สำนักงาน ก.พ.ร. กับ
โครงการศึกษาการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต
เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2555 สำนักงาน ก.พ.ร. ได้ดำเนินการทดสอบแผนความต่อเนื่องในการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต ณ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นขั้นตอนหนึ่งของการศึกษาเพื่อจัดทำคู่มือการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต โดยมี นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ให้เกียรติเป็นประธาน พร้อมด้วย นายวิโรจน์ ประยูรวิวัฒน์ หัวหน้าปศุสัตว์จังหวัดฉะเชิงเทรา นายทวีสิฎฐ์ บุญญาภิบาล หัวหน้ากลุ่มพัฒนาระบบบริหาร กรมปศุสัตว์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมดำเนินการทดสอบแผนบริหารความต่อเนื่อง
สำนักงาน ก.พ.ร. ร่วมกับ บริษัท ดีล้อยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ จำกัด ดำเนินการศึกษาเกี่ยวกับแนวทางการเตรียมความพร้อมของหน่วยงานภาครัฐในภาวะวิกฤต เพื่อจัดทำคู่มือการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต และ
เผยแพร่ให้แก่หน่วยงานราชการต่าง ๆ
ใช้เป็นแนวทางในการเตรียมความพร้อมขององค์การให้สามารถตอบสนองต่อปัญหาได้
อย่างทันท่วงที และปฏิบัติงานให้บริการประชาชนได้อย่างต่อเนื่อง
ในสถานการณ์วิกฤต โดยมี จ.ฉะเชิงเทรา
เป็นหน่วยงานนำร่องต้นแบบในระดับจังหวัด
ซึ่งภัยที่ทางจังหวัดประเมินว่ามีความเสี่ยงสูง คือ โรคระบาดในสัตว์ปีก
เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีการเลี้ยงไก่ไข่มากที่สุดในประเทศไทย
และเป็นระบบฟาร์มเปิด และเป็นหนึ่งในภัยที่ร้ายแรง
หากเกิดขึ้นจะมีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ
รวมทั้งสร้างความตื่นตระหนกให้แก่ประชาชนได้ โดยเฉพาะโรคอุบัติใหม่
ซึ่งการศึกษาดังกล่าวได้ดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว
ในส่วนของการวิเคราะห์ผลกระทบจากเหตุการณ์วิกฤต
การศึกษาแนวทางการบริหารจัดการ
และการจัดทำคู่มือการบริหารความพร้อมต่อภาวะวิกฤต
ซึ่งจะมีข้อมูลในการเตรียมความพร้อมทรัพยากรที่มีความสำคัญด้านต่าง ๆ
ได้แก่ บุคลากร สถานที่ปฏิบัติงาน อุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวก
เทคโนโลยีสารสนเทศ ข้อมูลสำคัญ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
โดยหน่วยงานราชการต้องสามารถนำไปปรับใช้กับภัยในสถานการณ์อื่น ๆ ได้
การ
ทดสอบแผนความต่อเนื่องในการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤตครั้งนี้
ถือเป็นขั้นตอนหลังจากการวิเคราะห์ผลกระทบและจัดทำแผนฯ เพื่อทดสอบว่า
เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงจะสามารถนำคู่มือฯ มาใช้ดำเนินการได้อย่างไร
และมีประสิทธิภาพเพียงใด
รวมทั้งหาข้อบกพร่องที่ต้องนำมาแก้ไขปรับปรุงเพิ่มเติม
ซึ่งการทดสอบแผนใช้วิธีการจำลองสถานการณ์
ว่าเกิดไข้หวัดนกระบาดในประเทศเพื่อนบ้าน แล้วระบาดเข้ามายัง จ.ฉะเชิงเทรา
พบสัตว์ตายเป็นจำนวนมาก
จำเป็นต้องมีการเก็บตัวอย่างและฉีดยาฆ่าเชื้อในฟาร์มเลี้ยงสัตว์
ในขณะเดียวกันได้เกิดอุบัติเหตุรถชน
แล้วเกิดเพลิงไหิเวณด้านหน้าที่ทำการปศุสัตว์จังหวัด
ซึ่งเพลิงไหม้ได้ลุกลามเข้าไปยังอาคารสำนักงานทำให้เกิดความเสียหายทั้ง
อาคาร เป็นเหตุให้สถานที่ปฏิบัติงานและทรัพยากรในการทำงานใช้การไม่ได้
นายวีระพงษ์ กฤษดาวัฒน์ ที่
ปรึกษาโครงการจาก บริษัทดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ จำกัด เสนอแนะว่า
เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ หัวหน้าคณะบริหารความต่อเนื่อง ที่ประกอบไปด้วย
หัวหน้ากลุ่มงาน และหัวหน้าฝ่ายงานต้องมาร่วมประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์
แบ่งบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบ แจ้งเหตุไปยังบุคลากรต่าง ๆ
ทบทวนกระบวนการทำงาน ตรวจสอบบุคลากรในการทำงาน
รวมทั้งพิจารณาสถานที่ทำงานและทรัพยากรที่ต้องใช้ในการทำงาน
ซึ่งในส่วนนี้จำเป็นที่จะต้องมีการวางแผนไว้ล่วงหน้า
เมื่อเกิดเหตุการณ์วิกฤตจะได้ใช้ได้ทันที ทั้งนี้
หัวหน้าคณะต้องมีความชัดเจนในขั้นตอนการดำเนินการซึ่งในคู่มือฯจะมีรายการ
(Check list) เพื่อช่วยให้การดำเนินการมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ในส่วนของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่พบว่าเป็นทรัพยากรที่มีความสำคัญมากในการให้บริการประชาชน นายทวีสิฎฐ์ บุญญาภิบาล
หัวหน้ากลุ่มพัฒนาระบบบริหาร กรมปศุสัตว์ ได้ให้ข้อมูลว่า
ปศุสัตว์จังหวัดต้องเชื่อมต่อระบบเทคโนโลยีสารสนเทศกับทางกรมปศุสัตว์ใน
ส่วนกลาง ซึ่งกรมปศุสัตว์เป็นผู้ดูแลระบบ หากระบบเกิดปัญหาขัดข้อง
ปศุสัตว์จังหวัดจะไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ผู้ประกอบการได้
ทางกรมจึงมีนโยบายปรับปรุงเซิฟเวอร์และมีการตั้งศูนย์คอมพิวเตอร์สำรอง
เมื่อระบบขัดข้องก็จะย้ายไปใช้อีกระบบหนึ่ง
ซึ่งจะสามารถดำเนินงานต่อได้และสามารถแก้ไขระบบที่ขัดข้องภายในระยะเวลาที่
ต้องการได้ ซึ่งสามารถสร้างความมั่นใจในการทำงานได้อีกทางหนึ่ง
หลังจากการทดสอบแผนฯ เสร็จสิ้น นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์
รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เผยว่า
เมื่อเกิดเหตุการณ์วิกฤตจะเกิดความสับสนในการดำเนินการ
มีปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานมากมาย ถ้ามีแผนฯ
จะทำให้หน่วยงานราชการมีแนวทางในการปฏิบัติงานที่ถูกต้อง
สามารถประคองการปฏิบัติงานให้ดำเนินไปได้อย่างไม่หยุดชะงัก
เพื่อประโยชน์ในการให้บริการแก่ประชาชน ทั้งนี้
ทางจังหวัดจะจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต
ให้แก่ส่วนราชการต่างๆ ในสังกัด
เพื่อให้ส่วนราชการได้นำแนวทางดังกล่าวมาจัดทำแผนบริหารความพร้อมต่อภาวะ
วิกฤตของหน่วยงาน ตามโอกาสความเสี่ยงของหน่วยงานนั้น ๆ
เมื่อหน่วยงานมีแผนฯ
เป็นของตนเองแล้วก็จะมีความพร้อมในการรับมือต่อภาวะวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นได้
ทุกเมื่อ
ทั้งนี้ สำนักงาน ก.พ.ร. จะดำเนินการศึกษาแนวทางการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต ในหน่วยงานนำร่องระดับกรม ได้แก่ กรมการแพทย์ ต่อไป
สุปรียา (สลธ.) / ข่าว & ภาพ
กลุ่มบริหารการเปลี่ยนแปลง 3 สำนักนวัตกรรมฯ / ข้อมูล
วสุนธรา (สลธ.) / จัดทำ
เผยแพร่ข้อมูลเมื่อ 4 มกราคม 2556 14:26:30 ปรับปรุงข้อมูลล่าสุดเมื่อ 4 มกราคม 2556 14:26:30