รายการ เดินหน้า...พัฒนาราชการไทย ตอน
ยุทธศาสตร์ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น
รายการ เดินหน้า...พัฒนาราชการไทย ที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2555 ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย เสนอเรื่อง ยุทธศาสตร์ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น โดยได้รับเกียรติจาก นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาลรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมสนทนากับ คุณศศิวรรณ์ เลิศวิริยะประภา พิธีกรในรายการ
เปิดรายการฯ ด้วยสกู๊ป การประกาศยุทธศาสตร์และแผนงานเชิงรุกของรัฐบาลในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น โดย นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวไว้ว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น เป็นอย่างมาก โดยได้กำหนดไว้เป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่ต้องเร่งดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน ในข้อ 1.3 คือ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบในภาครัฐอย่างจริงจัง โดยยึดหลักความโปร่งใสและมีธรรมาภิบาลที่เป็นสากล เพื่อให้การใช้ทรัพยากรในการพัฒนาประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์ต่อประเทศโดยรวม
หลังจากนั้น เป็นการสนทนา โดย นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาลรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นปัญหาที่มีมานานและต้องเร่งแก้ไข ซึ่งส่งผลให้ในปัจจุบันประเทศไทยได้รับการจัดอันดับความเชื่อมั่นในการลงทุนอยู่ในอันดับที่ต้องปรับปรุง โดยรัฐบาลของนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้มีการกำหนดเป็นนโยบายเร่งด่วนที่ได้แถลงไว้เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2554 จากนั้นได้มีการจัดประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานในเรื่องนี้ ได้แก่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงาน ปปง. สำนักงาน ป.ป.ท. สำนักงาน ก.พ. และสำนักงาน ก.พ.ร. มาร่วมกันระดมความคิด กำหนดยุทธศาสตร์ และวางแนวทางการดำเนินงานเพื่อร่วมกันปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น
โดย ยุทธศาสตร์ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น ประกอบด้วยแนวทางการดำเนินงาน ทั้งหมด 6 แนวทาง ได้แก่
1) การปลุกจิตสำนึกและสร้างความตระหนักรู้ เพื่อมุ่งเน้นการสร้างจิตสำนึกและทัศนคติเชิงบวกในการสร้างภูมิคุ้มกันและความเข้มแข็งให้กับสังคมไทย
2) การพัฒนาองค์การ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาองค์การทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้เป็นองค์การสีขาว มีการดำเนินการป้องกันและลดความเสี่ยงที่เป็นช่องทางให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชั่น
3) การเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วม โดยมุ่งเน้นการสร้างความโปร่งใสในกระบวนการดำเนินงานของภาครัฐ โดยเฉพาะการจัดซื้อจัดจ้างของทางราชการ
4) การปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย โดยมุ่งเน้นการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายให้เป็นเครื่องมือป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นที่มีประสิทธิภาพ ตลอดจนยกระดับมาตรฐานกฎหมายด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นของไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ
5) การตรวจสอบ เฝ้าระวังเชิงรุก โดยการมุ่งเน้นการวางกลไกการตรวจสอบและเฝ้าระวังในเชิงรุก ทั้งกลไกการเฝ้าระวังของทั้งภาครัฐและภาคเอกชน กลไกการตรวจสอบตามกฎหมาย ตลอดจน การเชื่อมโยงและบูรณาการการรับแจ้งเบาะแสและเรื่องร้องเรียน
6) การปราบปรามที่จริงจังและการลงโทษที่เข้มงวด โดยมุ่งเน้นการดำเนินการปราบปรามการทุจริตอย่างจริงจัง รวมถึงการกำหนดมาตรการในการลงโทษที่เข้มงวดและรุนแรงขึ้น
นายนิวัฒน์ธำรงได้กล่าวต่อไปว่า โดยรัฐบาลได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ ยุทธศาสตร์ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น ไปเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2555 ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมวายุภักษ์ ชั้น 4 ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 โดย นายกรัฐมนตรีเป็นประธานปราศยุทธศาสตร์ทั้ง 6 ด้านดังกล่าวข้างต้น และแผนงานเชิงรุกของรัฐบาล 4 แนวทาง ในการดำเนินการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น รวมทั้งมอบนโยบายแก่หัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง กรม ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ที่เกี่ยวข้อง ในการพัฒนาองค์การเพื่อสร้างความโปร่งใสในการปฏิบัติราชการ และเปิดศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น (Anti-Corruption War Room) 1206 ซึ่งการดำเนินงานตามแผนงานเชิงรุกของรัฐบาล ในระยะเร่งด่วน มี 4 แนวทาง ได้แก่
1) การปลุกจิตสำนึกและสร้างความตระหนักรู้ ด้วยการรณรงค์สร้างความตื่นตัว ความตระหนักรู้แก่ข้าราชการ และพนักงานของรัฐ และค้นหาข้าราชการต้นแบบ เพื่อเป็นเครือข่ายในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของภาครัฐ
2) การพัฒนาองค์การ ด้วยการดำเนินโครงการสร้างความโปร่งใสในการปฏิบัติราชการ
3) การตรวจสอบ เฝ้าระวังเชิงรุก โดยการจัดตั้ง War Room และดำเนินการติดตามสถานะความก้าวหน้าและผลลัพธ์ของกิจกรรมต่าง ๆ ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น รวมทั้งมีการเชื่อมโยงการรายงานผลข้อมูลไปยังศูนย์บัญชาการนายกรัฐมนตรี และ
4) การปราบปรามที่จริงจังและการลงโทษที่เข้มงวด ด้วยการแถลงผลการดำเนินคดีเป็นประจำทุกเดือน
ในช่วงที่ 2 ของรายการ กลับมาสนทนากับนายนิวัฒน์ธำรงกันต่อ โดยท่านรัฐมนตรีฯ ได้กล่าวว่า จากยุทธศาสตร์ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นในเรื่องการตรวจสอบ เฝ้าระวังเชิงรุกนั้น ได้มีการจัดตั้งศูนย์ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น (Anti-Corruption War Room) ซึ่งเป็นการบูรณาการด้านการตรวจสอบ รับแจ้งเบาะแสและเรื่องร้องเรียน ป้องกัน ปราบปราม อย่างเบ็ดเสร็จครบวงจร ณ จุดเดียว (One Stop Service) และจะต้องดำเนินการปราบปรามอย่างจริงจัง โดยได้เปิดเบอร์สายด่วนรับเรื่องร้องเรียนการทุจริตคอร์รัปชั่น 1206 ดำเนินการโดยสำนักงาน ป.ป.ท.
ในส่วนของการพัฒนาองค์การ โดยการส่งเสริมให้ส่วนราชการริเริ่มจัดทำข้อเสนอการเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างความโปร่งใสในการปฏิบัติราชการของตนเอง ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ส่วนราชการและจังหวัดทำความสะอาดบ้านของตนเอง กล่าวคือ หน่วยงานราชการทั้งหมดจะต้องร่วมกันพัฒนาหน่วยงานของตนเองให้สะอาดโปร่งใส โดยการจัดทำข้อเสนอการเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างความโปร่งใสในการปฏิบัติราชการ (Clean Initiative) 1 หน่วยงาน 1 ข้อเสนอจากกิจกรรมนี้จะทำให้ได้นวัตกรรมในการสร้างความโปร่งใสจาก 159 ส่วนราชการ รวมกับ 76 จังหวัด รวมเป็น 235 โครงการ ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นต่อไปในอนาคต โดยในส่วนของกิจกรรมนี้ สำนักงาน ก.พ.ร. เป็นเจ้าภาพหลัก ดำเนินการร่วมกับส่วนราชการและจังหวัด จะดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 1 ปี และมีการทบทวนความก้าวหน้าทุกไตรมาส
ช่วงสุดท้ายของรายการ นายนิวัฒน์ธำรงได้กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นนโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลได้ให้ความสำคัญและดำเนินการอย่างจริงจัง ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากข้าราชการในทุกภาคส่วนในการประพฤติ ปฏิบัติตนและช่วยกันสอดส่องดูแล โดยการดำเนินการตามยุทธศาสตร์นี้ ทางรัฐบาลได้ยึดหลักการดำเนินการตามแนวทางการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่เรียกว่า ระเบิดจากข้างใน โดยต้องเริ่มต้นจากประพฤติปฏิบัติตนอย่างจริงจัง และตอบสนองนโยบายฯ ด้วยการร่วมกันป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น เพื่อนำไปสู่การพัฒนาประเทศด้านต่าง ๆ ต่อไป
ท่านผู้ชมสามารถติดตามความเคลื่อนไหวและความก้าวหน้าของการพัฒนาระบบราชการไทย ได้ใน รายการ เดินหน้า...พัฒนาราชการไทย ซึ่งออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ทุกวันจันทร์สัปดาห์ที่ 1 ของเดือน เวลา 15.30 น. 15.55 น.
นนทญา (สลธ.) / ข่าว & ภาพ
วสุนธรา (สลธ.) / รายงาน
กลุ่มสื่อสารฯ / จัดทำ
เผยแพร่ข้อมูลเมื่อ 10 กรกฎาคม 2555 14:50:03 ปรับปรุงข้อมูลล่าสุดเมื่อ 10 กรกฎาคม 2555 14:50:03