เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 2558 เวลา 13.00 น. สำนักงาน ก.พ.ร. ได้จัดให้มีการการประชุมเพื่อชี้แจงผลการอันดับความยาก-ง่าย ในการประกอบธุรกิจของประเทศไทยตามรายงาน Doing Business 2016 ของธนาคารโลก โดยมีนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานในการประชุม พร้อมทั้งนายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ เลขาธิการ ก.พ.ร. ได้กล่าวชี้แจงผลการอันดับความยาก-ง่าย ในการประกอบธุรกิจของประเทศไทยตามรายงาน Doing Business 2016 ณ โรงแรม เดอะสุโกศล กรุงเทพฯ
ในการประชุมนั้นมีวัตถุประสงค์ให้ทั้ง 4 ภาคส่วนไม่ว่าจะเป็น ธนาคารโลก(World Bank) ภาครัฐ (Public Sector) ภาคเอกชน (Private Sector) และผู้ตอบแบบสำรวจและผู้รับบริการ (Law Firm) มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลและความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงบริการตามรายงานผลการอันดับความยาก-ง่าย ในการประกอบธุรกิจของประเทศไทยตามรายงาน Doing Business ในประเด็นสำคัญต่างๆ โดยในส่วนของธนาคารโลกเป็นประเด็นที่เกี่ยวกับการกำหนดเกณฑ์การวัดการสร้างความชัดเจนเกี่ยวกับแนวทางการวัดและแนวทางการปฏิบัติที่ดีเพื่อให้เกิดการปฏิรูปที่เกิดผลสัมฤทธิ์ ส่วนภาครัฐในฐานะผู้ให้บริการ จะได้รับทราบปัญหาและความต้องการของผู้รับบริการ นำไปสู่การปรับปรุงประสิทธิภาพการบริการ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สำหรับภาคเอกชน ในฐานะผู้รับบริการ ได้สะท้อนข้อเท็จจริง ปัญหาอุปสรรคต่างๆ จากการให้บริการของ
ภาครัฐ และผู้ตอบแบบสำรวจและผู้รับบริการ จะได้สะท้อนข้อเท็จจริง และรับทราบผลการดำเนินงานของภาครัฐ
นายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ เลขาธิการ ก.พ.ร. ได้กล่าวว่า ธนาคารโลกได้มีการปรับค่าคะแนนที่ประเมินในปีนี้ จึงทำให้อันดับถดถอยลงไปซึ่งทางรัฐบาลเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ สิ่งเหล่านี้สามารถนำมาเป็นภาพสะท้อนในการอำนวยความสะดวกกับภาคธุรกิจภาคเอกชนได้ดี โดยสิ่งที่ควรให้ความสำคัญหลักก็คือ การนำเกณฑ์พิจารณาของธนาคารโลกมาเป็นแรงในการผลักดันการปรับปรุงการทำงานของภาคราชการ โดยมีเป้าหมายคือการบริการประชาชน สำหรับในปีถัดไป ถ้าหากมีการปรับปรุงแล้ว ผลการประเมินจะดีขึ้นนั่นถือเป็นผลดีและผลพลอยได้
โดยที่ผ่านมาภาครัฐและภาคเอกชนได้ให้ความร่วมมือในการปรับปรุงกันมาอย่างต่อเนื่อง และทางธนาคารโลกนั้นได้ก็มีการปรับเกณฑ์ วิธีการประเมิน และการปรับปรุงตลอดเวลาเพื่อให้สอดคล้องกับการเจริญเติบโตของภาคเศรษฐกิจของโลก ดังนั้นสิ่งที่ขาดอยู่คือการทำความเข้าใจร่วมกันอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเรื่องกฎหมาย และเรื่อง
การบริหารจัดการ ภาครัฐจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ภาคเอกชนได้อย่างไร สิ่งใดบ้างที่ต้องแก้ไข ปรับปรุง เวทีนี้จึงเป็นการหารือเพื่อสร้างความเข้าใจให้ตรงกัน
นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงพาณิชย์ ได้กล่าวว่า ขีดความสามารถของการแข่งขันของประเทศนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ รัฐบาลชุดนี้นั้นก็พยายามที่จะผลักดันเรื่องของการแข่งขันในทศวรรษนี้โดยมีความพยายามดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศในกลุ่มใหม่ๆ โดยประเด็นหลักที่ควรเน้น คือ การทำทุกอย่างให้เป็นเรื่องง่าย เพื่อให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาประกอบกิจการได้สะดวก ซึ่งในขณะนี้นี้ประเทศไทยได้มีการนำ Doing Business มาเป็นตัววัดเปรียบเทียบว่าจะทำอย่างไรให้ประเทศไทยติดอันดับ 1 ใน 5 ได้ เพราะถ้าหากไม่สามารถทำให้นักลงทุนเกิดการยอมรับ และมีความต้องการทำธุรกรรมกับประเทศไทยในทิศทางที่ดี โอกาสที่เราจะสามารถปฏิรูปประเทศไทยก็คงจะเป็นไปได้ยาก ซึ่งในส่วนของธนาคารโลกมีการเปลี่ยนมิติตัววัดในเชิงคุณภาพมากขึ้น Doing Business จึงเป็นหัวใจสำคัญของการปฏิรูประบบราชการ ซึ่งการปฏิรูปที่ว่านี้คือการตอบโจทย์ภาคประชาชน และภาคเอกชน ในเรื่องของประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ความโปร่งใส และ ความรับผิดชอบ ดังนั้นการประชุมในวันนี้ถือเป็นมิติที่ดีที่ทั้ง 4 ภาคส่วนได้มาพบปะกัน และมาทำความเข้าใจร่วมกัน เพื่อทำให้ประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น