Logo of OPDC ก.พ.ร. FAQ สำหรับการค้นหา  |  ภาษาไทย   |   English   |   Mobile   |   Help   |  

หน้าหลัก หน้าหลัก | ติดต่อ | ผังเว็บไซต์ |  หน้าหลัก
Share แชร์ พิมพ์หน้านี้
ข่าวเด่น ก.พ.ร. / ปี 2556 / กุมภาพันธ์ / The ASEAN Workshop on the New Era for the Public Sector Reform in ASEAN Community

The ASEAN Workshop on the New Era for the Public Sector Reform in ASEAN Community

The ASEAN Workshop on the New Era
for the Public Sector Reform in ASEAN Community




 

สำนักงาน ก.พ.ร. ร่วมกับ ธนาคารโลก (World Bank) ประเทศไทย และ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ The ASEAN Workshop on the New Era for the Public Sector Reform in ASEAN Community  เมื่อวันที่  17 18 มกราคม 2556  ณ ห้องประชุมชั้น  4 โรงแรม  Novotel Bangkok สยามสแควร์ โดยได้รับเกียรติจาก รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล) เป็นประธานเปิดงาน

การประชุมเชิงปฏิบัติการ  The ASEAN Workshop on the New Era for the Public Sector Reform in ASEAN Community จัด ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนผลักดันการดำเนินการ  ตามกรอบแผนงานภายใต้ ASEAN Blueprint ในด้านการส่งเสริมธรรมาภิบาล ซึ่งระบุมาตรการในการจัดหาเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้  ประสบการณ์ให้แก่ประเทศสมาชิกอาเซียนให้มีพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนองค์ความ รู้ระหว่างกัน  พร้อมทั้งเสริมสร้างความร่วมมือ แลกเปลี่ยนองค์ความรู้  และนำองค์ความรู้ที่เป็นเลิศ (Best  Practices) ด้านการส่งเสริมธรรมาภิบาลของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี  และการพัฒนาสมรรถภาพระบบราชการ ระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน  อันนำไปสู่การปฏิบัติงานของภาครัฐที่มีประสิทธิภาพ  ประสิทธิผล  รวดเร็ว สนองตอบต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกที่มีลักษณะพลวัตร และเพิ่มศักยภาพในเชิงแข่งขันให้แก่ประเทศสมาชิกอาเซียน  อีกทั้งยังเป็นการสร้างให้เกิดเครือข่ายความสัมพันธ์ของประเทศสมาชิกอาเซียน (Experts Community of Practice) ในด้านการส่งเสริมธรรมาภิบาลของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี  ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ประเทศสมาชิกอาเซียนโดยรวม  ในการวางแนวทางร่วมกันในการส่งเสริมหลักธรรมาภิบาลเพื่อการพัฒนาระบบราชการ  รวมทั้งวางแผนความร่วมมือในอนาคตระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน อันนำไปสู่มาตรฐานการพัฒนาหลักธรรมาภิบาลร่วมกันในท้ายที่สุด


สำหรับองค์ความรู้ที่ผู้เข้าร่วมการประชุมได้รับ  จากการประชุมเชิงปฏิบัติการฯ ครั้งนี้  เริ่มต้นด้วยการได้รับเกียรติจาก รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล) มากล่าวเปิดงาน พร้อมให้องค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ถึง  การรวมตัวกันเป็นภูมิภาคอาเซียน ความสำคัญของการก้าวเข้าไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียนปี พ.ศ. 2558 อีกทั้ง แผนงานของรัฐบาลไทยในการเตรียมความพร้อมให้แก่ประเทศเพื่อรองรับการเข้าสู่ การเป็นประชาคมอาเซียน  ทั้งนี้ เพื่อให้ประเทศสมาชิกอาเซียนได้รับรู้ร่วมกันว่า  รัฐบาลไทยมีความตระหนัก เล็งเห็นถึงความสำคัญและความจำเป็นในการวางแนวทาง เ พื่อรองรับการเป็นประชาคมอาเซียนที่จะมาถึงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้  พร้อมกันนี้ยังได้รับเกียรติจาก Prof. Matthew Stephenson จาก  Harvard Law School มาร่วมบรรยายพิเศษในหัวข้อ AEC 2015: A New Era of the Public Sector Reform in ASEAN Community โดยเน้นให้เห็นว่าความสำคัญของการปฏิรูประบบราชการที่มุ่งเน้นที่การพัฒนา  ปรับปรุงระบบการจัดให้บริการสาธารณะแก่ประประชาชน  การสร้างให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจของประชาชนที่มีต่อรัฐบาล  ตลอดจนการต่อสู้กับปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น จะเป็นกลไกสำคัญในการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประเทศในอันจะนำไปสู่ความเจริญ เติบที่ยั่งยืนต่อไป




จากนั้น เป็นการนำเสนอมุมมอง ประสบการณ์ของตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศ อาทิ Asian Development Bank (ADB) และ  World Bank ร่วมกับสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศต้นแบบที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนา ระบบราชการ คือ University of Oulu จากประเทศฟินแลนด์ มาร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ และมุมมองของตนเองที่มีต่อความท้าทาย  และความสำเร็จของการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียนของประเทสสมาชิกอาเซียน  และที่สำคัญที่สุด การเปิดเวทีให้ผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียนที่เข้าร่วมการประชุมเชิง ปฏิบัติการฯ  ในครั้งนี้ ได้มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ผ่านมา ที่ประเทศตนได้ดำเนินการด้านการพัฒนาระบบราชการ  พร้อมทั้งแผนงานในอนาคตที่จะดำเนินการเพื่อรองรับการเป็นประชาคมอาเซียน  ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศสมาชิกอาเซียนในการสานต่อการดำเนินงานให้เป็น ไปในทิศทางเดียวกัน  สุดท้าย เป็นการนำเสนอกิจกรรมที่เรียกว่า Market Place of Ideas เพื่อเปิดโอกาสให้ประเทศสมาชิกได้ร่วมกันวางแนวทางการพัฒนา  ยกระดับการบริหารจัดการภาครัฐที่ตั้งอยู่บนหลักธรรมาภิบาล  อันจะนำไปสู่ความร่วมมือกันของกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนต่อไป


 

การ ประชุมเชิงปฏิบัติการดังกล่าว มีประเทศสมาชิกที่เข้าร่วมการประชุมทั้งสิ้นจำนวน 9 ประเทศ คือ บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย พม่า ฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนาม (ยกเว้นสิงคโปร์) ซึ่งได้มีการแลกเปลี่ยนสถานะการเตรียมความพร้อมการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนใน ด้านต่าง ๆ   โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการพัฒนาระบบราชการ การพัฒนาระบบการให้บริการสาธารณะแก่ประชาชน  โดยมีประเด็นที่แต่ละประเทศให้ความสนใจร่วมกันคือ การพัฒนา ยกระดับการบริหารจัดการของภาครัฐที่ตั้งอยู่บนหลักธรรมาภิบาลเพื่อรองรับการ เข้าสู่ประชาคมอาเซียน  การส่งเสริมความโปร่งใสในการปฏิบัติราชการ  (Anti-Corruption)  และที่สำคัญที่สุดคือ การพัฒนาระบบการให้บริการสาธารณะแก่ประชาชนโดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ทั้งนี้ ยังอาจกล่าวได้ว่า  ความร่วมมือกันในครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างสูงในการกระชับความสัมพันธ์ ของหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบด้านการพัฒนาระบบราชการของประเทศสมาชิกอา เซียนให้มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น  ซึ่งปัจจุบัน มีหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบด้านการพัฒนาระบบราชการเช่นเดียวกับสำนัก งาน ก.พ.ร. ในประเทศสมาชิกอาเซียนทั้งหมดด้วยกัน 5 ประเทศเท่านั้น กล่าวคือ  ประเทศกัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม และประเทศไทย ในขณะที่ประเทศสมาชิกอาเซียนอื่น ๆ นั้น หน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการพัฒนาระบบราชการจะแฝงอยู่ในหน่วยงานที่ทำ หน้าที่พัฒนากำลังคนของภาครัฐ  หรือไม่ก็อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักนายกรัฐมนตรี



 
ผล ที่ได้รับจากการประชุมเชิงปฏิบัติการ  ซึ่งนับว่าเป็นก้าวแรกของความร่วมมือที่ประเทศสมาชิกอาเซียนจะร่วมกันผลัก ดันให้สำเร็จต่อไปในอนาคตสรุปรายละเอียดได้ ดังนี้

● การประชุมเชิงปฏิบัติการ/การสัมมนาประจำปีระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในการพัฒนาระบบ ราชการภายใต้เครือข่ายความร่วมมือที่เรียกว่า ASEAN Pubs (ASEAN Public Sector Agencies) ซึ่งประเทศสมาชิกจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ

● การแลกเปลี่ยนข้อมูลผ่านระบบการประชุมทางไกล  (VDO-Conference) เพื่อลดต้นทุนและลดระยะเวลาในการติดต่อระหว่างประเทศ

● การศึกษาดูงานยังประเทศต้นแบบ

● การแลกเปลี่ยนข้าราชการเพื่อปฏิบัติราชการในกลุ่มประเทศสมาชิก รวมถึงการแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญฯ ระหว่างกัน

● การจัดทำคู่มือหรือแนวทางที่เป็นเลิศในการปฏิรูประบบราชการเพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเป็นประชาคมอาเซียน

● การจัดทำ  ASEAN Website หรือ วารสารทางวิชาการด้านการพัฒนาระบบราชการ  (ASEAN Public Administrative Review) เพื่อเป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสารและแจ้งกำหนดการ ข่าวสาร ความเคลื่อนไหวในการจัดประชุมต่างๆ ระหว่างประเทศสมาชิก




กิจกรรม ความร่วมมือครั้งต่อไปที่กลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนจะร่วมกันผลักดันนั้น  นับเป็นมิติใหม่แห่งความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐของประเทศสมาชิกอาเซียน ในการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนต่อไป


กลุ่มสื่อสารฯ สลธ. / ข่าว & ภาพ
กลุ่มสื่อสารฯ / จัดทำ
วสุนธรา (สลธ.) / รายงาน

 

 


เผยแพร่ข้อมูลเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2556 09:12:07 ปรับปรุงข้อมูลล่าสุดเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2556 09:35:40
ข่าวเด่น ก.พ.ร.
    ลิงค์     |     สมาชิกเครือข่าย     |     RSS feed     |     คำถามที่พบบ่อย            

เกี่ยวกับ

กฏหมายและระเบียบ

หนังสือเวียน

ข้อมูลหน่วยงานภาครัฐ

ศูนย์ความรู้

ประชาสัมพันธ์

W3C   Facebook Facebook สำนักงาน ก.พ.ร.   PMQA Channel  ฐานข้อมูลหน่วยงานภาครัฐ  ipv6 ready  www.info.go.th  การปฏิเสธความรับผิดชอบ |  Webmail| Intranet สำหรับข้าราชการ | ผังเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ 

Slocan

สงวนลิขสิทธิ์โดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ

59/1 ถนนพิษณุโลก แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300 โทร. 02 356 9999 โทรสาร 02 281 7882 สายด่วน 1785 e-mail: administrator@opdc.go.th