ่านไปเกือบ 2 ชั่วโมง แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า ดิฉันจึงไปทำธุระที่อื่นต่อ เมื่อกลับมาตอนบ่ายดิฉันก็ได้รับคำตอบเดิมว่าทำไม่ได้ แต่ก็ไม่คิดที่จะหาทางแก้ไข มันเป็นความผิดของดิฉันหรือค่ะที่ไม่ทราบว่าตอนจดทะเบียนสมรสเสร็จจะต้องได้รับเอกสารอะไรบ้าง ถ้าดิฉันไม่ได้ทำงานราชการ เอกสารเหล่านี้ก็คงไม่จำเป็นและไม่ต้องใช้ ทะเบียนสมรสก็เป็นแค่เศษดาษใบเดียว และยิ่งเมื่อน้องเจ้าหน้าที่นำเรื่องไปปรึกษากับ นายอานนท์ กิตยากาญจน์กุล ก็ได้คำตอบว่า เมื่อก่อนไม่เห็นต้องใช้ ดิฉันจึงตอบว่า ถ้าไม่จำเป็นดิฉันก็คงไม่มาขอ แค่จะทำบัตรประชาชนยังทำไม่ได้เลย นายอานนท์คนเดิมเกิดอาการไม่พอใจ และรีบปัดความรับผิดชอบว่าไม่รู้ไม่ใช่หน้าที่ของตน ซึ่งคำพูดนี้คนที่ได้ยินจะรู้สึกไม่ดี แต่ปลัดอำเภอได้ช่วยโทรถามข้อมูลที่ส่วนกลาง และขั้นสุดท้ายที่ได้ข้อสรุปก็คือ ดิฉันต้องจดทะเบียนหย่า
ทั้งหมดนี่เป็นความผิดของดิฉันและสามีหรือคะ? ดิฉันต้องจดทะเบียนหย่า พร้อมทั้งต้องย้ายทะเบียนบ้านกลับมาที่อำเภอทางปลายทาง ทั้งที่ดิฉันเพิ่งย้ายชื่อออก และเจ้าที่บ้านที่ต่างจังหวัดได้เพียงวันเดียว และมาจดทะเบียนกันใหม่เพื่อที่จะได้ใบเปลี่ยนชื่อสกุล รวมเวลาวันเต็มๆ ที่ต้องมาแก้ปัญหาที่ไม่รู้ว่าใครก่อ
และขอฝากหน่อยนะคะ ก่อนการทำงานช่วยพกสติติดตัวมาด้วย ไม่ใช่เช้าชามเย็นชาม ซึ่งประโยคคำพูดนี้ดิฉันเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ดิฉันไปติดต่อประสานงานตั้งแต่ยังไม่ 9.00 น. แต่เวลาผ่านไปเลย 9.00 น. เจ้าหน้าที่ยังไม่พร้อมทำงาน นั่งกระดิกปลายเท้า บางคนยังมาไม่ถึงบ้าง หมายเลข 1 ก็ยังต้องนั่งรอ ซึ่งถ้าเป็นหน่วยงานอื่น ทำงาน 8.00น.ลงชื่อเวลาทำงานตรงเวลา ไม่ทันถึงเวลาพักก็ใช้เวลาหุงข้าวบ้าง นั่งจิบกาแฟบ้างซึ่งมันเป็นภาพพจน์ที่ไม่ดี ผู้รับบริการนั่งมองกันตาปริบๆ
ท่านคิดว่าควรปรับปรุงได้หรือยัง?
|