คณะกรรมาธิการการปกครอง วุฒิสภา และคณะอนุกรรมาธิการฯ
ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้บริหารสำนักงาน ก.พ.ร.
เกี่ยวกับระบบการบริหารงานแบบบูรณาการในระบบราชการ
เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2555 สำนักงาน ก.พ.ร. ได้รับเกียรติจากคณะกรรมาธิการการปกครอง วุฒิสภา พร้อมด้วยคณะอนุกรรมาธิการติดตามและตรวจสอบการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการบริหารราชการส่วนกลาง และ คณะอนุกรรมาธิการติดตามและตรวจสอบการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการบริหารราชการส่วนภูมิภาค ที่มาศึกษาดูงานและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับภารกิจและระบบการบริหารงานแบบบูรณาการภายในระบบราชการ ณ ห้องประชุม ก.พ.ร. ชั้น 5 สำนักงาน ก.พ.ร.
คณะศึกษาดูงานจากวุฒิสภาครั้งนี้ นำโดย นายพีระ มานะทัศน์ กรรมาธิการและประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการปกครอง วุฒิสภา และประธานคณะอนุกรรมาธิการติดตามและตรวจสอบการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการบริหารราชการส่วนภูมิภาค พร้อมด้วย นายพิสิฐ เกตุผาสุข รองประธานคณะกรรมาธิการการปกครอง วุฒิสภา และประธานคณะอนุกรรมาธิการติดตามและตรวจสอบการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการบริหารราชการส่วนกลาง
การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับภารกิจและระบบการบริหารงานแบบบูรณาการภายในระบบราชการในครั้งนี้ ยังได้รับเกียรติจาก นายไพโรจน์ พรหมสาส์น กรรมการ ก.พ.ร. มาร่วมแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กับคณะศึกษาดูงาน
นายไพโรจน์ พรหมสาส์น กรรมการ ก.พ.ร. ได้กล่าวต้อนรับคณะกรรมาธิการฯ และคณะอนุกรรมาธิการฯ พร้อมทั้งกล่าวถึงระบบราชการว่า เป็นระบบหลักในการจัดรูปแบบการบริหารราชการแผ่นดินให้เหมาะสมกับสถานการณ์บ้านเมือง เพื่อให้การบริหารบ้านเมืองเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและตอบสนองต่อเป้าหมายและนโยบายของรัฐบาล ซึ่งการบริหารราชการนั้น นอกจากจะมีส่วนกลางแล้ว ยังมีส่วนภูมิภาค ทั้งจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งการปกครองท้องที่ในระดับตำบลและหมู่บ้าน ที่จะมาช่วยเสริมการทำงานให้ประสบความสำเร็จ การประชุมในวันนี้จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะได้นำเสนอสิ่งที่ ก.พ.ร. กำลังดำเนินการอยู่ พร้อมทั้งรับฟังข้อเสนอแนะและข้อคิดเห็นจากคณะกรรมาธิการฯ และคณะอนุกรรมาธิการฯ เพื่อนำมาปรับใช้ในการดำเนินงานให้ประสบความสำเร็จต่อไป
นายพีระ มานะทัศน์ กรรมาธิการและประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการปกครอง วุฒิสภา กล่าวว่า คณะกรรมาธิการฯ และคณะอนุกรรมาธิการฯ ทั้ง 2 คณะ มีภารกิจสำคัญคือ การตรวจสอบติดตามผลการทำงาน เพื่อนำประเด็นที่เป็นปัญหาอุปสรรค เสนอต่อวุฒิสภาเพื่อเสนอให้รัฐบาลได้รับทราบและหาทางแก้ไขปรับปรุงต่อไป โดยมีส่วนราชการเป็นผู้นำนโยบายของรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติให้ถึงประชาชน ดังนั้น สำนักงาน ก.พ.ร. ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักด้านการพัฒนาระบบราชการจึงมีบทบาทสำคัญในการจัดการกับปัญหาของชาติบ้านเมือง โดยนายพีระได้หยิบยกประเด็นที่เป็นปัญหาหลักของชาติบ้านเมือง ได้แก่ เรื่องโครงสร้างส่วนราชการที่ยังมีความซ้ำซ้อนกันในบางภารกิจ การบริหารงบประมาณ โดยเฉพาะในส่วนของงบประมาณพัฒนาจังหวัด ซึ่งยังขาดความยืดหยุ่นคล่องตัวในการบริหารงบประมาณของจังหวัด เรื่องระบบข้อมูลสารสนเทศ ซึ่งเป็นข้อมูลพื้นฐานในการตัดสินใจ โดยเฉพาะระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (Geographic Information System : GIS) ซึ่งเป็นข้อมูลที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนในพื้นที่กับพื้นที่ต่าง ๆ เป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารราชการ และจะเป็นประโยชน์ต่อสำนักงาน ก.พ.ร. อย่างมากในการนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการติดตามประเมินผลการทำงาน รวมทั้งปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ของส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่นยังไม่สมดุลย์กันในเรื่องอำนาจหน้าที่ และการมอบอำนาจที่ยังไม่เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกา ดังนั้น การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในครั้งนี้จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะได้พูดคุยถึงปัญหาอุปสรรคดังกล่าว และร่วมกันหาแนวทางแก้ไข
จากนั้นเป็นการรับชมวิดีทัศน์แนะนำสำนักงาน ก.พ.ร. และสรุปการดำเนินงานของสำนักงาน ก.พ.ร. ต่อด้วยการบรรยายสรุปการดำเนินการในภารกิจที่สำคัญของสำนักงาน ก.พ.ร. โดย นางสุพรรณี ไพรัชเวทย์ รองเลขาธิการ ก.พ.ร. ซึ่งได้บรรยายถึงระบบการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ และแนวทางการปรับปรุงและจัดระบบความสัมพันธ์ของราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น
รองเลขาธิการ ก.พ.ร. ได้บรรยายถึงที่มาและแนวทางของการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2550 และพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ พ.ศ. 2551 โดยยึดพื้นที่เป็นหลักในการพัฒนาเพื่อกระจายการพัฒนาและลดความเหลื่อมล้ำของความเจริญเติบโตระหว่างพื้นที่ต่าง ๆ ในประเทศ และเน้นเรื่องการมีส่วนร่วมในการบริหารราชการ โดยมีกลไกการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ ประกอบด้วย คณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.น.จ.) ซึ่งเป็นคณะกรรมการระดับชาติที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน คณะกรรมการบริหารงานกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.บ.ก.) และ คณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.บ.จ.) พร้อมกันนี้ยังได้บรรยายถึง หลักเกณฑ์และแนวทางในการจัดทำแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัด/กลุ่มจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 รวมทั้งปัญหาและข้อจำกัดของการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัด
อีกประเด็นหนึ่งที่นางสุพรรณี ไพรัชเวทย์ รองเลขาธิการ ก.พ.ร. และเจ้าหน้าที่ได้บรรยายให้คณะศึกษาดูงานได้รับทราบคือ แนวทางการปรับปรุงและจัดระบบความสัมพันธ์ของราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น ซึ่งแบ่งเป็น 3 เรื่องหลัก คือ 1) แนวทางการจัดความสัมพันธ์ระหว่างราชการบริหารส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น 2) การศึกษาและปรับปรุงการบริหารราชการ ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น ให้มีขอบเขต อำนาจหน้าที่ และความรับผิดชอบที่ชัดเจนเหมาะสมต่อการพัฒนาประเทศ และ 3) การติดตามและประเมินผลการบริหารงานจังหวัด
หลังจากรับฟังการบรรยายแล้ว คณะกรรมาธิการฯ และคณะอนุกรรมาธิการฯ และผู้บริหารสำนักงาน ก.พ.ร. ได้ร่วมกันแสดงความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ ซึ่งสำนักงาน ก.พ.ร. จะได้นำข้อเสนอแนะต่าง ๆ ที่ได้รับไปเป็นแนวทางในการปรับปรุงระบบการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ รวมทั้งการจัดระบบความสัมพันธ์ของราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น ให้มีประสิทธิภาพต่อไป
วสุนธรา & ลลิดา (สลธ.) / รายงาน
กลุ่มสื่อสารฯ / จัดทำ
เผยแพร่ข้อมูลเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2555 10:30:10 ปรับปรุงข้อมูลล่าสุดเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2555 10:30:10