การประชุมสัมมนากลุ่มพัฒนาระบบบริหาร เรื่อง บทบาทและีดสมรรถนะของกลุ่มพัฒนาระบบบริหารในการขับคลื่อนการพัฒนาระบบราชการ

ช่วงเช้ามีการเสวนาเชิงวิชาการเรื่อง "ที่ปรึกษาทางการบริหารกับการพัฒนาระบบราชการ" โดยนายอาวุธ วรรณวงศ์ รองเลขาธิการ ก.พ.ร. รศ.รังสรรค์ เนียมสนิท มหาวิทยาลัยขอนแก่น ผศ. ปัณรส มาลากุล ณ อยุธยา สถาบันส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี และนางสาวศิริรัตน์ พิริยธนาลัย บริษัท ซิกเนเจอร์ โซลูชั่น จำกัด ซึ่งการเสวนาครั้งนี้มุ่งให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้รับความรู้เกี่ยวข้องกับบทบาทของกลุ่มพัฒนาระบบบริหารในส่วนที่เป็น ที่ปรึกษาภายในส่วนราชการด้านเทคนิคการบริหารสมรรถนะที่ควรมีเพื่อทำบทบาทดังกล่าว รวมทั้งการพัฒนาตนเองให้มีสมรรถนะพร้อมที่จะเป็นที่ปรึกษาให้กับส่วนราชการ และเมื่อมีสมรรถนะพร้อมที่จะเป็นที่ปรึกษาแล้วก็ควรเสริมความเข้มแข็งของสมรรถนะอื่นด้วยการทำเครือข่ายต่อไป และประเด็นเหล่านี้เป็นประโยชน์ในการนำไปปรับใช้ในการปฏิบัติงานเป็นอย่างมาก 

             โดย  นายอาวุธ วรรณวงศ์ รองเลขาธิการ ก.พ.ร. กล่าวว่า บทบาทที่สำคัญของกลุ่มพัฒนาระบบบริหารในอนาคต คือ การเป็น มืออาชีพในการให้คำปรึกษาแนะนำด้านการบริหารเกี่ยวกับเทคนิคการบริหารจัดการองค์กรให้แก่ทั้งผู้บริหารและบุคลากรท่านอื่น ๆ ในหน่วยงาน ให้เกิดการขับเคลื่อนหน่วยงานของท่านให้เป็นองค์กร ที่ทั้งมีสุขภาพที่ดี (healthy) และมีผลการปฏิบัติงานสูง (high performance) อย่างไรก็ดี ก่อนที่จะทำให้คนอื่นหรือหน่วยงานมีสุขภาพดี (healthy หรือ well-being) ได้ทั้งกายและใจนั้น ข้าราชการใน กลุ่มพัฒนาระบบบริหารเองต้องมีภูมิคุ้มกันที่ดีก่อน ซึ่งภูมิคุ้มกันที่ดีสามารถสร้างได้โดยการเสริมสร้าง ขีดสมรรถนะศักยภาพพื้นฐานก่อน ทั้งนี้คุณศิริรัตน์ฯ ได้นำเสนอสมรรถนะหรือคุณลักษณะบางประการ ที่จำเป็น อาทิ การมุ่งผลสัมฤทธิ์ ความร่วมแรงร่วมใจ ความเข้าใจผู้อื่น ความเข้าใจองค์กร ภาวะผู้นำ และการมองภาพรวม เป็นต้น ซึ่งคุณศิริรัตน์ฯ ได้แนะนำว่า การฝึกฝนประกอบกับการทำซ้ำบ่อย ๆ จะเป็นการเสริมสร้างให้เกิดศักยภาพได้วิธีหนึ่ง

           ผศ.ปัณรสฯ เสนอว่าวิธีหนึ่งที่จะพัฒนาศักยภาพข้าราชการได้อย่างเป็นระบบ เช่น การฝึกอบรมในหลักสูตรที่จัดขึ้นเฉพาะผู้ที่รับผิดชอบงานการเป็นที่ปรึกษาทางการบริหารจะเป็น แนวทางการพัฒนาศักยภาพได้ โดยสำนักงาน ก.พ.ร. ก็รับจะเป็นผู้รับรองมาตรฐานให้เพื่อให้ ผู้เข้ารับการอบรมเกิดความมั่นใจในบทบาทใหม่ คือบทบาทการเป็นที่ปรึกษานี้มากขึ้น และปิดท้ายด้วยประเด็นจากรศ. รังสรรค์ฯ ที่ว่าด้วยคน ๆ เดียวคงไม่มีพลัง หรืออภินิหารเพียงพอที่จะผลักดันการพัฒนาระบบราชการให้เกิดขึ้นได้ ดังนั้น จึงต้องมีการสร้างเครือข่ายการทำงาน ทั้งในหน่วยงานของท่านเอง เพื่อให้เกิดพลังความสามัคคีร่วมกัน และสร้างเครือข่ายกับหน่วยงานอื่นเพื่อเป็นชุมชนแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ประสบการณ์การทำงานที่ต่างกันไปในสถานการณ์ต่าง ๆ อันจะก่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างยั่งยืนและการพัฒนาต่อไปได้โดยไม่จบสิ้น

           การเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรภาครัฐให้เกิดการเรียนรู้ และได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อันจะนำไปสู่การเพิ่มผลิตภาพของข้าราชการให้มีการสร้างสรรค์แนวคิดใหม่ๆ สนับสนุนให้ การปฏิบัติราชการได้รับการยกระดับสู่ความเป็นมืออาชีพเป็นการนำเป้าประสงค์หลักของการพัฒนา ระบบราชการไทยข้อ 3 "ยกระดับขีดความสามารถและมาตรฐานการทำงานให้อยู่ในระดับสูงและเทียบเท่าเกณฑ์สากล" ให้เกิดผลในทางปฏิบัติ โดย สำนักงาน ก.พ.ร. ได้ดำเนินโครงการเพื่อเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพที่ปรึกษาด้านการบริหาร มาตั้งแต่ปี 2547 โดยคัดเลือกบุคลากรภาคราชการเข้ารับการฝึกอบรมเกี่ยวกับแนวคิดเรื่องการเป็นที่ปรึกษา เครื่องมือและทักษะ ในการเป็นที่ปรึกษา ตลอดจนเครื่องมือทางการบริหารสำหรับการพัฒนาองค์การ ผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมทุกคนจะต้องเข้ารับการประเมินผลโดยสถาบันที่ได้รับการรับรองในระดับสากลด้วย

           ในปี 2550 สำนักงาน ก.พ.ร. ได้ดำเนินโครงการลักษณะนี้เป็นครั้งที่ 3 และมี ผู้ผ่านการอบรมและรับประกาศนียบัตรจำนวน 22 คน จากรองเลขาธิการ ก.พ.ร. (นายอาวุธ วรรณวงศ์) เป็นผู้มอบประกาศนียบัตรสามารถทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาแนะนำส่วนราชการต่าง ๆ ต่อไปในอนาคต

           ในช่วงบ่าย ผู้ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรการเสริมสร้างและการพัฒนาศักยภาพ ที่ปรึกษาด้านการบริหาร ได้คัดเลือกผู้แทนรุ่นนำเสนอกรณีศึกษาการพัฒนาระบบราชการและข้อเสนอการพัฒนาวิธีการบริหารการเปลี่ยนแปลงในส่วนราชการ ประกอบด้วยนายศุม ศรีสุขวัฒนา กรมอนามัย นายอำนวย โพธาราม กรมการค้าภายใน นางสาวภัทริยา ไชยมณี และนายรวี ตีวกุล กระทรวง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งผู้เข้าร่วมสัมมนาจะได้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการพัฒนาระบบราชการ การเป็นที่ปรึกษาด้านการบริหาร และเรียนรู้ระหว่างกัน

           ปิดท้ายด้วยการบรรยายพิเศษหัวข้อ "การสร้างเครือข่ายการจัดการความรู้ในภาครัฐ" โดยรศ. รังสรรค์ เนียมสนิท และผศ. ปัณรส มาลากุล ณ อยุธยา สำหรับผู้ที่สนใจเอกสารประกอบการสัมมนาสามารถคลิกดูข้อมูลได้จากเว็บไซต์สำนักงาน ก.พ.ร.