สรุปผลการประชุมคณะรัฐมนตรีวันอังคารที่ 4 ก.ย. 50
ที่่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของสำนักงาน ก.พ.ร.
การประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันอังคารที่ 4 กันยายน 2550 ซึ่งมี พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ณ ห้องประชุม ชั้น 2 ตึกสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีหลังใหม่ ทำเนียบรัฐบาล ได้พิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของสำนักงาน ก.พ.ร. จำนวน 1 เรื่อง ดังนี้
เศรษฐกิจ
เรื่อง การบูรณาการแผนงาน และงบประมาณในระดับท้องถิ่นและจังหวัด |
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม ) เป็นประธาน ดังนี้
1. เห็นชอบในหลักการ แนวทางบูรณาการแผนงานและงบประมาณปี 2551 ตามผลการประชุมการบูรณาการแผนงาน/โครงการ งบประมาณระหว่างกระทรวงและจังหวัด เมื่อวันศุกร์ที่ 17 สิงหาคม 2550 โดยให้ทุกจังหวัดถือปฏิบัติ และให้ทุกกระทรวงให้ความร่วม มือ โดยเป็นทางเลือกตามความสมัครใจ
2. จัดตั้งคณะทำงาน ประกอบด้วย ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการ พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย คณะทำงานของรองนายกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นคณะทำงาน โดยมีเลขาธิการ ก.พ.ร. เป็นประธาน นำแนวทาง การบูรณาการ แผนงานและงบประมาณปี 2552 ตามเอกสารสรุปผลการประชุม การบูรณาการแผนงาน/โครงการ/งบประมาณ ระหว่างกระทรวงและจังหวัดเมื่อวันศุกร์ที่ 17 สิงหาคม 2550 ไปศึกษาและปรับปรุงในรายละเอียด โดยคำนึงถึงปัจจัยรอบด้านและ นำข้อสังเกต และข้อเสนอแนะของที่ประชุม และประเด็นอภิปรายของ คณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอ คณะรัฐมนตรีคณะที่ 2 ไป ประกอบการพิจารณาด้วย แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรี อีกครั้งหนึ่ง
ประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรองฯ คณะที่ 2 มีดังนี้
1. แนวทางการบูรณาการแผนงานและงบประมาณปี 2551 เป็นแนวทางการบูรณาการภายหลังจากที่ กระบวนการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2551 ได้เสร็จสิ้นแล้ว และเป็นการบูรณาการ ในระดับจังหวัด ภายใต้กรอบงบประมาณ และภารกิจของแต่ละกระทรวง กรมอยู่แล้ว จึงเป็นเรื่องที่น่าจะให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง รับไปดำเนินการต่อไป ได้
2. ส่วนแนวทางการบูรณาการแผนงานและงบประมาณปี 2552 ยังมีหลายปัจจัยที่จะควรคำนึงถึง เช่น
2.1 แนวโน้มของการที่จะให้จังหวัดเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณ รายจ่ายประจำปี โดยตรง ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ซึ่งจะมีผลโดยตรงต่อแนวทางการบูรณาการแผนงานและงบประมาณ
2.2 การนำแผนงาน/โครงการของทุกหน่วยงานทุกระดับมาแบ่งออกเป็นด้านต่าง ๆ เช่น ด้านสาธารณภัย ด้านส่งเสริมอาชีพ ด้านสวัสดิการและสังคม และด้านการมีงานทำ เป็นต้น โดยเฉพาะด้านส่งเสริมอาชีพ จะต้องมองถึง มิติที่เชื่อมโยงด้วย ได้แก่ การตลาด หากมีการส่งเสริมอาชีพ เกิดผลิตภัณฑ์จำนวนมาก แล้วไม่มีตลาดรองรับ จะเกิดปัญหาตามมาด้วย ดังนั้น การบูรณาการต้องพิจารณาเชื่อมโยง กับภาคเอกชนด้วย
2.3 แนวทางการบูรณาการแผนงาน งบประมาณสำหรับปี 2552 และปีต่อ ๆ ไป เป็นการ
ดำเนินการก่อนกระบวนการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี จึงควรให้มีการพัฒนาระบบบูรณาการแผนงานและงบประมาณ ระหว่าง กระทรวง กรม และจังหวัด โดยกำหนดพื้นที่นำร่อง 10-13 จังหวัดด้วย เพื่อให้แนวทางการบูรณาการแผนงานและงบประมาณปี 2552 สามารถนำไปปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ และเห็นควรให้มีคณะทำงาน ประกอบด้วย ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงบประ มาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ สำนักงานกองทุน สนับสนุนการวิจัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณาแนวทางการบูรณาการแผนงานฯ ดังกล่าว
************************
หมายเหตุ ผลสรุปข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรีนี้ เป็นเพียงการนำเสนอในเชิงข่าวเท่านั้น มิอาจถือเป็นมติของที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ จึงขอให้ตรวจสอบมติ หรือขอรายละเอียดเพิ่มเติม จากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ณ ศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี หมายเลขโทรศัพท์ 0 2280 9000 ต่อ 436 หรือที่ http://www.cabinet.thaigov.go.th/
ข้อมูลจาก http://www.thaigov.go.th/
เผยแพร่ข้อมูลเมื่อ 6 กันยายน 2550 09:35:51 ปรับปรุงข้อมูลล่าสุดเมื่อ 6 กันยายน 2550 09:35:51