การประชุมสัมมนา เวทีปัญญา สัมมนาวาที ครั้งที่ 18
เรื่อง การขับเคลื่อนองค์กรด้วยนวัตกรรม :
กรณีตัวอย่างเครือซีเมนต์ไทย (Siam Cement Group SCG)
เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2555 ที่ผ่านมา สำนักงาน ก.พ.ร. โดยสำนักบริหารการเปลี่ยนแปลงและนวัตกรรม ได้จัดการประชุมสัมมนา เวทีปัญญา สัมมนาวาที ครั้งที่ 18 ในหัวข้อเรื่อง การขับเคลื่อนองค์กรด้วยนวัตกรรม : กรณีตัวอย่างเครือซีเมนต์ไทย (Siam Cement Group SCG) ณ ห้องจตุรทิศ ชั้น 3 โรงแรมโกลเด้นทิวลิป ซอฟเฟอริน กรุงเทพมหานคร โดยได้เชิญ ดร.วิไลพร เจตนจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานเทคโนโลยี จากบริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)
มานำเสนอแนวคิดและวิธีการในการบริหารจัดการบริษัทโดยการให้ความสำคัญกับนวัต
กรรมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความสำเร็จ
โดยนำบทเรียนจากกลุ่มบริษัทในเครือซีเมนต์ไทยที่จะต้องทำการปรับองค์กรเพื่อ
ให้อยู่รอดและเป็นผู้นำในการดำเนินธุรกิจ
จนประสบความสำเร็จเป็นบริษัทชั้นนำของประเทศไทยและเป็นที่น่าเชื่อถือ
มาถ่ายทอดให้กับบุคลากรในภาครัฐได้เรียนรู้และนำไปปรับใช้
การประชุมสัมมนาในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก นางสุพรรณี ไพรัชเวทย์ รองเลขาธิการ ก.พ.ร. กล่าวต้อนรับและเปิดการประชุมสัมมนา โดยกล่าวว่า
วัตถุประสงค์ของการจัดประชุมสัมมนาในครั้งนี้เพื่อให้มีเวทีที่เจ้าหน้าที่
ของหน่วยงานภาครัฐสามารถแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเรียนรู้
โดยได้เชิญหน่วยงานที่ประสบความสำเร็จในการขับเคลื่อนองค์กรด้วยนวัตกรรมมา
ถ่ายทอดให้ฟัง ซึ่งการจัดประชุมสัมมนา เวทีปัญญา สัมมนาวาที 17
ครั้งที่ผ่านมา ล้วนเป็นเรื่องที่ส่งเสริม และผลักดันให้ส่วนราชการต่าง ๆ
ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคมีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี อาทิ
เรื่องการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ การปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์
วัฒนธรรมและค่านิยมในการทำงาน การบริหารราชการแบบมีส่วนร่วมสู่ความเป็นเลิศ
การพัฒนาคุณภาพการให้บริการประชาชนในส่วนของการลดขั้นตอนและระยะเวลาการ
ปฏิบัติราชการ ทำอย่างไรไปให้ถึงฝัน : รางวัล United Nations Public
Service Awards
และล่าสุดแนวทางการจัดทำโครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัดและ
กลุ่มจังหวัด
การจัดประชุมสัมมนาครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 18 ในหัวข้อ การขับเคลื่อนองค์กรด้วยนวัตกรรม : กรณีตัวอย่างเครือซิเมนต์ไทย (Siam Cement Group: SCG) สำนักงาน ก.พ.ร. ได้เรียนเชิญผู้บริหารระดับสูงจากภาคเอกชน คือ บริษัทปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่ง
เป็นบริษัทชั้นนำที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญด้านการสร้างองค์กรด้วยนวัต
กรรม (Innovative Organization)
มาร่วมถ่ายทอดแนวคิดการสร้างองค์กรด้วยนวัตกรรมของเครือซิเมนต์ไทยซึ่งเป็น
ยุทธศาสตร์ที่สำคัญในการผลักดันธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนทั้งในด้านการ
วิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างคุณค่าผลิตภัณฑ์และบริการ ด้านกระบวนการทำงาน
และด้านการสร้างบุคลากรทุกระดับ ซึ่งจะทำให้ส่วนราชการสามารถนำความรู้
เทคนิค รูปแบบ และวิธีการซึ่งเป็นแบบอย่างที่ดี
ที่ได้รับจากการประชุมสัมมนาไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการปฏิบัติ
ราชการต่อไป
หลังจากนั้น ดร.วิไลพร เจตนจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานเทคโนโลยี บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ได้เริ่มการบรรยายในเรื่อง การขับเคลื่อนองค์กรด้วยนวัตกรรม : กรณีตัวอย่างเครือซีเมนต์ไทย (Siam Cement Group SCG) ซึ่งประกอบด้วย 2 หัวข้อหลัก ได้แก่
ปัจจัยแวดล้อมที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงองค์กร
และการดำเนินการเปลี่ยนแปลงองค์กรด้วยนวัตกรรม
พร้อมทั้งได้แลกเปลี่ยนความเห็นและตอบข้อซักถาม มีรายละเอียด ดังนี้
1.ปัจจัยแวดล้อมที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงองค์กร
เนื่อง
จากสภาวะแวดล้อมและรูปแบบความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป
บริษัทจึงจำเป็นจะต้องทำการปรับองค์กร (SCG transformation)
เพื่อเป็นการเปลี่ยนแปลงและขยายธุรกิจขององค์กรให้อยู่รอดในสถานการณ์แวด
ล้อมที่มีผลกระทบต่อบริษัททั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
อย่างไรก็ตามบริษัทได้มีการวางยุทธศาสตร์ในการขยายธุรกิจในประเทศภายใน
ภูมิภาคอาเซียน ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2005
ดัง
นั้น
องค์กรจึงมีการวางแผนรองรับและมีโครงสร้างที่เหมาะสมกับการทำงานตามที่มุ่ง
หวังได้ ซึ่งทำให้มีการปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจใหม่
โดยมีการปรับเปลี่ยนวิสัยทัศน์ให้มุ่งเน้นโอกาสในการขยายธุรกิจไปในภูมิภาค
อาเซียน
ซึ่งทำให้บริษัทต้องมีการเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านโครงสร้างและการบริหารเพื่อ
ให้บริษัทสามารถแข่งขันในตลาดได้
โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับการคิดค้นนวัตกรรม
และการพัฒนาเทคโนโลยีของบริษัท
นอก
จากนี้ การปรับองค์กรโดยการให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมนั้น
บริษัทได้ทำการแบ่งประเภทตลาดเพื่อกำหนดรูปแบบ
และแนวทางการพัฒนาที่สามารถตอบสนองต่อยุทธศาสตร์ที่วางไว้ได้
และการสรรหาตลาดใหม่เพื่อการทำธุรกิจของบริษัท
โดยการนำแนวคิดในการสร้างมูลค่าเพิ่ม (High value added)
ให้แก่ผลิตภัณฑ์ของบริษัท โดยเน้นการลงทุนในการวิจัยและพัฒนา (R&D)
และการสร้างนวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Innovation)
ซึ่งเป็นการเปลี่ยนสินค้าให้เป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูงขึ้น
รวมถึงการขยายการลงทุนของกลุ่มบริษัทฯ เพื่อเป็นการขยายโอกาสทางธุรกิจ
ทั้งนี้ การอยู่รอดในการแข่งขันทางธุรกิจนั้น
บริษัทต้องให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี กระบวนการการผลิต
และการตลาด เพื่อสร้างให้เกิดความยั่งยืนทางธุรกิจ
มีการเปลี่ยนแปลงในด้านการสร้างนวัตกรรมอย่างยั่งยืน
2.การดำเนินการเปลี่ยนแปลงองค์กรด้วยนวัตกรรม
ในการดำเนินการเปลี่ยนแปลงองค์กรด้วยนวัตกรรมนั้น
ควรเน้นให้มีการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ (High Value added
platform) ซึ่งบริษัทได้มีการสร้างรูปแบบการทำงานที่เป็นเลิศขึ้น
(Operation excellent) ดังนี้
1) การสร้างหน่วยงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี และการบริหารเชิงยุทธศาสตร์
2) การกระตุ้นให้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง
3) การสร้างวัฒนธรรมองค์กร ให้เป็นองค์กรที่ตระหนักถึงความสำคัญของนวัตกรรม
ทั้งนี้ เพื่อให้องค์กรมีเทคโนโลยีและทรัพย์สินทางปัญญาขององค์กรที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าของสินค้าและบริการ
ปัจจัยแห่งความสำเร็จในการพัฒนานวัตกรรม
1. มีบรรยากาศที่เหมาะสมในการสร้างสรรค์นวัตกรรม
ซึ่งเป็นบรรยากาศที่กระตุ้นและสนับสนุนผู้ปฏิบัติงาน
โดยจะต้องมีการพัฒนาที่เป็นไปตามความต้องการขององค์กร
และมีการสร้างวัฒนธรรมองค์กรเกี่ยวกับนวัตกรรม
2.
มีเครื่องมือที่เหมาะสมในการสร้างสรรค์นวัตกรรม เช่น
การจัดการองค์ความรู้ การให้ความสำคัญกับสิทธิบัตร
การสนับสนุนเครื่องมือที่เหมาะสมในการจัดการนวัตกรรม
โครงสร้างองค์กรที่เหมาะสม และการบริหารบุคลากรที่เหมาะสม
การเปลี่ยนแปลงด้านนวัตกรรมในกรณีของบริษัท เครือซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)
บริษัทเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ปี ค.ศ. 2004
เพื่อจัดตั้งหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการจัดการนวัตกรรมโดยตรง
โดยใช้การสื่อสารองค์กรเพื่อให้พนักงานตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการสร้าง
นวัตกรรมภายในองค์กร
นอกจากนี้ยังมีการประเมินองค์กรของตนเองทั้งด้านดีและด้านเสีย
เพื่อหาช่องว่างในการผลักดันยุทธศาสตร์
และมีการตั้งคณะกรรมการเกี่ยวกับนวัตกรรมโดยเฉพาะภายในหน่วยงาน
นอกจากนี้ยังมีการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับนวัตกรรมให้เข้าใจไปในทิศทาง
เดียวกันทั้องค์กร
ใน
ปี ค.ศ. 2005 มีการสร้างวัฒนธรรมองค์กรในเรื่องการสร้างนวัตกรรม
โดยการสร้างให้พนักงานและผู้บริหารทุกระดับให้ความสำคัญกับการสร้างนวัตกรรม
โดยสร้างให้ทุกคนมีความคิดที่เปิดกว้าง คิดนอกกรอบ
กระตือรือร้นในการเรียนรู้ และยอมรับความเสี่ยง
ในขณะที่ผู้บริหารจะต้องเป็นผู้ที่สามารถบริหารการเปลี่ยนแปลงในองค์กรและ
ให้ความสำคัญและสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในองค์กร
ที่จะต้องปฏิบัติตนเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา
มีการวัดผลการดำเนินงาน
และมีการใช้การสื่อสารภายในองค์กรเพื่อให้พนักงานทุกระดับสามารถเข้าถึงข่าว
สารขององค์กร และการสร้างกิจกรรมเพื่อสนับสนุนการสร้างสรรค์นวัตกรรม เช่น
การจัดให้มีการประกวดรางวัลนวัตกรรมภายในองค์กรโดยมีการให้รางวัลที่ดึงดูด
และการสนับสนุนให้พนักงานใฝ่รู้
ใน
ปี ค.ศ. 2005 - 2007 Building Blocks มีการสร้างรูปแบบการเปลี่ยนแปลง
ทั้งทางด้านโครงสร้างที่อำนวยความสะดวกต่อการพัฒนาเทคโนโลยี ดังนี้
1)
การวางแผนองค์กรใหม่ที่ให้แต่ละธุรกิจมีหน่วยงานสำหรับสร้างนวัตกรรมของตน
เอง การวางแผนบุคลากรภายในองค์กร
การชี้ให้เห็นความสำคัญของทรัพย์สินทางปัญญาโดยการให้ความรู้ในด้าน
ทรัพย์สินทางปัญญา
การสร้างแผนงานเทคโนโลยีของแต่ละหน่วยงานเพื่อเป็นการวางแผนการพัฒนา
เทคโนโลยีในระยะยาว 5 ปี
ให้องค์กรทราบถึงแนวทางการพัฒนาและเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้
และที่สำคัญคือการให้ความสำคัญกับหน่วยงานภายนอกที่มีความเชี่ยวชาญด้านอื่น
ๆ อีกด้วย
2)
การวางแผนทางด้าน Human resource management
โดยเฉพาะการคัดเลือกบุคลากรเข้าร่วมกับองค์กร
การพัฒนาบุคลากรภายในองค์กรและการวางแผนการเติบโตภายในองค์กร
ซึ่งเปิดโอกาสให้พนักงานทุกคนสามารถวางแผนการเติบโตควบคู่ไปกับการเรียนรู้
ที่เหมาะสม
3)
การสนับสนุนการสร้างนวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า
เป็นการสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ภายในองค์กร
เนื่องจากการสร้างนวัตกรรมย่อมต้องใช้องค์ความรู้ต่าง ๆ
มาประกอบกันเพื่อให้สามารถบริหารจัดการโครงการต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ซึ่งการสร้างความตระหนักเกี่ยวกับนวัตกรรมนี้จะต้องมีในระดับผู้บริหารด้วย
เพื่อเป็นการสนับสนุนการเรียนรู้ของพนักงานทุกคน
4)
การสร้างองค์กรทางนวัตกรรมในทุกหน่วยงาน
เป็นการสร้างโครงสร้างที่เหมาะสมกับการสนับสนุนการสร้างนวัตกรรม
คือจัดให้มีคณะกรรมการในการสร้างนวัตกรรม
และการให้แต่ละหน่วยงานในองค์กรมีหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องการสร้างนวัต
กรรมโดยเฉพาะ
ซึ่งจะต้องมีวิสัยทัศน์ในการนำองค์กรที่ชัดเจนเกี่ยวกับการสร้างนวัตกรรมภาย
ในองค์กร
และการบริหารจัดการที่เกี่ยวข้องกับการสร้างนวัตกรรมให้ควบคู่ไปกับการวาง
แผนการดำเนินธุรกิจ
ใน
ปี ค.ศ. 2008 - ปัจจุบัน
เป็นช่วงของการนำแผนการดำเนินงานมาปฏิบัติเพื่อให้เป็นไปตามแผนงานที่วางไว้
โดยเริ่มจากการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่มีวิสัยทัศน์ร่วมกันคือการสร้างนวัต
กรรมสำหรับธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยมีการส
นับสนุนโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ชุมชนนักปฏิบัติ
การจัดงานสนับสนุนการสร้างนวัตกรรม
โดยการจัดเวลาในการแลกเปลี่ยนระหว่างกันไม่จำกัดระดับ
โดยเฉพาะผู้นำองค์กรที่จะต้องสนับสนุนการทำงานและเปิดโอกาสให้แก่บุคลากรทุก
คน เป็นต้น
รวมถึงการเปลี่ยนแปลงรูปแบบผลิตภัณฑ์และการบริการจากผลิตภัณฑ์ทั่วไปเป็น
ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มจากนวัตกรรมที่คิดค้นภายในองค์กร
และการให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
กาญจนา (สำนักนวัตกรรมฯ)/ข้อมูล
วสุนธรา & ภัทรพร (สลธ.)/รายงาน
กลุ่มสื่อสารฯ/จัดทำ
เผยแพร่ข้อมูลเมื่อ 19 เมษายน 2555 14:37:20 ปรับปรุงข้อมูลล่าสุดเมื่อ 19 เมษายน 2555 14:37:20