มติคณะรัฐมนตรีวันอังคารที่ 27 มีนาคม 2550
ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของสำนักงาน ก.พ.ร.
การประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันอังคารที่ 27 มีนาคม 2550 ซึ่งมี พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ณ ห้องประชุม ชั้น 2 ตึกสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีหลังใหม่ ทำเนียบรัฐบาล ได้พิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของสำนักงาน ก.พ.ร. จำนวน 4 เรื่อง ดังนี้
กฎหมาย
เรื่อง ร่างพระราชกฤษฎีกาโอนกิจการบริหารและอำนาจหน้าที่ ของสำนักฝนหลวงและการบินเกษตร สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในส่วนที่เกี่ยวข้องเฉพาะอากาศยานปีกหมุน (เฮลิคอปเตอร์) ไปเป็นของสำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. .... |
คณะรัฐมนตรีมีมติให้ยุติการดำเนินการ ร่างพระราชกฤษฎีกาโอนกิจการบริหารและอำนาจหน้าที่ของ สำนักฝนหลวงและการบินเกษตร สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในส่วนที่เกี่ยวข้องเฉพาะอากาศยานปีกหมุน (เฮลิคอปเตอร์) ไปเป็นของสำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. .... ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทำความตกลงกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และดำเนินการตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาในเรื่องนี้ ทั้งนี้ เมื่อได้จัดตั้งหน่วยงานรองรับภารกิจด้านอากาศยานปีกหมุน (เฮลิคอปเตอร์) ในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแล้ว ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอตั้งงบประมาณของหน่วยงานดังกล่าว ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ต่อไป
กฎหมาย
เรื่อง ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... |
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) (ฉบับที่..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอว่า
1. ปัจจุบันรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นผู้รักษาการตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) พ.ศ. 2543 แต่สถาบันไม่มีผู้แทนจากกระทรวงเป็นคณะกรรมการสถาบัน ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการของสถาบันสอดคล้องตามนโยบายของรัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้รักษาการ อันจะทำให้การปฏิบัติงานของสถาบันมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สมควรมีผู้แทนจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการสถาบันด้วย
2. เพื่อให้การจัดทำงบดุล งบการเงิน และบัญชีทำการ มีระยะเวลาการจัดทำเพิ่มขึ้น เพื่อประสิทธิภาพและโอกาสในการปฏิบัติงานของผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง สมควรขยายเวลาการจัดทำเป็นหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันสิ้นปีบัญชีทุกปี จึงจำเป็นต้องแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกานี้ จึงได้เสนอร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญดังนี้
1. แก้ไขผู้แทนส่วนราชการจากผู้แทนการเคหะแห่งชาติ เป็นผู้แทนกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ร่างมาตรา 3)
2. แก้ไขเพิ่มเติมระยะเวลาการจัดทำงบดุล งบการเงิน และบัญชีทำการ ส่งผู้ตรวจสอบบัญชีจากเก้าสิบวันนับแต่วันสิ้นปีบัญชีทุกปี เป็น หนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันสิ้นปีบัญชีทุกปี
สังคม
เรื่อง ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2548 เรื่อง การจัดตั้งสถาบันเทคโนโลยีเซรามิกแห่งชาติ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ ภารกิจด้านเซรามิกและแก้ว ของกรมวิทยาศาสตร์บริการ |
คณะรัฐมนตรีให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2548 เรื่อง การจัดตั้งสถาบันเทคโนโลยีเซรามิกแห่งชาติ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับภารกิจด้านเซรามิกและแก้ว ของกรมวิทยาศาสตร์บริการ ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ แล้วมีมติดังนี้
1. เห็นชอบในหลักการให้คงบรรดากิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้งบประมาณ รวมทั้งข้าราชการและลูกจ้างของกรมวิทยาศาสตร์บริการทั้งหมด ซึ่งครอบคลุมถึงกิจการด้านเซรามิกและแก้ว ไว้ที่กรมวิทยาศาสตร์บริการ
2. ให้ชะลอการปรับปรุงร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันปฏิบัติการวิทยาศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)
พ.ศ. .... ไว้ก่อน
สังคม
เรื่อง การวิเคราะห์ความเสี่ยงตามหลักธรรมาภิบาล ของแผนงาน / โครงการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล |
คณะรัฐมนตรีพิจารณา การวิเคราะห์ความเสี่ยงตามหลักธรรมาภิบาลของแผนงาน / โครงการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ แล้วมีมติเห็นชอบดังนี้
1. ให้กระทรวงที่มีผู้ตรวจราชการ จัดให้มีการวิเคราะห์ความเสี่ยงตามหลักธรรมาภิบาลของแผนงาน / โครงการที่จัดทำขึ้นตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล โดยแนบผลการวิเคราะห์ความเสี่ยงไปพร้อมกับคำของงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ของส่วนราชการในสังกัดที่จะส่งให้สำนักงบประมาณ (สงป.) ภายในวันที่ 12 เมษายน 2550 ตามปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2551 ทั้งนี้ ให้มีผู้ตรวจราชการกระทรวงร่วมในการวิเคราะห์ความเสี่ยงของแผนงาน/โครงการดังกล่าวด้วย
2. ให้ผู้ตรวจราชการพิจาณาคัดเลือกแผนงาน / โครงการที่มีดัชนีความเสี่ยงสูงตามหลักธรรมาภิบาลที่หน่วยงานได้ทำการศึกษา วิเคราะห์ไว้แล้ว มากำหนดไว้ในแผนการตรวจราชการแบบบูรณาการเพื่อมุ่งผลสัมฤทธิ์ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ต่อไป
3. ให้เริ่มดำเนินการตามข้อ 1 และ 2 ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 เป็นต้นไป
4. การจัดคำของบประมาณในโอกาสต่อไป ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และ สงป. รับไปพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางการคัดเลือกแผนงาน / โครงการ ที่ควรจะได้มีการวิเคราะห์ความเสี่ยงตามหลักธรรมาภิบาล ตลอดจนองค์ประกอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ความเสี่ยงดังกล่าว เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันสำหรับทุกหน่วยงาน และนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบให้ทุกหน่วยถือปฏิบัติ ทั้งนี้ ให้รวมถึงการของบประมาณกลางของหน่วยงานต่าง ๆ ด้วย
หมายเหตุ ผลสรุปข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรีนี้ เป็นเพียงการนำเสนอในเชิงข่าวเท่านั้น มิอาจถือเป็นมติของที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ จึงขอให้ตรวจสอบมติและขอรายละเอียดเพิ่มเติม จากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ณ สำนักบริหารการประชุมคณะรัฐมนตรี โทร 0 2280 9000 ต่อ 331 - 333
E-Searching เพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaigov.go.th
เผยแพร่ข้อมูลเมื่อ 10 เมษายน 2550 13:26:13 ปรับปรุงข้อมูลล่าสุดเมื่อ 10 เมษายน 2550 13:26:13