ข่าวเด่น
ผนึกกำลังภาครัฐต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นในส่วนราชการสำนักงาน ก.พ.ร. จัดงาน เปิดตัวศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต (ศปท.) อย่างเป็นทางการ
เมื่อวันพุธที่ 24 กรกฎาคม ที่ผ่านมา นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานในการประชุมสัมมนาเรื่อง “แนวทางการดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต” ซึ่งสำนักงาน ก.พ.ร. จัดขึ้น ณ ห้องกมลทิพย์ 2 ชั้น 2 โรงแรม เดอะสุโกศล กรุงเทพมหานคร โดยรองนายกฯ ได้กล่าวระหว่างการเปิดการประชุมว่า “ปัญหาการการทุจริตคอร์รัปชั่น เป็นปัญหาหนึ่งที่มีการสั่งสมมายาวนาน โดยเกิดจากตัวบุคคลและระบบ ซึ่งส่งผลเสียต่อการพัฒนาประเทศมาโดยตลอด การตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต มาจากแนวคิดการดำเนินงานของส่วนราชการให้มีความโปร่งใส เนื่องจากส่วนราชการจะทราบดี ว่าหน่วยงานของตนเองมีปัญหาในด้านใด ทั้งที่เห็นว่าประชาชนควรมีส่วนร่วมในการตรวจสอบได้ด้วย เพราะในสังคมประชาธิปไตยนั้น คนที่ดูแลผลประโยชน์ได้ดีที่สุดคือประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย 60 ล้านคน เพราะคนเหล่านี้จะรักษาผลประโยชน์ของตัวเองได้ดีที่สุด เนื่องจากไม่มีอำนาจใดเข้ามาแทรกแซง”
นายพงศ์เทพฯ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า “การเปิดตัวศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตอย่างเป็นทางการในวันนี้ แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลต้องการสร้างความเข้มแข็งในการต่อต้านการทุจริต และเน้นย้ำที่จะขจัดการทุจริตคอร์รัปชั่นในภาครัฐอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ซึ่งหากรัฐบาลสามารถแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นได้ ก็จะช่วยประหยัดงบประมาณประเทศได้ไม่ต่ำกว่าปีละ 10 – 15 % จึงขอฝากให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา เมื่อพบเห็นการทุจริตคอร์รัปชั่น สามารถส่งเรื่องร้องเรียนมาได้ตามช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเว็บไซต์ สายด่วนหรือจดหมาย ตอนนี้เรามี ศปท. ที่จะเข้ามาช่วยดูแลประสานงานเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตต่างๆ ในส่วนราชการ ทางภาครัฐเองก็จะเร่งดำเนินการให้ปัญหาคอร์รัปชั่นหมดไปจากประเทศไทยให้ได้”
ด้าน ศาสตราจารย์ พิเศษ ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ ก.พ.ร. ได้บรรยายในหัวข้อ “แนวทางการดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต” ว่า “เมื่อรัฐบาลได้ประกาศให้การต่อต้านการทุจริตในภาครัฐเป็นนโยบายเร่งด่วน ที่ต้องเร่งดำเนินการให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนแล้ว คณะรัฐมนตรีในการประชุมเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2555 ได้มีมติเห็นชอบยุทธศาสตร์และแผนงานเชิงรุกของรัฐบาลในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งรวมถึงการจัดตั้ง ศปท. นอกจากนั้นนายกรัฐมนตรียังได้มอบนโยบายในการพัฒนาองค์การเพื่อสร้างความโปร่งใสในการปฏิบัติราชการให้แก่ส่วนราชการเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2555
ต่อมา ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2555 ได้มีมติเห็นชอบตามที่สำนักงาน ก.พ.ร เสนอ ให้จัดตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต” หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า ศปท. ในสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานปลัดกระทรวงทุกกระทรวง ส่วนราชการที่อยู่ในบังคับบัญชาขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี และส่วนราชการที่ไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง หรือทบวงทุกส่วนราชการ จำนวนรวม 35 ส่วนราชการ โดยให้เป็นส่วนราชการตามมาตรา 31 วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยกำหนดไว้ในกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการของส่วนราชการนั้นๆ และให้รองหัวหน้าส่วนราชการทำหน้าที่เป็นหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตอีกตำแหน่งหนึ่งทั้งนี้ ศปท. จะมีภารกิจในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น และการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมข้าราชการไปพร้อมๆกัน อันเป็นการบูรณาการงานต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นกับงานคุ้มครองจริยธรรม
โดยในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ ได้มีการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเปิดสายด่วนรับเรื่องร้องเรียน 1206 การจัดทำเว็บไซต์ www.stopcorruption.go.th การติดตั้งตู้รับร้องเรียนทุจริตทั่วประเทศ และการดำเนินการโครงการสร้างความโปร่งใสในการปฏิบัติราชการ (1 กรม 1 ป้องกันโกง) รวมถึงการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต (ศปท.) ในส่วนราชการ
ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต (ศปท.) เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการป้องกันและปราบปรามการทุจริตให้เกิดขึ้นอย่างจริงจังในภาคราชการของประเทศไทย เพื่อพัฒนาระบบราชการให้เกิดความโปร่งใสและเป็นที่ยอมรับของนานาชาติ โดย ศปท. จะมีภารกิจ ดังนี้
• ติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตของหน่วยงานในสังกัด
• วางแผนและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบของกระทรวง
• สอบทาน ปรับปรุงระบบการป้องกันและแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นที่เกิดขึ้นจากระบบงานและตัวบุคคล
• สร้างความตระหนักและส่งเสริมให้ข้าราชการปฏิบัติตามประมวลจริยธรรม
• ประสานงาน เร่งรัด และติดตามการจัดการเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต
“ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต จะสอดส่องดูแลการบริหารงานต่อต้านการทุจริตภายในกระทรวง ส่วนราชการ และจัดทำรายงานผลการดำเนินงาน รวมถึงข้อมูล สถิติ เกี่ยวกับเรื่องร้องเรียน ส่งไปยัง Anti-Corruption War Room ของนายกรัฐมนตรีโดยตรง และจะมีการแต่งตั้ง ที่ปรึกษาพิเศษคณะกรรมการ ป.ป.ท. ซึ่งรายงานตรงไปยัง PMOC ของนายกรัฐมนตรี และในระยะต่อไป จะมีการแต่งตั้งห้วหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง กรม เป็นที่ปรึกษาพิเศษคณะกรรมการ ปปท. (Chief Anti-Corruption Officer) เพื่อต่อต้านการทุจริตในส่วนราชการด้วย” เลขาธิการ ก.พ.ร. กล่าวสรุป
หลังจากนั้น ได้มีการบรรยายพิเศษเรื่อง “แนวทางการสร้างความโปร่งใสในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของทางราชการ” โดย ผอ.พรวิลัย เดชอมรชัย ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ กรมบัญชีกลางซึ่งได้เน้นในหลักการ “โปร่งใส ตรวจสอบได้ มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม”
และในช่วงท้ายการประชุมสัมมนา ได้มีการระดมความคิดเห็นในเรื่อง “แนวทางการดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต (ศปท.)” โดย ผศ.ปัณรส มาลากุล ณ อยุธยา เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งหัวหน้า ศปท. และผู้แทนส่วนราชการรวมถึงผู้แทนภาคประชาชน ได้เสนอแนะและแลกเปลี่ยนรวมถึงซักถามเกี่ยวกับการดำเนินการของ ศปท. ซึ่งจะนำไปสู่การปรับปรุงแนวทางการดำเนินงานของ ศปท. ต่อไป
กลุ่มสื่อสารฯ (สลธ.) / ข่าว & ภาพ
นฤมล (สลธ.) / รายงาน
กลุ่มสื่อสารฯ / จัดทำ
