ข่าวเด่น

         การประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ 8 กันยายน 2558 ซึ่งมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ณ ห้องประชุม 501
ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ได้พิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสำนักงาน ก.พ.ร. คือ เรื่อง ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญ
แห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง การปฏิรูปองค์การมหาชน)

        สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้แจ้งมติคณะรัฐมนตรีเรื่องดังกล่าวให้สำนักงาน ก.พ.ร. ทราบแล้ว ตามหนังสือ สลค. ด่วนที่สุด ที่ นร 0505/31047 ลง
วันที่ 8 กันยายน 2558 โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

        ด้วยสภาปฏิรูปแห่งชาติได้เสนอผลการพิจารณาศึกษารายงานข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เรื่อง การปฏิรูปองค์การมหาชน) ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี

        คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2558 รับทราบข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปตามมาตรา 31 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว)
พุทธศักราช 2557 เรื่อง การปฏิรูปองค์การมหาชน และมอบหมายให้สำนักงาน ก.พ.ร. เป็นหน่วยงานหลักไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงกลาโหม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงแรงงาน กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอดังกล่าวและสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป

         อนึ่ง ผลการพิจารณาศึกษารายงาน เรื่อง การปฏิรูปองค์การมหาชน ที่สภาปฏิรูปแห่งชาติเสนอคณะรัฐมนตรี มีสาระสำคัญ ดังนี้

         1. เหตุผลและความจำเป็นที่ต้องปฏิรูป
              การดำเนินงานขององค์การมหาชนในช่วงกว่าทศวรรษที่ผ่านมา มีหลักฐานเป็นที่ประจักษ์ว่ามีข้อจำกัดหลายประการ ทั้งด้านโครงสร้าง การบริหารงานภายใน การจัดบริหารสาธารณะ การกำหนดบทบาทภารกิจที่เหมาะสม โดยเฉพาะประเด็นเรื่องค่าใช้จ่ายขององค์การมหาชนที่เกี่ยวกับเงินเดือน และประโยชน์ตอบแทนอื่นของผู้บริหาร นอกจากนี้การดำเนินงานขององค์การมหาชนบางแห่งมีแนวทางการดำเนินงานคล้ายคลึงส่วนราชการแต่มีการใช้จ่ายด้านบุคลากรและการดำเนินงานในอัตราที่สูงและมีลักษณะไม่ประหยัด จึงควรมีการทบทวนพิจารณาภารกิจ โครงสร้างองค์กร ประเมินผลการดำเนินงาน และการใช้งบประมาณ เพื่อพิจารณาปรับปรุงให้เหมาะสมกับสภาพการณ์เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งอาจพิจารณายุบเลิกหน่วยงานที่ผลการดำเนินไม่บรรลุวัตถุประสงค์ ไม่คุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการดำเนินงาน หรือหมดความจำเป็น

         2. สิ่งที่ประชาชนจะได้รับหรือความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นจากการปฏิรูป
             เมื่อการปฏิรูปองค์การมหาชนได้ดำเนินการครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว จะทำให้ส่วนราชการมีขนาดลดลงทั้งด้านจำนวนองค์กรและบุคลากร เพราะได้ถ่ายโอนภารกิจเชิงปฏิบัติให้องค์การมหาชนดำเนินการ สามารถแยกบทบาทการกำกับดูแลการจัดทำบริการสาธารณะที่ชัดเจน มีการกำหนดมาตรฐานบริการสาธารณะและมีระบบติดตามประเมินผลที่เป็นรูปธรรม อันเป็นการสร้างความพึงพอใจแก่ประชาชนผู้รับบริการต่อบริการสาธารณะที่ดำเนินการโดยองค์การมหาชน

         3. กรอบระยะเวลาที่ชัดเจนในการปฏิรูป
             ในประเด็นหรือขั้นตอนการดำเนินการของวาระปฏิรูปเรื่องนี้จะชัดเจนขึ้น เมื่อสภาปฏิรูปแห่งชาติมีมติเห็นชอบให้ส่งรายงานการศึกษาให้กับคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาและดำเนินการขับเคลื่อนตามข้อเสนอการดำเนินการตามกรอบระยะเวลา ต่อไป

ข้อมูลจากหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
ด่วนที่สุด ที่ นร 0505/31047 ลว. 8 กันยายน 2558
ภัทรพร (สลธ.)/รายงาน
กลุ่มสื่อสารฯ /จัดทำ