Logo of OPDC ก.พ.ร. FAQ สำหรับการค้นหา  |  ภาษาไทย   |   English   |   Mobile   |   Help   |  

หน้าหลัก หน้าหลัก | ติดต่อ | ผังเว็บไซต์ |  หน้าหลัก
Share แชร์ พิมพ์หน้านี้
ข่าวเด่น ก.พ.ร. / ปี 2555 / มีนาคม / สำนักงาน ก.พ.ร. ร่วมกับสาธารณรัฐเกาหลี เร่งขับเคลื่อน การเพิ่มีดความสามารถในการประกอบธุรกิจของประเทศไทยด้านกาบังคับให้ เป็นไปตามข้อตกลง

สำนักงาน ก.พ.ร. ร่วมกับสาธารณรัฐเกาหลี เร่งขับเคลื่อน การเพิ่มีดความสามารถในการประกอบธุรกิจของประเทศไทยด้านกาบังคับให้ เป็นไปตามข้อตกลง

สำนักงาน ก.พ.ร. ร่วมกับสาธารณรัฐเกาหลี เร่งขับเคลื่อน
การเพิ่มขีดความสามารถในการประกอบธุรกิจของประเทศไทย
ด้านการบังคับให้เป็นไปตามข้อตกลง




           เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2555 สำนักงาน ก.พ.ร. ร่วมกับกรมบังคับคดี จัดการ ประชุม เรื่องการปรับปรุงบริการเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการประกอบธุรกิจของประเทศ ไทยด้านการบังคับให้เป็นไปตามข้อตกลง (Enforcing Contracts) ณ โรงแรมแกรนด์ มิลเลนเนียม โดยคณะผู้เชี่ยวชาญจากประเทศสาธารณรัฐเกาหลีเป็นผู้ให้ความรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์


           โดยการประชุมในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก นางสุพรรณี ไพรัชเวทย์ รองเลขาธิการ ก.พ.ร. เป็นผู้กล่าวต้อนรับและชี้แจงวัตถุประสงค์การจัดประชุม โดยนางสุพรรณีได้กล่าวว่า จากการประชุมผู้นำกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) เมื่อเดือนกรกฎาคม 2552 ณ ประเทศสิงคโปร์ ได้มีการประกาศแผนปฏิบัติการ Ease of Doing Business (EoDB) ให้เขตเศรษฐกิจเอเปคมีบรรยากาศการลงทุนดีขึ้น โดยกำหนดเป้าหมายการปรับปรุงบริการใน 5 ด้าน ตามรายงานผลการวิจัยเรื่อง Doing Business ของธนาคารโลก ได้แก่ ด้านการเริ่มต้นธุรกิจ (Starting a Business) ด้านการขออนุญาตก่อสร้าง (Dealing with Construction Permits) ด้านการค้าระหว่างประเทศ (Trading Across Borders) ด้านการได้รับสินเชื่อ (Getting Credit) และด้านการบังคับให้เป็นไปตามข้อตกลง (Enforcing Contracts) เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้เร็วขึ้น สะดวกขึ้น และค่าใช้จ่ายถูกลง ร้อยละ 5 ในปี ค.ศ. 2011 และร้อยละ 25 ในปี ค.ศ. 2015 ซึ่งในแผนปฏิบัติการ EoDB จึงได้กำหนดให้ประเทศที่มีผลการดำเนินการอยู่ในอันดับต้น ๆ (Champion Economy) ตามรายงานผลการวิจัยเรื่อง Doing Business ในแต่ละด้านดำเนินกิจกรรมในการช่วยเหลือประเทศสมาชิก ซึ่งแบ่งเป็น 3 ระยะ กล่าวคือ ระยะที่ 1 จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อสร้างความตระหนักถึงการปรับปรุงบริการให้บรรลุ เป้าหมายตามกรอบของเอเปค ระยะที่ 2 ศึกษาวิเคราะห์แนวทางการปรับปรุงบริการรายประเทศ และระยะที่ 3 ติดตามผลการดำเนินการ

           โดยที่ประเทศไทยได้ตอบ รับการเข้าร่วมกิจกรรมตามแผนปฏิบัติการ EoDB ระยะที่ 2 กับประเทศเกาหลีใต้ซึ่งเป็น Champion Economy ด้านการบังคับให้เป็นไปตามข้อตกลง (Enforcing Contracts) โดยประเทศเกาหลีใต้จะ ส่งคณะผู้เชี่ยวชาญมาทำการศึกษาวิเคราะห์และให้คำปรึกษาแนะนำเกี่ยวกับปัญหา ข้อจำกัดภายในประเทศ โอกาส และแนวทางการแก้ไขปัญหา ตลอดจนแนวทางการปฏิรูปกฎหมาย กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้องด้านการบังคับให้เป็นไปตามข้อตกลง 

           รองเลขาธิการ ก.พ.ร. ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ประเทศสาธารณรัฐเกาหลี เป็นประเทศที่มีการพัฒนาการให้บริการในด้านการบังคับให้เป็นไปตามข้อตกลง อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการนำระบบการฟ้องคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Filing) มาใช้ ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีของประเทศไทยที่ดีที่จะได้เรียนรู้วิธีการดำเนินงานเพื่อ เป็นแนวทางในการปรับปรุงเรื่องดังกล่าวต่อไปในอนาคต

           หลังจากนั้น Mr. Won-sub PARK, Minister, Korean Embassy ได้กล่าวต้อนรับผู้มาร่วมประชุม โดยมี Mr. Sangkil PARK, Attorney, Kim & Chang law firm และ Mr. Yungjin Park, Prosecutor, Commercial Legal Affairs Division, Ministry of Justice กล่าวชี้แจงวัตถุประสงค์ของการประชุมฯ และความเป็นมาของการดำเนินการไว้ว่า การเข้ามาสนับสนุนประเทศไทยในการพัฒนากระบวนการให้บริการด้านการบังคับให้ เป็นไปตามข้อตกลง ซึ่งเป็นกิจกรรมภายใต้แผนปฏิบัติการ EoDB ของประเทศในกลุ่มเอเปค เพื่อส่งเสริมให้ประเทศสมาชิกได้พัฒนาการให้บริการ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและบรรลุตามเป้าหมายของเอเปค 


           จากนั้นเป็นการบรรยายเรื่องการ เปรียบเทียบกระบวนการ Enforcing Contracts ของประเทศไทยกับประเทศสาธารณรัฐเกาหลี ตามรายงานผลการวิจัยเรื่อง Doing Business ของธนาคารโลก โดย Mr. Sae-Uk KIM, Attorney, Kim&Chang law firm โดยกล่าวว่า ประเทศสาธารณรัฐเกาหลี ได้รับการจัดอันดับในรายงานผลการวิจัยเรื่อง Doing Business ด้านการบังคับให้เป็นไปตามข้อตกลงในปี ค.ศ. 2012 ในอันดับที่ 2 จาก 183 ประเทศทั่วโลก ซึ่งมีขั้นตอนการดำเนินการทั้งสิ้น 33 ขั้นตอน ใช้ระยะเวลาเฉลี่ย 230 วัน และมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเฉลี่ยร้อยละ 10.3 ของมูลค่าหนี้ สำหรับประเทศไทยถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 24 มีขั้นตอนการดำเนินการ 35 ขั้นตอน ใช้ระยะเวลาเฉลี่ย 479 วัน และมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเฉลี่ยร้อยละ 12.3 ของมูลค่าหนี้ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศสาธารณรัฐเกาหลีแล้วจะเห็นว่าประเทศไทยมีระยะ เวลาในการดำเนินการค่อนข้างมาก


           ในช่วงสุดท้ายของการประชุมเป็นเวทีเสวนาเกี่ยวกับกระบวน การบังคับให้เป็นไปตามข้อตกลง ในเรื่องกระบวนการระงับข้อพิพาททางแพ่ง (Arbitration) และการบังคับให้เป็นไปตามข้อตกลง (Enforcing Contracts) และเรื่องการปฏิรูประบบการพิจารณาคดีของประเทศสาธารณรัฐเกาหลีโดยใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งเรื่องการปฏิรูปกระบวนการ Enforcing Contracts ของประเทศไทย โดย มีผู้ร่วมเสวนา จำนวน 5 ท่าน จาก 4 หน่วยงาน ทั้งหน่วยงานของไทย ได้แก่ กรมบังคับคดี และศาลแพ่ง และสาธารณรัฐเกาหลี ได้แก่ UNCITRAL และ Korean Supreme Court IT Center โดยมี ดร. กิริฎา เภาพิจิตร เป็นผู้ดำเนินการเสวนา ซึ่งประเด็นในการเสวนาได้กล่าวถึง จุดเด่นของการให้บริการในด้านการบังคับให้เป็นไปตามข้อตกลง โดยสรุปว่าจุดเด่นของการพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการในด้านการบังคับให้ เป็นไปตามข้อตกลงของประเทศสาธารณรัฐเกาหลี ที่ได้นำระบบการฟ้องคดีทางอิเล็คทรอนิกส์ (E-filing) มาใช้ ซึ่งระบบดังกล่าวจะช่วยลดระยะเวลาในการดำเนินการเมื่อเปรียบเทียบกับการใช้ กระดาษหรือเอกสารลงถึง 8 วัน รวมทั้งอำนวยความสะดวกให้แก่คู่ความและศาล ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นลงได้ นอกจากนี้การมีคำสั่งของศาลจะเป็นคำสั่งที่เป็น E-filing ทั้งหมด ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดเวลา และลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เนื่องจากทุกกระบวนการจะมีการจัดการโดยระบบอิเล็คทรอนิกส์ 

           สำหรับ การดำเนินการต่อไป ทางผู้เชี่ยวชาญจากสาธารณรัฐเกาหลีจะได้ดำเนินการรวบรวมข้อมูลกระบวนการ บังคับให้เป็นไปตามข้อตกลงของประเทศไทย ปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ และนำไปวิเคราะห์เพื่อหาแนวทางในการพัฒนากระบวนการด้านการบังคับให้เป็นไป ตามข้อตกลงของประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพ และจะได้จัดทำรายงานผลการศึกษา ซึ่งจะแล้วเสร็จในเดือนตุลาคม 2555 และนำไปเผยแพร่ในการประชุมผู้นำกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเซีย-แปซิฟิก (เอเปค) ต่อไป




ภัทรอาภา (สำนักนวัตกรรมฯ) & นนทญา (สลธ.) / ข่าว & ภาพ
วสุนธรา (สลธ.) / รายงาน
กลุ่มสื่อสารฯ / จัดทำ

 

 


เผยแพร่ข้อมูลเมื่อ 26 มีนาคม 2555 12:14:05 ปรับปรุงข้อมูลล่าสุดเมื่อ 26 มีนาคม 2555 12:14:05
ข่าวเด่น ก.พ.ร.
    ลิงค์     |     สมาชิกเครือข่าย     |     RSS feed     |     คำถามที่พบบ่อย            

เกี่ยวกับ

กฏหมายและระเบียบ

หนังสือเวียน

ข้อมูลหน่วยงานภาครัฐ

ศูนย์ความรู้

ประชาสัมพันธ์

W3C   Facebook Facebook สำนักงาน ก.พ.ร.   PMQA Channel  ฐานข้อมูลหน่วยงานภาครัฐ  ipv6 ready  www.info.go.th  การปฏิเสธความรับผิดชอบ |  Webmail| Intranet สำหรับข้าราชการ | ผังเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ 

Slocan

สงวนลิขสิทธิ์โดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ

59/1 ถนนพิษณุโลก แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300 โทร. 02 356 9999 โทรสาร 02 281 7882 สายด่วน 1785 e-mail: administrator@opdc.go.th