การประกาศแนวทางการดำเนินการในระยะต่อไปของรัฐบาล
ในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2555 ที่ผ่านมา เวลา 9.30 น. ณ ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ รัฐบาลไทย โดย นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในงาน การประกาศแนวทางการดำเนินการในระยะต่อไปของรัฐบาลในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น โดยมี คณะรัฐมนตรี ข้าราชการ ภาคเอกชน และประชาชน เข้าร่วมจำนวนมาก อาทิ
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ ก.พ.ร.
เป็นต้น
นายกรัฐมนตรีกล่าวเปิด
งานว่า วันนี้นับเป็นก้าวที่น่ายินดีอีกก้าวหนึ่ง
ที่ทุกภาคส่วนจะได้ร่วมกันดำเนินการอย่างจริงจังในการต่อต้านการทุจริต
คอร์รัปชั่น
ภาคราชการได้เริ่มพัฒนาหน่วยงานให้โปร่งใสตามหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัว ระเบิดจากข้างใน แล้ว ก้าวต่อไปคือ
การเปิดให้ภาคประชาชนและภาคเอกชน ภายนอก
ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาทุจริตคอรัปชั่นของภาคราชการ
รัฐบาลพร้อมที่จะรับรู้ รับฟัง
และตรวจสอบความทุกข์ร้อนของประชาชนและภาคเอกชนอันเกิดจากการดำเนินงานของ
ภาคราชการที่ไม่โปร่งใส ไม่เป็นธรรม และทุจริตคอร์รัปชั่น
เพื่อพัฒนาประเทศไทยและการบริหารงานราชการแผ่นดินของเราให้มีความสะอาดโปร่ง
ใส พร้อมทั้งสร้างภาพลักษณ์ของประเทศที่ดีขึ้นในระดับนานาชาติต่อไป
จากการรายงานผลสำรวจประจำปี
การคอร์รัปชั่นใน 14 เขตเศรษฐกิจทั่วเอเชีย
ของบริษัทที่ปรึกษาความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและการเมือง หรือ PERC
ได้ให้คะแนนประเทศไทย 6.57 ในปีนี้ ซึ่งดีกว่าปี 2554 ที่ไทยได้คะแนน 7.55
จึงถือได้ว่าแนวโน้มปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นในประเทศไทยดีขึ้น
อย่างไรก็ตามเราจำเป็นต้องร่วมมือและรวมพลังกันต่อไป
เพราะปัญหาคอร์รัปชั่นถือเป็นปัญหาของทั้งประเทศ ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง
หากหยุดยั้งปัญหานี้ได้ก็จะสร้างความเชื่อมั่น
และช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศ
และนักลงทุนต่างชาติที่ตัดสินใจจะเข้ามาลงทุน ก็จะมีความเชื่อมั่นมากขึ้น
รัฐบาลได้ให้ความสำคัญ
และดำเนินการอย่างจริงจังกับนโยบายการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น
ให้เป็น 1 ใน 16 นโยบายเร่งด่วนที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา
ซึ่งจากการประกาศยุทธศาสตร์ต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่น เมื่อวันที่ 18
พฤษภาคม ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ดำเนินการไปแล้วในส่วนของภาครัฐหลายโครงการ
และมีความคืบหน้าไปอย่างมาก เช่น โครงการ 1 กรม 1 ป้องกันโกง ที่ได้มอบหมายให้สำนักงาน ก.พ.ร. รับผิดชอบดูแล หรือการเปิดสายด่วน 1206
ให้แจ้งเบาะแสได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ลำดับถัดไปก็จะต้องเชื่อมต่อขยายความร่วมมือไปยังภาคเอกชน
และภาคประชาชนให้มากขึ้น โดยเปิดช่องทางการรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชั่นเพิ่มขึ้นอีก 2 ช่องทาง ได้แก่
1. การติดตั้งตู้รับเรื่องร้องเรียนทุจริต จำนวน 181 ตู้ โดยติดตั้งไว้ 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย ตามสถานที่สำคัญต่าง
ๆ ที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ง่ายน กทม. และ 76 จังหวัดทั่วประเทศ
เช่น ทำเนียบรัฐบาล ศาลากลางจังหวัด สถานีขนส่ง ท่าอากาศยาน ธนาคารกรุงไทย
บริษัทแอดวานซ์อินโฟร์เซอร์วิส และห้างสรรพสินค้าในเครือเซ็นทรัล
นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด
ในการรวบรวมเรื่องร้องเรียนจากตู้รับเรื่องร้องเรียนทั่วประเทศ
2. เปิด เว็บไซต์ www.stopcorruption.go.th และเปิดสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งเครือข่ายเฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ โปรแกรมไลน์
เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการป้องกันและ ปราบปรามทุจริตคอร์รัปชั่นแบบบูรณาการ
ซึ่งเป็นช่องทางติดตามข้อมูลข่าวสาร ผลการดำเนินงาน
การตรวจสอบในเรื่องร้องเรียนการทุจริตคอร์รัปชั่น
เข้ากับรูปแบบการดำเนินชีวิตของคนรุ่นใหม่
สร้างพลังเยาวชนให้เข้ามามีส่วนร่วมเป็นหนึ่งในพลังสังคมที่สำคัญ
ที่
สำคัญคือ วาระเร่งด่วนที่ประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 นี้
การสร้างกระบวนการที่โปร่งใสของภาคราชการ
เพื่อสนับสนุนการประกอบธุรกิจของภาคเอกชน และการรวมพลังของภาคส่วนต่าง ๆ
ในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น
จะเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างบรรยากาศการค้าการลงทุนระหว่างประเทศที่ดี
ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนและผู้ประกอบการ
ตลอดจนนำพาประเทศไทยก้าวไปสู่ประชาคมอาเซียนทั้งด้านความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
และการเมืองอย่างเต็มภาคภูมิ
รัฐบาลอยากเห็นภาค
ธุรกิจ และภาคประชาชน ลุกขึ้นมาทำงานร่วมกัน
เพราะภาครัฐฝ่ายเดียวคงทำไม่สำเร็จ
เราต้องช่วยกันทำเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศชาติ
สร้างภาพลักษณ์ที่ดีในระยะยาว เพื่อให้ประเทศมีความเชื่อมั่น
และยืนอยู่ได้อย่างสมศักดิ์ศรี นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าว
หลัง
จากนั้นนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี ผู้แทนจากภาคเอกชน และภาคีเครือข่าย
ร่วมแปรอักษรคำว่า "stop corruption" และลงนามประกาศเจตนารมณ์ร่วมกัน
โดยเขียนคำปฏิญาณลงบนกำแพงสีขาวขนาดใหญ่ 20 เมตรว่า
"สร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทย...ร่วมกันหยุด
คอร์รัปชั่น
รวมทั้งได้เยี่ยมชมนิทรรศการยุทธศาสตร์ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น
และนิทรรศการภาคีเครือข่าย ได้แก่ สำนักงาน ป.ป.ช. สำนักงาน ป.ป.ท.
กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และสำนักงาน ก.พ.
ในภาคบ่าย ได้มีการแสดงมินิคอนเสิร์ตจากฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก
สำหรับ
ในวันที่ 19 สิงหาคม 2555 ระหว่างเวลา 12.00 13.00 น.
มีการเสวนาร่วมจากดาราศิลปิน ป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ ในหัวข้อ
ปัญหาคอร์รัปชั่นไทยกับผลกระทบของประเทศชาติ
พร้อมกิจกรรมเล่นเกมส์แจกของรางวัลมากมาย
ทั้งนี้ ประชาชนทั่วไป
สามารถร้องเรียนการทุจริตคอร์รัปชั่นภาครัฐได้ผ่าน 3 ช่องทางดังกล่าว
ซึ่งเป็นการร่วมมือตรวจสอบภาครัฐในการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น
เพื่อร่วมพัฒนาประเทศไทยและการบริหารราชการแผ่นดินให้มีความสะอาดโปร่งใส
สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ภาคเอกชนและนักลงทุน
สร้างภาพลักษณ์ที่ดีในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืนต่อไป
นนทญา (สลธ.) / ข่าว & ภาพ
วสุนธรา (สลธ.) / รายงาน
กลุ่มสื่อสารฯ / จัดทำ
เผยแพร่ข้อมูลเมื่อ 23 สิงหาคม 2555 10:38:12 ปรับปรุงข้อมูลล่าสุดเมื่อ 23 สิงหาคม 2555 10:44:13