Logo of OPDC ก.พ.ร. FAQ สำหรับการค้นหา  |  ภาษาไทย   |   English   |   Mobile   |   Help   |  

หน้าหลัก หน้าหลัก | ติดต่อ | ผังเว็บไซต์ |  หน้าหลัก
Share แชร์ พิมพ์หน้านี้  

ข่าวเด่น


สรุปผลการประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2558 เรื่องการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2556-2560)

          คณะรัฐมนตรีในการประชุมเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2558 ซึ่งมีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน)
ทำเนียบรัฐบาล ได้พิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสำนักงาน ก.พ.ร. คือ การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 2
(พ.ศ. 2556 - 2560) ไปสู่การปฏิบัติ


          สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้แจ้งมติคณะรัฐมนตรีเรื่องดังกล่าวให้สำนักงาน ก.พ.ร. ทราบแล้ว ตามหนังสือ สลค. ด่วนที่สุด ที่ นร 0505/ว48 ลง
วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2558 โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

          คณะรัฐมนตรีได้ประชุมปรึกษาเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2558 ลงมติเห็นชอบให้หน่วยงานภาครัฐแปลงแนวทางและมาตรการตามยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2556 - 2560) สู่การปฏิบัติ โดยกำหนดไว้ในแผนปฏิบัติราชการ 4 ปี และแผนปฏิบัติราชการประจำปี โดยให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงาน ก.พ. และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นหน่วยงานหลักในการสนับสนุนการขับเคลื่อน ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเสนอ ทั้งนี้ ให้สำนักงาน ก.พ.ร. รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และของประธานคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

           ความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ มีดังนี้

           1. รณรงค์ปลูกฝังค่านิยมในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นทั้งในระดับบุคคลจนถึงระดับองค์กร โดยให้สำนักงาน ป.ป.ช. เป็นหน่วยงานหลัก ร่วมกับสำนักงาน
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ปปท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะในระดับท้องถิ่น ดำเนินการขับเคลื่อนและปลูกฝังค่านิยมดังกล่าวอย่างจริงจังและต่อเนื่อง

           2. ให้ความสำคัญกับการกำหนดตัวชี้วัดการประเมินผลการดำเนินการตามแผนปฏิบัติราชการ 4 ปี และแผนปฏิบัติราชการประจำปีให้สอดคล้องและสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายหลักตามที่กำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติฯ ระยะที่ 2

           ความเห็นของประธานคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ พิจารณาแล้วเห็นชอบในหลักการตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) เสนอ แต่เพื่อให้การดำเนินการดังกล่าวเกิดผลสัมฤทธิ์ในการปฏิบัติ สมควรให้สำนักงาน ก.พ.ร. พิจารณากำหนดไว้ในกรอบการประเมินผล
การปฏิบัติราชการประจำปี ทั้งนี้ ให้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปีงบประมาณ 2558

           สาระสำคัญของยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามทุจริต ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2556 - 2560) สรุปได้ดังนี้

           วิสัยทัศน์

                    “สังคมไทยมีวินัย โปร่งใส ยึดมั่นในคุณธรรม จริยธรรม และร่วมป้องกันและปราบปรมการทุจริต เป็นที่ยอมรับในระดับสากล”

          เป้าหมายหลัก 

                     เป้าหมายหลักของการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ฉบับนี้ได้แก่ “เพิ่มระดับของค่า CPI ของประเทศไทยเป็นสำคัญ โดยตั้งเป้าไว้ที่ร้อยละ 50 ในปี 2560”

           เป้าหมายรอง

          1. ผู้มีอำนาจหรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีพฤติกรรมการทุจริตลดลง

          2. เจ้าหน้าที่รัฐมีพฤติกรรมทุจริตประพฤติมิชอบลดลง

          3. ระดับการรับรู้ว่าการทุจริตเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสถาบันต่างๆ ทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองสูงขึ้น

          4. ระดับการทุจริตอันเกิดจากภาคธุรกิจและการดำเนินการที่ต้องจ่ายเงินสินบนในกระบวนการต่างๆ ลดลง

          5. ระดับความโปร่งใสและการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐเพิ่มขึ้น

          6. ระดับการปราบปรามการทุจริตและบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิดมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

          ยุทธศาสตร์ที่ 1 : ปลูกและปลุกจิตสำนึกการต่อต้านการทุจริต เน้นการปรับเปลี่ยนฐานความคิดของคนในทุกภาคส่วนในการรักษาประโยชน์สาธารณะ แนวทางและมาตรการ ประกอบด้วย

          1. ส่งเสริมการดำเนินชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง

          2. ส่งเสริมการใช้และกำหนดบทลงโทษในประมวลจริยธรรมแก่ทุกภาคส่วนและกำกับดูแลการประพฤติให้เป็นตามหลักประมวลจริยธรรม

          3. การใช้การศึกษาและศาสนาเป็นเครื่องมือในการปลูก – ปลุกและปรับเปลี่ยนฐานความคิด

          4. ดูแลคุณภาพชีวิตและรายได้ของเจ้าหน้าที่ของรัฐและข้าราชการ

          ยุทธศาสตร์ที่ 2 : บูรณาการการทำงานของหน่วยงานในการต่อต้านการทุจริตและพัฒนาเครือข่ายในประเทศ แนวทางและมาตรการ ประกอบด้วย

          1. ประสานการทำงานและการบริหาร และบูรณาการระหว่างองค์กรตามรัฐธรรมนูญ

          2. สร้างความเข้มแข็งการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาคีเครือข่าย หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคมและประชาชนในการป้องกันและปราบปราม
การทุจริต

          3. พัฒนาระบบฐานข้อมูล

          4. ปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบและการบังคับใช้กฎหมาย รวมถึงการพัฒนาระเบียบหลักเกณฑ์ข้อบังคับในแต่ละหน่วยงานหลักในการต่อต้านการทุจริตให้สอดคล้องกัน

          ยุทธศาสตร์ที่ 3 : พัฒนาความร่วมมือกับองค์กรต่อต้านการทุจริตและเครือข่ายระหว่างประเทศ แนวทางและมาตรการ ประกอบด้วย

          1. ประสานความร่วมมือกับหน่วยงาน/องค์กรต่อต้านการทุจริตและองค์กรเอกชนในระดับนานาชาติ

          2. ปรับปรุงและพัฒนากฎหมายให้สอดคล้องกับอนุสัญญาระหว่างประเทศ

          3. สร้างความร่วมมือโดยการเข้าร่วมปฏิญญาและการทำบันทึกความเข้าใจระหว่างประเทศ

          ยุทธศาสตร์ที่ 4 : พัฒนาระบบบริหารและเครื่องมือในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แนวทางและมาตรการ ประกอบด้วย

          1. บรรจุยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล

          2. จัดตั้งกองทุนสนับสนุนการป้องกันการทุจริต

          3. ส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนามาตรการและเครื่องมือในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

          4. สร้างเสริมระบบแจ้งเบาะแสและการคุ้มครองพยาน การเสริมสร้างศักยภาพและการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาทุจริตให้กับภาคีเครือข่าย ภาคประชาสังคมและประชาชนเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น

          5. สร้างเสริมระบบรับเรื่องร้องเรียนให้กับองค์การตามรัฐธรรมนูญที่ต่อต้านการทุจริต

          ยุทธศาสตร์ที่ 5 : เสริมสร้างองค์ความรู้ด้านการต่อต้านการทุจริตให้กับบุคลากรทุกภาคส่วน และมาตรการเสริมด้านการป้องกันและปราบปราม
การทุจริต
 แนวทางและมาตรการ ประกอบด้วย

          1. สร้างองค์ความรู้ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตโดยการศึกษาวิจัยและการพัฒนา

          2. พัฒนาระบบการจัดการองค์ความรู้

          3. สร้างบุคลากรเชี่ยวชาญเฉพาะสาขาสำหรับตรวจสอบและปราบปรามการทุจริตรายสาขา

          4. จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้การป้องกันและปราบปรามการทุจริต

          มาตรการเสริมด้านการป้องกันและปราบปรามทุจริต ประกอบด้วย

          1. การกำหนดตำแหน่งห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐดำเนินกิจการที่เป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวมตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตตามมาตรา 100

          2. การกำหนดหลักเกณฑ์การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดของเจ้าหน้าที่ของรัฐตามมาตรา 103

          3. การสร้างความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานภาครัฐด้านการเปิดเผยวิธีการคำนวณราคากลางและให้คู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐทำบัญชีรับจ่ายของโครงการที่เป็นคู่สัญญาตามมาตรา 103/7

          4. การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานของภาครัฐ (Integrity & Transparency Assessment : ITA) 

          5. โครงการป้องกันการทุจริตด้านการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ โดยใช้มาตรการ
               5.1 การบริหารความเสี่ยงด้านการจัดซื้อจัดจ้าง
               5.2 โครงการปฏิบัติการร่วมภาคเอกชนในการป้องกันการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ (Collective Action Against Corruption)

          6. การประชาสัมพันธ์และการรณรงค์สร้างกระแสต้านการทุจริต



ภัทรพร (สลธ.) /รายงาน
ข้อมูลจาก หนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ด่วนที่สุด ที่ นร 0505/ว48
กลุ่มสื่อสารฯ /จัดทำ

 

 

    ลิงค์     |     สมาชิกเครือข่าย     |     RSS feed     |     คำถามที่พบบ่อย            

เกี่ยวกับ

กฏหมายและระเบียบ

หนังสือเวียน

ข้อมูลหน่วยงานภาครัฐ

ศูนย์ความรู้

ประชาสัมพันธ์

W3C   Facebook Facebook สำนักงาน ก.พ.ร.   PMQA Channel  ฐานข้อมูลหน่วยงานภาครัฐ  ipv6 ready  www.info.go.th  การปฏิเสธความรับผิดชอบ |  Webmail| Intranet สำหรับข้าราชการ | ผังเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ 

Slocan

สงวนลิขสิทธิ์โดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ

59/1 ถนนพิษณุโลก แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300 โทร. 02 356 9999 โทรสาร 02 281 7882 สายด่วน 1785 e-mail: administrator@opdc.go.th