ข่าวเด่น

---

คณะรัฐมนตรีในการประชุมเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2557 มีมติรับทราบเรื่อง รายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการธรรมภิบาลจังหวัด ประจำปี พ.ศ. 2557

           คณะรัฐมนตรีได้ประชุมปรึกษาเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2557 ลงมติว่า

                    1. รับทราบรายงานผลการดำเนินงานของคระกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด ประจำปี พ.ศ. 2557 ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ

                    2. มอบหมายให้รองนายรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ร่วมกับสำนักงาน ก.พ.ร. และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องพิจารณาแนวทางการดำเนินการของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดและหน่วยงานอื่นๆ ทั้งในระดับนโยบายและปฏิบัติ เพื่อให้การดำเนินการตามหลักธรรมาภิบาลของหน่วยงานภาครัฐมีความชัดเจนและปฏิบัติได้อย่างเหมาสมและเป็นรูปธรรม และไม่ซ้ำซ้อนระหว่างหน่วยงาน ร่วมทั้งให้กำหนดตัวชี้วัดให้ชัดเจนด้วย

           ทั้งนี้ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้แจ้งมติคณะรัฐมนตรีเรื่องดังกล่าวให้สำนักงาน ก.พ.ร. ทราบแล้ว ตามหนังสือ สลค. ด่วนที่สุด ที่ นร 0505/ว(ล)27512 ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2557 โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

           รายงานผลการดำเนินงานของ ก.ธ.จ. ประจำปี พ.ศ. 2557 สรุปสาระสำคัญ 

                    1. ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 ก.ธ.จ. ทั้ง 76 คณะ/จังหวัด ได้ดำเนินการสอดส่องแผนงาน/โครงการตามแผนพัฒนาจังหวัด แผนงานโครงงานของจังหวัดและส่วนราชการในจังหวัด รวมถึงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากการปฏิบัติงานของหน่วยงานของรัฐ และเจ้าหน้าที่ของรัฐในจังหวัด จำนวน 687 งาน/โครงการ มีมติเป็นข้อเสนอแนะให้จังหวัด/หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของรัฐรับไปดำเนินการ จำนวน 190 ข้อ จังหวัดได้แจ้งผลการดำเนินการ ตามข้อเสนอแนะของ ก.ธ.จ. จำนวน 173 ข้อ ซึ่งสรุปผลการดำเนินงานได้ดังนี้ 

                          1.1 การสอดส่องแผนงาน/โครงการตามแผนพัฒนาจังหวัด ก.ธ.จ. จำนวน 44 คณะ/จังหวัด ได้สอดส่องงาน/โครงการตามแผนพัฒนาจังหวัด จำนวน 559 โครงการ โดยมีข้อเสนอแนะให้จังหวัดรับไปดำเนินการ จำนวน 95 ข้อ ซึ่งจังหวัดได้ดำเนินการตามข้อเสนอแนะเพื่อให้เป็นไปตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี จำนวน 88 ข้อ ในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นกรณีที่ไม่เป็นไปตามระเบียบฯ ข้อ 23(4) ปฏิบัติให้เกิดผลสัมฤทธิ์ มีประสิทธิภาพ และมีความคุ้มค่ามากที่สุด จำนวน 46 ข้อ คิดเป็นร้อยละ 38.99 รองลงมาเป็นกรณีที่ไม่เป็นไปตามระเบียบฯ ข้อ 23(3) ปฏิบัติภารกิจเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน จำนวน 28 ข้อ หรือคิดเป็นร้อยละ 23.73

                         1.2 การสอดส่องแหนงาน/โครงการของส่วนราชการในจังหวัด ก.ธ.จ. จำนวน 19 คณะ/จังหวัด ได้สอดส่องงาน/โครงการของส่วนราชการในจังหวัด จำนวน 59 โครงการ โดยมีข้อเสนอแนะให้จังหวัดรับไปดำเนินการจำนวน 35 ข้อ ซึ่งจังหวัดได้ดำเนินการตามข้อเสนอแนะเพื่อให้เป็นไปตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี จำนวน 29 ข้อ ในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นกรณีที่ไม่เป็นไปตามระเบียบฯ ข้อ 23(4) ปฏิบัติภารกิจให้เกิดผลสัมฤทธิ์ มีประสิทธิภาพ และมีความคุ้มค่ามากที่สุด จำนวน 18 ข้อ หรือคิดเป็นร้อยละ 47.37 รองลงมาเป็นกรณีที่ไม่เป็นไปตามระเบียบฯ ข้อ 23(6) ปฏิบัติภารกิจโดยยึดหลักการมีส่วนร่วมของประชาชน และการเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส่ จำนวน 11 ข้อ คิดเป็นร้อยละ 28.95

                          1.3 การสอดส่องเรื่องร้องเรียน เป็นกรณีเรื่องที่ประชาชนร้องเรียนมายัง ก.ธ.จ. ผ่านหนังสือร้องเรียน เรื่องที่มีการร้องเรียนต่อ ก.ธ.จ. โดยตรง หรือเรื่องที่ ก.ธ.จ. สอดส่องแล้วพบเห็นในพื้นที่หรือได้รับแจ้งข้อมูลจากเครือข่าย ซึ่งจากกาสอดส่องในเรื่องดังกล่าวของ ก.ธ.จ. จำนวน 35 คณะ/จังหวัด พบว่าเจ้าหน้าที่/หน่วยงานของรัฐปฏิบัติงานไม่เป็นไปตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี จำนวน 69 เรื่อง ซึ่ง ก.ธ.จ. ได้มีข้อเสนอแนะให้จังหวัดหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการรวมจำนวน 60 ข้อ ในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นกรณีที่ไม่เป็นไปตามระเบียบฯ ข้อง 23(3) ปฏิบัติภารกิจเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน มากที่สุด จำนวน 29 ข้อ คิดเป็นร้อยละ 31.52 รองลงมาเป็นกรณีที่ไม่เป็นไปตามระเบียบฯ ข้อ 23 (1) ปฏิบัติภารกิจให้เป็นไปตามกฎหมายเพื่อรักษาประโยชน์ส่วนรวมตลอดจนไม่ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของประชาชน จำนวน 19 ข้อ คิดเป็นร้อยละ 20.65

                          1.4 ผลการดำเนินงานของ ก.ธ.จ. ในเรื่องอื่นๆ ที่สำคัญ โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 ก.ธ.จ. ได้ดำเนินการเรื่องอื่นๆ ที่สำคัญ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่ของ ก.ธ.จ. ให้เป็นไปอย่างมีประสทิธิภาพ หลายเรื่อง อาทิ

                                1) การสร้างเครือข่ายภาคประชาชนของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 ก.ธ.จ. จำนวน 76 คณะ ได้จัดทำโครงการสัมมนาการสร้างเครือข่ายภาคประชาชนของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดแนวทางในการดำเนินงานร่วมกันระหว่าง ก.ธ.จ. และเครือข่ายภาคประชาชน เพื่อเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาท อำนาจหน้าที่ และแนวทางการปฏิบัติงานของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด

                                2) การประชาสัมพันธ์การดำเนินงานของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้สนับสนุนงบประมาณ จำนวน 3,890,000 บาท ให้กับ ก.ธ.จง เพื่อประชาสัมพันธืเกี่ยวกับภารกิจ บทบาทหน้าที่ ผลการดำเนินงานของ ก.ธ.จ. ผ่านสื่อวิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อโทรทัศน์ และสื่ออื่นๆ โดย ก.ธ.จ. จำนวน 76 คณะ/จังหวัด ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ไปแล้ว เช่น จัดการประชุมแนะนำ ก.ธ.จ. กับหัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัดในการประชุมส่วนราชการในจังหวัด จัดเสวนาวิชาการเกี่ยวกับการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ บทบาท ภารกิจและอำนาจหน้าที่ของ ก.ธ.จ. ให้บุคลากรของส่วนราชการและองคืกรปกครองส่วนท้องถิ่นทราบ เป็นต้น

                    2. แนวทางการขับเคลื่อนการดำเนินงานของ ก.ธ.จ. ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2558

                           2.1 ให้ ก.ธ.จ. สอดส่อง และเสนอแนะการปฏิบัติภารกิจของหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐในจังหวัด ให้ใช้วิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี และให้ ก.ธ.จ. มีส่วนร่วมในการตรวจสอบความถูกต้องในการดำเนินโครงการและการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐ ในการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค กรณีที่รองนายรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรับมนตรีเห็นสมควรให้มีการตรวจสอบความถูกต้องในการดำเนินโครงการ และการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐโครงการใด ให้ ก.ธ.จ. มีส่นร่วมในการแสวงหาข้อเทจจริงหรือเอกสารหลักฐานต่างๆ แล้วนำเสนอที่ประชุม ก.ธ.จ. เพื่อมีมติให้เสนอรองนายรัฐมนตรี หรือรับมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีโดยเร็ว

                            2.2 จัดสรรงบประมาณให้กับจังหวัดๆ ละ 60,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานของ ก.ธ.จ. เช่น ค่าวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ในการปฏิบัติงานและการประชุม ค่าใช้จ่ายเป็นค่าพาหนะสำหรับการเดินทางไปสอดส่องงาน/โครงการ และการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ฯลฯ

                            2.3 ประชาสัมพันธ์การดำเนินงานของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด โดยสำนักงานปละดสำนักนายกรัฐมนตรีได้โอนเงินงบประมาณจำนวน 5,500,000 บาท ให้กรมประชาสัมพันธ์ ประชาสัมพันธ์การดำเนินงานของ ก.ธ.จ. ผ่านสื่อต่างๆ ได้แก่ สื่อโทรทัศน์ สื่อวิทยุกระจายเสียง และสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ

                            2.4 จัดทำข้อตกลง (MOU) ในการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กับหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบ ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปราบการทุจริตในภาครัฐ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในเรื่องการให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันการทุจริตประพฤติมิชอบ การมีส่วนร่วมในการลงพื้นที่เพื่อสอดส่องแผนงาน/โครงการเฉพาะเรื่องที่มีความสำคัญ การส่งเรื่องที่พบว่ากระทำการทุจริต ประพฤติมิชอบ หรือไม่โปร่งใสให้หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายดำเนินการ และการเป็นเครือข่ายร่วมกันในการให้ข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคาดว่าจะมีการลงนามในข้อตกลงดังกล่าว ในเดือนกุมภาพัฯธ์ 2558

                           2.5 จัดทำโครงการสัมมนาคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดในระดับภูมิภาค 4 ภาค รวม 4 ครั้ง เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาท อำนาจหน้าที่ของ ก.ธ.จ. และองค์ความรู้ต่างๆ ในการปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งเป็นการสร้างเครือข่ายระหว่างกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด เพื่อเพิ่มศักยภาพในการปฏิบัติงานของ ก.ธ.จ. 

                           2.6 จัดทำโครงการระบบฐานข้อมูลคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด เพื่อเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงข้อมูลของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดทั้ง 76 คณะ