สรุปผลการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 15 มกราคม 2555
เรื่อง ขออนุมัติปรับโครงสร้างและอัตรากำลังข้าราชการ
ของกระทรวงการต่างประเทศ
  
 
 
 
 
         การประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2555  ซึ่งมี 
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ณ 
หอประชุมธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ 
ได้พิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสำนักงาน ก.พ.ร. คือ ขออนุมัติปรับโครงสร้างและอัตรากำลังข้าราชการของกระทรวงการต่างประเทศ
 
           ทั้งนี้ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) 
ได้แจ้งมติคณะรัฐมนตรีเรื่องดังกล่าวให้สำนักงาน ก.พ.ร. ทราบแล้ว 
ตามหนังสือ สลค. ด่วนที่สุด ที่ นร 0506/1300 ลงวันที่ 15 มกราคม 2555 
โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
 
 
 
           คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1 (ฝ่ายความมั่นคงและโครงสร้างพื้นฐาน) ดังนี้
 
             1.
 โดยที่การจัดตั้งประชาคมอาเซียนจะบรรลุผลในปี พ.ศ. 2558 
ซึ่งประเทศไทยในฐานะประเทศสมาชิกต้องเตรียมความพร้อมซึ่งถือเป็นการขยาย
หน่วยงานเพื่อรับผิดชอบงานตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล  จึงมีมติอนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศปรับโครงสร้างเฉพาะกรมอาเซียนได้  ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ  
ส่วนเรื่องอัตรากำลังให้กระทรวงการต่างประเทศส่งเรื่องให้คณะกรรมการกำหนด
เป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐพิจารณาจัดสรรอัตรากำลังให้ตามความจำเป็นและ
เหมาะสมต่อไป
 
             2. ส่วนการ
จัดตั้งสำนักเขตแดนภายใต้กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย  
และจัดตั้งสำนักคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศภายใต้กรมการ
กงสุล เห็นควรไม่อนุมัติตามนัยมติ ก.พ.ร. 
 
             3. ให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำแผนผังแสดงโครงสร้างและภารกิจหน้าที่ (work flow) ของกรมอาเซียนและกองที่เกี่ยวข้อง ให้ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการกลั่นกรองฯ เพื่อเสนอประกอบเรื่องการปรับโครงสร้างของกระทรวงการต่างประเทศด้วย  
 
 
             ทั้งนี้ในการประชุม คณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1 (ฝ่ายความมั่นคงและโครงสร้างพื้นฐาน) ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ  วิชัยดิษฐ) เป็นประธานกรรมการ ได้พิจารณาเรื่องการขออนุมัติปรับโครงสร้างและอัตรากำลังข้าราชการของกระทรวงการต่างประเทศแล้ว มีประเด็นอภิปราย ดังนี้
 
             1) ผู้แทนสำนักงาน ก.พ.ร. ชี้
แจงว่า ในคราวประชุม ก.พ.ร. ครั้งที่ 8/2554 เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2554 
ได้มีการพิจารณาเรื่อง 
แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาหน่วยงานของกระทรวงการต่างประเทศ (พ.ศ. 2554  พ.ศ. 
2556) ซึ่งที่ประชุมมีมติสรุปได้ ดังนี้
 
                  1.1) เห็นชอบให้ปรับปรุงส่วนราชการภายในกรมอาเซียน โดยปรับเปลี่ยนอำนาจหน้าที่และชื่อกองจากเดิม กองอาเซียน 1  4 เป็น กองการเมืองและความมั่นคง กองเศรษฐกิจ กองสังคมและวัฒนธรรม และกองความสัมพันธ์กับคู่เจรจาและองค์กรระหว่างประเทศ ส่วนกองยุทธศาสตร์และความร่วมมือ ก.พ.ร. เห็นว่า ควรรวมศูนย์โดยจัดตั้งไว้ที่สำนักงานปลัดกระทรวงเพียงที่เดียว
 
                   1.2) ส่วนการขอยกฐานะกองเขตแดนเป็นสำนักเขตแดน ในกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย และการขอยกฐานะกองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศเป็นสำนักคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ ในกรมการกงสุล นั้น
 โดยที่พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 มาตรา 31 (2) 
กำหนดให้กรมอาจแบ่งส่วนราชการเป็นกองหรือส่วนราชการที่มีฐานะเทียบกอง 
ดังนั้น สำนักหรือกอง จึงมีฐานะเทียบเท่ากันตามนัยกฎหมายดังกล่าว ส่วนการกำหนดตำแหน่งจะเป็นตำแหน่งประเภทอำนวยการระดับใดขึ้นอยู่กับค่าของงานที่ต้องมีการประเมิน ดังนั้น ก.พ.ร. จึงไม่อนุมัติการยกฐานะของกองทั้ง 2 กองดังกล่าว
 
             2) ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศชี้แจงว่า กรมอาเซียนมีภารกิจสำคัญเกี่ยวกับการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งอาเซียนในฐานะสำนักเลขาธิการอาเซียนแห่งชาติ รวมทั้งการดำเนินการเพื่อเตรียมความพร้อมที่จะก้าวสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 
ซึ่งภารกิจนี้จะสำเร็จลงได้ด้วยดีจะต้องมีหน่วยงานดูแลด้านยุทธศาสตร์มารอง
รับ ดังนั้น มติ ก.พ.ร. ที่อนุมัติให้กรมอาเซียนปรับโครงกสร้าง 
โดยให้มีส่วนราชการภายใน 4 กอง 
จึงไม่เพียงพอสำหรับภารกิจที่สำคัญดังกล่าวข้างต้น 
ซึ่งประกอบไปด้วยการประชุมทั้งระดับอนุภูมิภาคและระดับภูมิภาคเพื่อเจรจาต่อ
รองรักษาผลประโยชน์ของชาติที่มีบ่อยครั้ง จึงจำเป็นต้องมีกองยุทธศาสตร์และความร่วมมือเพิ่มอีก 1 กอง ให้ครอบคลุมภารกิจทั้งในเชิงลึกและเชิงกว้าง โดยให้กองยุทธศาสตร์และความร่วมมืออยู่ภายใต้การกำกับดูและของกรมอาเซียนโดยตรง
 
             3)
 ผู้แทนสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติมีความเห็นเพิ่มเติมว่า 
เห็นชอบด้วยกับข้อเสนอของกระทรวงการต่างประเทศ 
และเพื่อให้การดำเนินการปรับโครงสร้างและอัตรากำลังของกระทรวงการต่างประเทศ
มีความชัดเจนยิ่งขึ้น และไม่ซ้ำซ้อนกันในภารกิจด้านต่าง ๆ 
เห็นควรให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำแผนผังแสดงโครงสร้างและภารกิจหน้าที่
ขององค์กร (work flow) เพื่อประกอบการพิจารณาต่อไปด้วย
 
             4) กรรมการส่วนใหญ่เห็นควรอนุมัติให้ปรับโครงสร้างส่วนราชการของกรมอาเซียนได้ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
 
 
 
 
 วสุนธรา (สลธ.) / รายงาน
กลุ่มสื่อสารฯ / จัดทำ
ข้อมูลจาก : หนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
 
 
	
	
	
  
 
            
						
            เผยแพร่ข้อมูลเมื่อ 27 มกราคม 2555 09:41:02 ปรับปรุงข้อมูลล่าสุดเมื่อ 27 มกราคม 2555 09:41:02