รายการหรือช่องโทรทัศน์ที่ดีที่สุดมาแล้ว
.
ดร.โสภณ พรโชคชัย*
.
ทุกวันนี้เราดูข่าวหรือรายการการเมืองในสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง จะเห็นความไม่เป็นกลางในการนำเสนอข่าวหรือรายการ ประชาชนต้องถูกยัดเยียดให้ดูรายการที่มีลักษณะมอมเมา ขาดความรอบด้าน และขาดสีสันเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ผมจึงขอเสนอทางเลือกใหม่
.
ถ้าเราเปิดรายการวิเคราะห์การเมืองของช่องโทรทัศน์ของ พี่น้องเสื้อเหลือง หรือ พี่น้องเสื้อแดง เราก็มักพบแต่การพูดกันอยู่ข้างเดียวเป็นหลัก อาจจะพูดอยู่คนเดียว หรือมาช่วยกันพูดเป็นหมู่คณะ แต่ ก็เป็นการพูดอยู่ข้างเดียวอยู่ดี ไม่มีการนำเสนอความเห็นที่แตกต่างเลย
.
สำหรับรายการของสถานีโทรทัศน์ของรัฐ ก็มักจะเชิญคนที่เป็นพวกของตนมาช่วยพูดให้ฝ่ายตนดูดี หรืออาจเชิญคนที่ดูเป็นกลาง แต่แท้จริงแล้วเป็นคนของรัฐบาลมาพูดเป็นสำคัญ ยิ่งช่วงนี้ มีกระแสข่าวการชุมนุมใหญ่ของ พี่น้องเสื้อแดง รายการโทรทัศน์ของรัฐบาลก็ยิ่งเชิญ คนกลาง ทั้งที่เป็นฆราวาสหรือนักบวชที่คลุมด้วยผ้าขาว (เป็นกลาง) แต่ตัวจริงกลับกลายเป็น พี่น้องเสื้อเหลือง มาออกรายการถล่ม พี่น้องเสื้อแดง กันยกใหญ่ คราวรัฐบาลก่อนหน้านี้ก็มีลักษณะคล้ายกัน
.
ผมจึงขอเสนอให้มีโทรทัศน์ช่องใหม่ หรือรายการโทรทัศน์ใหม่ ที่เปิดโอกาสให้มีการถกเถียงกันอย่างแท้จริง กล่าวคือใน 24 ชั่วโมง จะมีการถกเถียงกันในประเด็นต่าง ๆ 6-8 ประเด็น ๆ ละ 3-4 ชั่วโมงไปเลย เอาให้หายอยากไปเลย หรือถ้าจัดไม่ได้ตลอดวัน ก็อย่างน้อยวันละ 1-2 ประเด็น โดยจัดทุกวัน จัดช่วง Prime Time ไปเลย
.
ประเด็นที่ถกเถียงกันก็คือประเด็นร่วมสมัย หรือประเด็นที่ถกเถียงกันอยู่ตาม สภากาแฟ ต่าง ๆ เช่น:
.
ทัศนะต่อประเทศไทย ได้แก่ ประชาธิปไตยเหมาะสมกับประเทศไทยไหม เราจะเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างไรจึงเหมาะสม ประเทศไทยในสายตาสากล
.
ทัศนะต่อ พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร ได้แก่ ทักษิณโกงชาติจริงหรือ ทักษิณขายชาติจริงหรือ เห็นอย่างไรกับกรณีที่ดินรัชดาฯ การไล่ล่าทักษิณในระดับสากล ฯลฯ
.
ทัศนะต่อกรณีไฟใต้ ได้แก่ คนมุสลิมใต้จะแบ่งแยกดินแดนจริงหรือ ไหนว่าทักษิณไปไฟใต้สงบ ทหารเลี้ยงโจรใต้จริงหรือ สัมภาษณ์แกนนำโจรใต้โต้กับแกนนำฝ่ายปราบปราม ฯลฯ
.
ทัศนะต่อเหตุการณ์ร่วมสมัย ได้แก่ สันติวิธีที่แท้เป็นอย่างไร ทำอย่างไรให้ม็อบไม่รุนแรง ชาวบ้านถูกจ้างมาม็อบจริงหรือไม่ เขาพระวิหา หัวใจสำคัญของการจัดทำรายการหรือโทรทัศน์ช่องใหม่นี้ก็คือ การเชิญบุคคลที่เห็นต่างกันสองขั้วมาคุยกัน ไม่จำเป็นต้องประจันหน้ากัน เพราะอาจจะเสี่ยงต่อการมีเรื่องวิวาทหรือถึงขั้นชกต่อยกันได้ อาจถ่ายทอดสัญญาณสดจากสถานที่ 3 แห่ง คือจากสถานีและจากคู่ถกเถียงทั้งสองฝ่าย
.
ลักษณะของรายการก็คือให้โฆษกป้อนคำถาม และให้แต่ละฝ่ายพูดกันคนละไม่เกิน 10 นาที เท่าเทียมกัน ไม่มีการแย่งกันพูด แล้วให้โฆษกสรุปพร้อมป้อนคำถามเพิ่มเติมอีก 2 นาที ดำเนินรายการโดยใช้เวลา 3-4 ชั่วโมงต่อประเด็น
.
ที่ผ่านมา อาจมีบางท่านบอกว่ามีเคยมีรายการเช่นนี้แล้ว แต่เชื่อว่ายังดำเนินการไม่เป็นกลางจริง บ้างก็อาจแก้ว่า ที่ผ่านมาทั้ง ASTV และ People Station ต่างก็บอกว่ายินดีและได้เชิญฝ่ายตรงข้ามแล้ว แต่ไม่มีใครมาออกอากาศ ผมอยากบอกว่านั่นคงเป็นเพียงการเชิญในรูปแบบ-พิธีการเท่านั้น และคงไม่มีใครมาหากมาแล้วถูกรุม เป็นต้น
.
สำหรับคู่ถกเถียงหรือมองต่างมุมนี้อาจเป็นบุคคล หรือเป็นกลุ่มบุคคลก็ได้ แต่มีการ เปรียบมวย กันให้ชัดเจน คู่ที่ควรเชิญให้ถกเถียงกัน ได้แก่:
.
รัฐมนตรี: นายกษิต ภิรมย์ กับ นายนพดล ปัทมะ
ทหาร: พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ กับ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล
นักการเมือง: นายสนธิ ลิ้มทองกุล กับ นายจาตุรนต์ ฉายแสง
นักบวช: พระมหาวุฒิชัย (ว.วชิรเมธี) กับ พระราชธรรมนิเทศ (พระพยอม กัลยาโณ)
นักกิจกรรม: นายสุริยใส กตศิลา กับ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ (หนูหริ่ง)
นักวิชาการ: รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร กับ รศ.ดร.สุรชาติ บำรุงสุข
ผู้หญิงการเมือง: น.ส.อัญชลี ไพรีรักษ์ กับ น.ส.ศุภรัตน์ นาคบุญนำ
ไฮโซ: นางปราไพ ปราสาททองโอสภ (PAD Lady) กับ นางดารณี กฤตบุญญาลัย (ไฮโซ เสื้อแดง)
กวี: นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ กับ นายวิสา คัญทัพ
นักร้อง: นายกุลศักดิ์ เรืองคงเกียรติ (จิ้น กรรมาชน) กับ นายศักดิ์สิทธิ์ เชื้อกลาง (เศก ศักดิ์สิทธิ์)
ฯลฯ
.
ผมเชื่อว่ารายการหรือช่องโทรทัศน์ที่ดำเนินการเช่นนี้ จะทำให้ช่องโทรทัศน์ของแต่ละฝ่ายที่ดำเนินการแบบ ปิดตาข้างเดียว หรือ ปิดฟ้าด้วยฝ่ามือ และมีลักษณะยั่วยุ ปลุกระดม มอมเมา จะฝ่อลงไปในทันที เพราะประชาชนจะเลือกชมรายการ ประเทืองปัญญา ที่มองรอบด้านมากกว่าจะมองข้างเดียว รายการเช่นนี้จะมีอัตราการเข้าชมสูงขึ้นกลายเป็นสิ่งที่ผู้คนในยุคนี้จะเข้ามาร่วมชมอย่างล้นหลาม
.
รายการโทรทัศน์เด็นการถกเถียงล่วงหน้าเป็นวันหรือเป็นสัปดาห์ เพื่อให้ผู้สนใจคอยติดตามในประเด็นถกเถียงที่น่าสนใจ
.
ผมเชื่อว่าถ้าจัดรายการอย่างเป็นกลางได้เช่นนี้จริง ประกบคู่ได้เหมาะสม มีประเด็นถกเถียงที่ดีจริง จะมีคนฟังล้นหลาม สามารถหาโฆษณาให้รายการหรือช่องสถานีโทรทัศน์อยู่รอดได้แน่นอน การดำเนินรายการก็ไม่จำเป็นต้องตัดเข้าโฆษณา แต่อาจเป็นตัววิ่ง หรือป้ายโฆษณาสินค้าดูด้านใต้หรือด้านข้างตลอดเวลาก็ยังได้
.
รายการหรือช่องโทรทัศน์อย่างนี้อาจตั้งชื่อว่า ประชาชนตัดสิน หรือ ผู้ชมตรองเอาเอง ชาวบ้านรู้แจ้ง ไม่มืดบอด ตาสว่าง ฯลฯ
.
หากผู้ที่ได้รับเชิญมาออกรายการตอบไม่ดี ไม่ชัดเจน ชาวบ้านหรือประชาชนทั่วไปก็จะเห็นเอง ใครพูดจาเกะกะระรานหรือ ดำน้ำ เล่นลิ้น ก็จะแพ้ภัยตัวเองไปในที่สุด ดังนั้นผมเชื่อว่าผู้ที่ได้รับเชิญจะรู้สึกเป็นเกียรติมาก และจะมีผู้ยินดีให้รับเชิญเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
.
รายการนี้จะช่วยสร้างชาติอย่างแท้จริง ก่อให้เกิดภาวะ สังคมอุดมปัญญา เพราะได้ฟังอย่างรอบด้านและส่งเสริมให้ประชาชนตัดสินจากข้อมูล ข่าวสาร เหตุผล ไม่ใช่จากความเชื่อหรือการบอกต่อ ๆ กันไปแบบข่าวลือ เป็นต้น รายการนี้จะเป็นการช่วยส่งเสริมระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เป็นการให้การศึกษาประชาชนที่เป็นกลางและเป็นธรรม
.
ช่วยกันจัดรายการหรือช่องโทรทัศน์แบบนี้ให้เกิดขึ้นโดยด่วนครับ
.
.
ดร.โสภณ พรโชคชัย
URL: http://www.csr.igetweb.com Email: thaiappraisal@gmail.com |