สรุปผลการประชุมคณะรัฐมนตรีวันอังคารที่ 10 ก.ค. 50
ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของสำนักงาน ก.พ.ร.
การประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันอังคารที่ 10 กรกฎาคม 2550 ซึ่งมี พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ณ ห้องประชุม ชั้น 2 ตึกสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีหลังใหม่ ทำเนียบรัฐบาล ได้พิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของสำนักงาน ก.พ.ร. จำนวน 3 เรื่อง ดังนี้
กฎหมาย
เรื่อง
ร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1 ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์) เป็นประธาน ดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติปรับปรุง กระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป
2. ให้กระทรวงคมนาคมรับข้อสังเกตของ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และของสำนัก
งบประมาณไปดำเนินการต่อไป
ร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกมาตรา 54 แห่งพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 เพื่อมิให้กรมทางหลวงชนบท สังกัดกระทรวงคมนาคม ต้องยุบเลิกไปภายในวันที่ 2 ตุลาคม 2550 (5 ปี นับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ)
เศรษฐกิจ
เรื่อง
การเสนอขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายในการพิจารณาของ
คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ
งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบหลักเกณฑ์และขั้นตอนการเสนอขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
สำนักงบประมาณเสนอว่า ตามที่สำนักงบประมาณได้นำร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 พร้อมเอกสารงบประมาณเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบในวันอังคารที่ 19 มิถุนายน 2550 เพื่อนำเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และสภานิติบัญญัติแห่งชาติมีการประชุมเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณฯ วาระที่ 1 ในวันพุธที่ 4 กรกฎาคม 2550 นั้น ในการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คาดว่าเมื่อการพิจารณาแล้วเสร็จ จะปรับลดงบประมาณรายจ่ายลงได้จำนวนหนึ่ง จึงจำเป็นต้องเตรียมให้มีการเสนอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายตามวงเงินที่คาดว่าจะปรับลดได้ สำนักงบประมาณจึงเสนอแนวทางหลักเกณฑ์ และขั้นตอนการเสนอ ขอเพิ่มงบประมาณ ดังนี้
1. แนวทางและหลักเกณฑ์การเสนอขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551
เห็นควรให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่นของรัฐ เสนอคำขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 เฉพาะรายการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนอย่างแท้จริง และสอดคล้องกับนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล โดยมีหลักเกณฑ์ว่าควรเป็นรายการที่มีการใช้จ่ายในลักษณะ ดังต่อไปนี้
1.1 เป็นไปตามยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 6 ยุทธศาสตร์ 1 รายการ
1.1.1. ยุทธศาสตร์การส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดี มีคุณธรรมนำความรู้ และสามารถปรับตัวสู่สังคมฐานความรู้
1.1.2 ยุทธศาสตร์การแก้ไขความยากจน กระจายความเจริญสู่ชนบทและลดช่องว่างของรายได้
1.1.3 ยุทธศาสตร์การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเพื่อให้เศรษฐกิจขยายตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
1.1.4 ยุทธศาสตร์การดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และการใช้ประโยชน์จากความหลากหลายทางชีวภาพให้เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคม
1.1.5 ยุทธศาสตร์การพัฒนาการเมือง และการบริหารจัดการภาครัฐที่มีประสิทธิภาพ และเป็นธรรม
1.1.6 ยุทธศาสตร์การรักษาความมั่นคงของชาติและความสงบสุขของสังคม
1.1.7 รายการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ
1.2 เป็นรายจ่ายลงทุนที่สำคัญก่อให้เกิดผลในการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ
1.3 เป็นรายจ่ายลงทุนหรือรายจ่ายประจำที่ต้องเร่งดำเนินการตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล โดยควรมีเงื่อนไขดังต่อไปนี้
1.3.1 ไม่ทำให้เกิดภาระรายจ่ายประจำเพิ่มขึ้น ยกเว้นเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล
1.3.2 ไม่ผูกพันงบประมาณรายจ่ายในปีต่อ ๆ ไป
1.3.3 ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่นของรัฐ มีขีดความสามารถและมีความพร้อมที่จะดำเนินการได้ทันที
2. ขั้นตอนในการเสนอขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ
(1) ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่นของรัฐ จัดทำคำขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ที่ได้มีการตรวจสอบและรับรองข้อมูลแล้วว่า การดำเนินการนั้นไม่ขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับชั่วคราว พุทธศักราช 2549 กฎหมายหรือระเบียบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง นำเสนอต่อรัฐมนตรีเจ้าสังกัดเพื่อขอรับความเห็นชอบ และรวบรวมจัดส่งให้สำนักงบประมาณดำเนินการภายในวันพุธที่ 18 กรกฎาคม 2550
(2) กรณีหน่วยงานอิสระของรัฐ มีความจำเป็นต้องเสนอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ให้นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาตามขั้นตอนในการเสนอขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ภายในวันพุธที่ 18 กรกฎาคม 2550
(3) ให้สำนักงบประมาณนำผลการพิจารณาคำขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 เสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาในวันอังคารที่ 7 สิงหาคม 2550 เพื่อนำเสนอคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ต่อไป
สังคม
เรื่อง
การดำเนินนโยบายและยุทธศาสตร์ด้านสังคมอันสืบเนื่องจาก
การอภิปรายในสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อจากการแถลง
ผลการดำเนินงานของรัฐบาล เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2550
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม) เป็นประธาน ที่เห็นชอบให้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็น และประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรองฯ เกี่ยวกับเรื่องการดำเนินนโยบายและยุทธศาสตร์ด้านสังคม อันสืบเนื่องจากการอภิปรายในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ต่อจากการแถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาล เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2550 ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ดังนี้
1. เรื่องคุณธรรมถือเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญของรัฐบาล ซึ่งควรมีการบูรณาการร่วมกันของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยมีกระทรวงศึกษาธิการเป็นเจ้าภาพหลัก ขณะเดียวกันกระทรวงอื่น ๆ ก็ได้มีการดำเนินการในเรื่องนี้ ซึ่งคณะรัฐมนตรีก็ได้มีมติอนุมัติหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ พ.ศ. .... ไปแล้ว ซึ่งจะช่วยให้เกิดการขับเคลื่อนคุณธรรมได้อย่างมีประสิทธิผลและประสิทธิภาพ และจะส่งผลต่อเนื่องไปถึงเรื่องธรรมาภิบาลด้วย
2. ยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข ควรหมายรวมไปถึงเรื่องสุขภาพ สุขภาวะ และอนามัยด้วย และควรส่งเสริมให้มีการบูรณาการแผนงาน และงบประมาณการทำงานของหน่วยงานต่าง ๆ จากส่วนกลาง ที่ลงไปสู่จังหวัดและท้องถิ่น โดยให้กระทรวงและหน่วยงานต่าง ๆ แจ้งแผนงาน/โครงการ และงบประมาณลงไปสู่จังหวัดและท้องถิ่นให้จังหวัดทราบ เพื่อให้จังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และชุมชนได้ร่วมกันพิจารณาหารือเกี่ยวกับแผนงาน/โครงการ และงบประมาณดังกล่าวว่า จะสมควรปรับปรุงแผนงาน/โครงการหรือไม่ ประการใด เพื่อให้ตรงกับความต้องการของประชาชนในเขตพื้นที่ได้มากที่สุด ซึ่งอาจเริ่มดำเนินการในปีงบประมาณ 2551 ทั้งนี้ อาจมอบหมายให้รัฐมนตรีรับผิดชอบดูแลยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขท่านละ 2-3 จังหวัด
3. ในช่วงระยะเวลาที่เหลืออยู่ของรัฐบาล ควรมีการศึกษาถึงนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลทั้ง 5 ด้านว่า การดำเนินงานตามนโยบาย ได้ดำเนินงานไปแล้วเกิดผลอย่างไร ควรมีการปรับปรุงแก้ไขหรือไม่ อย่างไร และมีเรื่องใดสมควรกำหนดเป็นนโยบายเพื่อดำเนินการต่อไปในอนาคต โดยอาจจัดให้มีการระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนของราชการและเอกชน โดยในเบื้องต้นควรมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นเจ้าของเรื่องร่วมกับสำนักงานพัฒนานโยบายสาธารณะ ส่วนการดำเนินการอาจจ้างมหาวิทยาลัยศึกษาวิจัยในเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ อาจขอให้สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอข้อแนะนำในเรื่องดังกล่าวอีกทางหนึ่งด้วย
************************
หมายเหตุ ผลสรุปข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรีนี้ เป็นเพียงการนำเสนอในเชิงข่าวเท่านั้น มิอาจถือเป็นมติของที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ จึงขอให้ตรวจสอบมติ หรือขอรายละเอียดเพิ่มเติม จากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ณ ศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี หมายเลขโทรศัพท์ 0 2280 9000 ต่อ 436 หรือที่ http://www.cabinet.thaigov.go.th/
ข้อมูลจาก http://www.thaigov.go.th
เผยแพร่ข้อมูลเมื่อ 12 กรกฎาคม 2550 09:23:58 ปรับปรุงข้อมูลล่าสุดเมื่อ 12 กรกฎาคม 2550 09:23:58