ก.พ.ร. จัดประชุมเรื่อง
การปรับปรุงแผนปฏิบัติราชการ 4 ปี ของส่วนราชการ
ในประเด็นยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมธรรมาภิบาล
เมื่อวันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2555 ที่ผ่านมา สำนักงาน ก.พ.ร. ได้จัดประชุมเรื่อง การปรับปรุงแผนปฏิบัติราชการ 4 ปี ของส่วนราชการในประเด็นยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมธรรมาภิบาล ซึ่งผู้แทนจากส่วนราชการต่างๆ เข้าร่วม โดยมี เลขาธิการ ก.พ.ร. ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ เป็น
ประธานกล่าวเปิดประชุม
พร้อมชี้แจงแนวทางการดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต
คอร์รัปชั่น (ศปท.) ณ โรงแรมโกลเด้นทิวลิป ซอฟเฟอริน กรุงเทพฯ
ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ
ก.พ.ร. ได้กล่าวถึงปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นว่า
ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นปัญหาสำคัญและเป็นหน้าที่ภารกิจของทุกคนที่จะ
ต้องทำให้เกิดความโปร่งใส คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม
2555 เห็นชอบให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อต้าน การทุจริตคอร์รัปชั่น (ศปท.)
ขึ้น โดยให้จัดตั้งในระดับกระทรวงและเชื่อมโยงการทำงานไปสู่ระดับกรม
ทั้งนี้ การมีศูนย์ปฏิบัติการดังกล่าวไม่ได้หมายความว่าในหน่วยงานนั้นๆ
จะมีการทุจริต แต่ถือเป็นการป้องกันและลดโอกาสที่จะเกิดขึ้น
โดยขณะนี้หลายส่วนราชการก็ได้เริ่มดำเนินการไปแล้ว ภายใต้โครงการ 1 กรม 1
ป้องกันโกง ซึ่งต้องอาศัยการวิเคราะห์โอกาสความเป็นไปได้ วิ
เคราะห์ความเสี่ยง วิเคราะห์สิ่งที่สังคมสงสัย พร้อมทั้งหาวิธีในการป้องกัน
โดย ศปท. จะต้องดูว่าแผนปฏิบัติราชการกระทรวง
แผนปฏิบัติราชการกรมสะท้อนการป้องกันและปราบปรามการทุจริตมากน้อยแค่ไหน
ต้องอาศัยพลังของหลายๆ ฝ่าย
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งอยากให้เป็นการสะท้อนแผนปฏิบัติการของทั้งกระทรวง
ไม่ใช่เฉพาะในส่วนของสำนักงานปลัดกระทรวงเท่านั้น เลขาธิการ ก.พ.ร. กล่าว
หลังจากนั้น จึงเป็นการชี้แจงแนวทางเพื่อรองรับการดำเนินงานของ ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น (ศปท.) โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ปัณรส มาลากุล ณ อยุธยา ได้
อธิบายเหตุผลความจำเป็นที่ต้องจัดตั้ง และกล่าวถึงอำนาจหน้าที่ของ ศปท.
ซึ่งจะเป็นเหมือนที่ปรึกษาให้ข้อเสนอแนะแก่ส่วนราชการ
รวมทั้งจัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบของส่วน
ราชการ
ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
มาตรการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ
และนโยบายของรัฐบาลที่เกี่ยวข้อง ประสานงานเร่งรัด กำกับ
ขับเคลื่อนให้การปฏิบัติงานเป็นไปตามแผนฯ ประสาน
เร่งรัดและติดตามการดำเนินงานเกี่ยวกับเรื่องข้อร้องเรียนต่าง ๆ
ติดตาม ประเมินผล และจัดทำรายงานการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
และประพฤติมิชอบ ของส่วนราชการและการคุ้มครองจริยธรรมเสนอหัวหน้าส่วนราชการ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ
ใน
ส่วนของแนวทางที่จะจัดทำแผนปฏิบัติราชการ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ปัณรส
กล่าวว่า ปกติแต่ละกระทรวงก็จะมีแผนปฏิบัติราชการ 4 ปีอยู่แล้ว
ซึ่งก็จะมีการวิเคราะห์ SWOT
สำหรับแนวทางการดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น
กระทรวงจะต้องปรับปรุงแผนปฏิบัติราชการ 4 ปี ของกระทรวง
โดยเพิ่มประเด็นยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมธรรมาภิบาลฯ
กระทรวงต้องศึกษาวิเคราะห์ความท้าทายภายนอกและภายใน
เกี่ยวกับประเด็นป้องกันและปราบปรามการทุจริตที่มีผลกระทบต่อการดำเนินงาน
ของกระทรวง ตามแนวทางการศึกษาวิเคราะห์ ดังนี้
ความท้าทายภายนอก เช่น กระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก นโยบายรัฐบาล แผนการบริหารราชการแผ่นดิน ยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ
ความท้าทายภายใน เช่น รายงานผลระบบการควบคุมภายใน รายงานของ คตป.รายงานของ ป.ป.ช.
รายงานของ สตง. รายงานของ ป.ป.ท. รายงานจริยธรรมของ ก.พ.
ข้อมูลตัวชี้วัดความโปร่งใสของกระทรวง
ผลสำรวจเกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชั่น/ภาพลักษณ์องค์การ
ข้อร้องเรียนของประชาชน ฯลฯ ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาการทุจริตฯ ของกระทรวง
โดยแนวทางการดำเนินงานของ ศปท. ประกอบไปด้วย 9 ขั้นตอน ดังต่อไปนี้
1.
ศปท. ปรับปรุงแผนปฏิบัติราชการ 4 ปีของกระทรวง
โดยเพิ่มประเด็นยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมธรรมาภิบาลให้สมบูรณ์
โดยเฉพาะด้านการสร้างความโปร่งใส หรือการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ
และการส่งเสริมและคุ้มครองจริยธรรม
2.
ส่วนราชการในสังกัดปรับปรุงแผนปฏิบัติราชการ 4 ปี
ให้สอดคล้องกับแผนปฏิบัติราชการ 4 ปีของกระทรวง
โดยเพิ่มประเด็นยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมธรรมาภิบาล
โดยเฉพาะด้านการสร้างความโปร่งใสหรือการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ
และการส่งเสริมและคุ้มครองจริยธรรม (ตามขั้นตอนที่ 1)
3.
ศปท.และส่วนราชการในสังกัดร่วมกันปรับปรุงแผนปฏิบัติราชการประจำปีของส่วน
ราชการให้สอดคล้องกับแผนปฏิบัติราชการ 4 ปี (ตามขั้นตอนที่ 2)
และนำแผนปฏิบัติราชการประจำปีที่กำหนดไปสู่การปฏิบัติ
4.
การจัดการเรื่องร้องเรียน ให้ ศปท.จัดการเรื่องร้องเรียน
โดยส่งเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่ถูกร้องเรียนและติดตามผลอย่างต่อ
เนื่องจนได้ข้อยุติ
5.
ศปท. ติดตามผลการดำเนินงานงส่วนราชการในสังกัด
โดยให้ส่วนราชการในสังกัดรายงานผลการดำเนินการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปี
(เฉพาะประเด็นยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับ การส่งเสริมธรรมาภิบาล
โดยเฉพาะด้านการสร้างความโปร่งใสหรือการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ
และการส่งเสริมและคุ้มครองจริยธรรม) ส่งมายัง ศปท. เพื่อการสรุปผล
การดำเนินงานในภาพรวมของกระทรวงทุก 2 เดือน
6.
ศปท. จัดทำรายงานสรุปผลการดำเนินงานในภาพรวมของกระทรวงทุก 6 เดือน
(ตามขั้นตอนที่ 5) สำเนาเสนอปลัดกระทรวง/รัฐมนตรี ส่งไปยังสำนักงาน ก.พ.ร.
7.
ศปท. นำผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีมาปรับปรุง (Update)
แผนปฏิบัติราชการฯ ของกระทรวง
ในประเด็นยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมธรรมาภิบาลฯ
8. สำนักงาน ก.พ.ร.จัดประชุมสรุปผลการดำเนินงานของ ศปท. ในภาพรวมของทุกส่วนราชการทุก 6 เดือน
9. สำนักงาน ก.พ.ร. จัดทำรายงานประจำปีของ ศปท. เสนอคณะรัฐมนตรี
หลัง
จากที่ผู้เข้าร่วมประชุมได้รับทราบแนวทางการปรับปรุงแผนปฏิบัติราชการ 4
ปีของกระทรวงเพื่อรองรับการดำเนินงานของ ศปท. แล้ว
เพื่อให้มองเห็นภาพการดำเนินงานชัดเจนขึ้น
จึงได้เชิญผู้แทนจากกระทรวงพลังงาน นางวารุณี เตยต่อวงศ์ ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาระบบบริหาร และ นายพีรพงษ์ สุทธสิทธิ์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผน สำนักงานปลัดกระทรวงพลังงาน นำเสนอการปรับปรุงแผนปฏิบัติราชการ 4 ปีและตัวอย่างการดำเนินงานในส่วนของกระทรวงพลังงาน โดย
ได้กล่าวถึงความเป็นมาของกระทรวงพลังงาน
การพัฒนายุทธศาสตร์ของกระทรวงพลังงาน พ.ศ. 2555 - 2559
โดยพิจารณาจากโครงสร้างนโยบายรัฐบาลและส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงพลังงาน
เพื่อนำมากำหนดกรอบแนวคิด เส้นทางสู่แผนยุทธศาสตร์กระทรวงพลังงาน ในระยะ 5
ปี (พ.ศ.2555 - 2559) ซึ่งจะมีการวิเคราะห์โดยใช้ปัจจัยภายใน ภายนอก
มาทำเป็น TOWS matrix คือวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และภัยคุกคาม
เพื่อกำหนดเป็นทางเลือกกลยุทธ์หลักในแต่ละประเด็นยุทธศาสตร์ที่เชื่อมโยงกัน
ระหว่างนโยบายรัฐบาลกับยุทธศาสตร์พลังงาน ปีงบประมาณ 2556
และปัจจุบันมีการนำประเด็นท้าทายมาวิเคราะห์เพิ่มเติม
และกำหนดเป็นยุทธศาสตร์กระทรวงพลังงาน ซึ่งมีทั้งหมด 6 ยุทธศาสตร์
โดยประเด็นของ ศปท. จะอยู่ในยุทธศาสตร์ที่ 6 ซึ่งเดิมเป็นชื่อ
ยุทธศาสตร์การพัฒนาองค์การและเพื่อให้สอดคล้องกับหลักการส่งเสริมธรรมาภิบาล
จึงได้เสนอผู้บริหารเพื่อพิจารณาปรับชื่อเป็น
การเป็นองค์กรสมรรถนะสูงที่ยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล
และได้มีการปรับปรุงแผนปฏิบัติราชการ 4 ปีของกระทรวงพลังงาน
เพื่อรองรับการดำเนินงานของ ศปท.
โดย
แผนปฏิบัติราชการ 4 ปี กระทรวงพลังงาน พ.ศ. 2555-2558
ได้นำประเด็นท้าทายต่อการบรรลุเป้าประสงค์ของยุทธศาสตร์ที่ 6 มาวิเคราะห์
เพื่อจัดอันดับประเด็นที่ท้าทาย ซึ่งจากรายงานของ ค.ต.ป. ปปช. และสตง.
ไม่พบประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชั่น
แต่เพื่อลดความเสี่ยงต่อปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น
จึงได้กำหนดประเด็นท้าทายและมาตรการในการป้องกันและลดโอกาสที่จะเกิดขึ้น
ดังนี้ 1) กระบวนการอนุมัติ อนุญาตและตรวจสอบต่างๆ
โดยมีการทบทวนปรับปรุงกระบวนงานและจัดทำคู่มือการปฏิบัติงาน 2)
ความรู้ความเข้าใจของเจ้าหน้าที่
โดยเฉพาะเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
โดยจะพัฒนาบุคลากรเพื่อป้องกันและปราบปรามการทุจริต และ 3)
การตรวจสอบและวิเคราะห์เรื่องร้องเรียนต่างๆ
โดยการพัฒนาระบบติดตามประเมินผล ข้อร้องเรียนและการแก้ไข
ซึ่งกระทรวงพลังงานมีการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาลอย่างมีส่วนร่วมกับ
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
นำไปสู่การกำหนดกลยุทธ์พัฒนาระบบการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริต
คอร์รัปชั่น (ศปท.) และแผนงาน/โครงการ คือ
แผนงานพัฒนาระบบเพื่อสร้างความโปร่งใสในการดำเนินการ
แผนงานพัฒนาบุคลากรในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
และแผนงานพัฒนาระบบติดตามประเมินผลข้อร้องเรียนและการแก้ไข
ซึ่งในแต่ละแผนงาน/โครงการจะมีกิจกรรมที่ส่งเสริมธรรมาภิบาล เช่น
การเสริมสร้างความโปร่งใสในกระบวนงานออกใบอนุญาตประกอบกิจการบรรจุก๊าซ LPG
การพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ของรัฐในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
การส่งเสริมความเข้มแข็งในการปราบปรามและป้องกันการทุจริต
และการสำรวจความคิดเห็นของข้าราชการ
ประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของ
ราชการ
ภาย
หลังจากการบรรยายก็มีการเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้แสดงความความคิด
เห็นรวมถึงซักถามในประเด็นข้อสงสัย
ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของความเข้าใจในการจัดตั้ง ศปท. อัตรากำลังคน
อำนาจหน้าที่ของ ศปท. โดยมี นางกิตติยา คัมภีร์ ผู้อำนวยการสำนักเผยแพร่และสนับสนุนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบราชการ สำนักงาน ก.พ.ร. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ปัณรส มาลากุล ณ อยุธยา และ นางวารุณี เตยต่อวงศ์ ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาระบบบริหารกระทรวงพลังงาน ร่วมตอบข้อซักถาม
อัจฉราพร (สำนักเผยแพร่ฯ), อักสรณ์ (สลธ.) /ข่าว
สุปรียา (สลธ.) / ภาพ
ผอ.กิตติยา (ผอ.สำนักเผยแพร่ฯ) /ตรวจ
เผยแพร่ข้อมูลเมื่อ 20 พฤศจิกายน 2555 16:00:18 ปรับปรุงข้อมูลล่าสุดเมื่อ 20 พฤศจิกายน 2555 16:00:18