นปร. รุ่นที่ 1 เข้าพบรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อรับโอวาทก่อนเดินทางไปฝึกปฏิบัติราชการกับหน่วยงานไทยในต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2550 เวลา 14.00 น. คณะผู้บริหารสำนักงาน ก.พ.ร. นำโดย นายอาวุธ วรรณวงศ์ รองเลขาธิการ ก.พ.ร. พร้อมด้วย ผอ.สุพรรณี ไพรัชเวทย์ ผู้อำนวยการภารกิจการบริหารการเปลี่ยนแปลงและนวัตกรรม และ ดร.ชาติชาย ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ได้นำคณะ นปร.รุ่นที่ 1 จำนวน 39 คน เข้าพบรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์) รองประธาน ก.พ.ร. เพื่อรับโอวาทก่อนเดินทางไปฝึกปฏิบัติงานหน่วยงานภาครัฐในต่างประเทศ ณ สถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุลใหญ่ในต่างประเทศ 28 ประเทศ จำนวน 32 แห่ง ณ ห้อง 301 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล
นายอาวุธ วรรณวงศ์ รองเลขาธิการ ก.พ.ร. ได้กล่าวรายงาน โดยมีใจความสำคัญว่า โครงการพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่นี้ มีระยะเวลาในการฝึกฝนเรียนรู้เป็นเวลาประมาณ 26 เดือน โดยแยกออกเป็นการศึกษาภาควิชาการ การฝึกงานในพื้นที่กับผู้ว่าราชการจังหวัด การเรียนรู้และทดลองปฏิบัติราชการในหน่วยงานกลางระดับนโยบายกับปลัดกระทรวงอธิบดี ผู้บริหารหน่วยงานกลาง และผู้บริหารภาคเอกชน และกิจกรรมสุดท้าย คือ การฝึกปฏิบัติงานหน่วยงานภาครัฐในต่างประเทศ ณ สถานเอกอัครราชฑูต สถานกงสุลใหญ่ในต่างประเทศ ซึ่งเป็นการเรียนรู้และฝึกปฏิบัติงานตามหลักสูตร ซึ่งเมื่อผ่านการอบรมตามหลักสูตรแล้ว จะได้รับการประเมินและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในหน่วยราชการที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ต่อไป
จากนั้นท่านรองเลขาธิการ ได้กล่าวเรียนเชิญ ดร.ชาติชาย ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ซึ่งได้รับมอบหมายให้ดำเนินโครงการนี้ เป็นผู้กล่าวรายงานถึงรายละเอียด ในการไปฝึกปฏิบัติงานในต่างประเทศ ของนักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ รุ่นที่ 1 โดยมีใจความสำคัญว่า สถาบันส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ได้รับความอนุเคราะห์จากกระทรวงการต่างประเทศ ในการดำเนินการให้ นปร. รุ่นที่ 1 ไปฝึกปฏิบัติงานกับหน่วยงานภาครัฐในต่างประเทศ เป็นระยะเวลา 4 เดือน ระหว่างเดือน ระหว่างเดือนพฤษภาคม ถึง สิงหาคม 2550 ซึ่งเป็นการเรียนรู้และฝึกปฏิบัติตามหลักสูตร โดยมีภารกิจและงานที่ได้รับมอบหมาย เสมือนหนึ่งกับการไปปฏิบัติราชการจริง ซึ่งตลอดระยะเวลา 4 เดือนนี้ นปร. รุ่นที่ 1 จะได้รับความรู้และประสบการณ์ทั้งในด้านของการทำงาน สภาพความเป็นอยู่ ที่มีความหลากหลายแตกต่างกันในแต่ละประเทศ รวมไปถึงได้เรียนรู้ถึงการทำงานให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จ ว่าจะต้องมีปัจจัยอะไรบ้าง เพื่อที่จะได้เป็นตัวอย่างสำหรับที่จะนำมาประยุกต์ใช้กับชีวิตของตัวเองในการทำงานต่อไป
จากนั้น ท่านรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์) รองประธาน ก.พ.ร.ได้ให้โอวาทที่นับว่ามีคุณค่ายิ่งต่อปร.รุ่นที่ 1 ทั้ง 39 คนเป็นอย่างมาก โดยท่านได้ฝากความหวังและให้ข้อคิดไว้ว่า การเดินทางไปฝึกปฏิบัติราชการในต่างประเทศครั้งนี้จะแตกต่างจากการฝึกงานใน ทุกๆครั้งที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นการฝึกงานกับผู้ว่าราชการจังหวัด ฝึกงานกับผู้บริหารระดับสูง หรือแม้กระทั่งการฝึกปฏิบัติงานกับหน่วยงานภาคเอกชน ที่ว่าแตกต่างนั้น นอกเหนือจากการต้องเดินทางไกลบ้าน สิ่งที่ต้องคำนึงถึง และเจอะเจอแน่นอน ก็คงจะเป็นเรื่องวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ของชนชาตินั้น ภาษาที่แตกต่าง สภาพแวดล้อมที่แตกต่าง เหล่านี้คืออุปสรรคอย่างหนึ่งในการฝึกปฏิบัติงานในครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ตามการทำงานทุกอย่าง และทุกเรื่องย่อมต้องพบกับปัญหาและอุปสรรค จึงขอให้คิดว่าปัญหาอุปสรรใน การทำงานเป็นสิ่งที่พิสูจน์ความอดทน ความวิริยะอุตสาหะ และความพากเพียร
นอกจากนี้แล้ว ยังได้ให้คำแนะนำที่เป็นเงื่อนไขของความสำเร็จในการทำงาน 9 ประการ ให้ นปร. รุ่นที่ 1 นี้ ได้ยึดถือเป็นหลักในการฝึกปฏิบัติงาน และสามารถที่จะใช้เป็นหลักคิดในชีวิตการเป็นข้าราชการได้ตลอดไป อันประกอบด้วย
ข้อที่ 1 มีความมั่นใจในตนเอง ....ก้าวแรกที่เริ่มจากภายในตนเอง
ข้อที่ 2 มีเป้าหมายในชีวิต...เดินทางให้รู้ทิศ ทำธุรกิจให้รู้กล
ข้อที่ 3 มีความตั้งใจ...มุ่งมั่น แน่วแน่ และฝ่าฟัน
ข้อที่ 4 พัฒนาตนอยู่เป็นนิจ...ลับคมขวานให้พร้อมใช้การได้อยู่เสมอ
ข้อที่ 5 ให้โอกาสแก่ตนเอง...รู้จักหยิบและเลือกโอกาสก้าวเข้ามาหา
ข้อที่ 6 มีบุคลิกภาพที่น่าประทับใจ...สร้างนิสัยและพัฒนาบุคลิกภาพ
ข้อที่ 7 มีน้ำใจที่กว้างแก่มวลมนุษย์...ช่วยเหลือเกื้อกูลกันเพราะเราล้วนมีชีวิตที่พร่อง
ข้อที่ 8 ฉลาดคิด...คิดในทางสร้างสรรค์
ข้อที่ 9 สั่งสมคุณธรรม...ดุจเกลือรักษาความเค็ม
ท้ายสุด ท่านรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี(คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์) ก็ได้กล่าวให้พรและขอให้ นปร.รุ่นที่ 1 ทุกคน เดินทางด้วยความปลอดภัย และเมื่อฝึกปฏิบัติราชการกลับมาแล้ว ระบบราชการของประเทศไทยก็จะมีข้าราชการรุ่นใหม่เพิ่มอีก39 คน ที่สามารถเป็นทั้ง นักคิดที่มีวิสัยทัศน์ นักพัฒนาและวางแผน และนักปฏิบัติอย่างสมดุล สามารถเป็นผู้นำการบริหารการเปลี่ยนแปลง ทั้งในด้านความคิด ด้านวิชาการและการบริหารจัดการองค์กร ได้รับการบรรจุเข้าดำรงตำแหน่งในหน่วยงานภาครัฐที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อเป็นกำลังร่วมผลักดันยุทธศาสตร์ของรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติให้บังเกิดผลที่เป็นรูปธรรม ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. และรัฐบาลคาดหวัง
ภัทรพร/สุพรรณ (สลธ.) / ข้อมูล
จันทรา/ศิริเนตร (สลธ.) / จัดทำ
เผยแพร่ข้อมูลเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2552 15:30:07 ปรับปรุงข้อมูลล่าสุดเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2552 15:30:07