สรุปผลการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 4 มกราคม 2555
เรื่อง รายงานผลการจัดอันดับความยาก-ง่าย
ในการประกอบธุรกิจของธนาคารโลก 
(Doing Business 2012) 
  
    
 
           การประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2555 ซึ่งมี 
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม 
ณ ห้องประชุมงบประมาณ ชั้น 3 อาคารรัฐสภา 3 
ได้พิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสำนักงาน ก.พ.ร. คือ รายงาน
ผลการจัดอันดับความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจของธนาคารโลก (Doing Business 
2012) 
และข้อเสนอแนวทางการปรับปรุงบริการเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการประกอบ
ธุรกิจ)
 
           ทั้งนี้ 
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) 
ได้แจ้งมติคณะรัฐมนตรีเรื่องดังกล่าวให้สำนักงาน ก.พ.ร. ทราบแล้ว 
ตามหนังสือ สลค. ด่วนที่สุด ที่ นร 0505/541 ลงวันที่ 9 มกราคม 2554 
โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
 
            คณะรัฐมนตรีในการประชุมเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2555 ได้พิจารณา
เรื่องรายงานผลการจัดอันดับความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจของธนาคารโลก 
(Doing Business 2012) 
และข้อเสนอแนวทางการปรับปรุงบริการเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการประกอบ
ธุรกิจ) ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ แล้วลงมติ ดังนี้
 
            1. รับ
ทราบและเห็นชอบทั้ง 2 ข้อ ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ 
โดยมอบหมายให้สำนักงาน ก.พ.ร. 
ดำเนินการติดตามและประเมินผลการปรับปรุงบริการเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการ
ประกอบธุรกิจของประเทศเป็นผลสำเร็จและอันดับของประเทศไทยดีขึ้น 
เพื่อให้ผลการดำเนินการเรื่องนี้มีประสิทธิผลและประสิทธิภาพด้วย ทั้งนี้ 
ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อ
สารไปประกอบการดำเนินการต่อไป
 
            2. ส่วนการมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาศึกษาและปรับปรุงกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการดังกล่าวนั้น ให้
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเร่งรัดพิจารณาปรับปรุงกฎหมาย กฎ และระเบียบ 
เพื่อเป็นการลดขั้นตอนและลดการขออนุญาตที่ไม่จำเป็นเพื่อให้เหมาะสมกับภาค
ธุรกิจ เช่น 
การกำหนดระยะเวลาการดำเนินการของพนักงานเจ้าหน้าที่ไว้ในกฎหมาย 
การกำหนดให้มีการพิจารณาร่วมกันระหว่างพนักงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง 
เพื่อให้แล้วเสร็จในคราวเดียวกัน โดยมีมาตรฐานการพิจารณาเป็นอย่างเดียวกัน 
และการลดการอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ 
โดยประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ 
และกระทรวงอุตสาหกรรมต่อไป
 
            สำหรับประเด็นที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาทั้ง 2 ข้อ มีดังนี้
 
            1.
 รับทราบรายงานผลการจัดอันดับความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจของธนาคารโลก 
(Doing Business 2012) ซึ่งประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับที่ 
17 จาก 183 ประเทศ
 
            2. พิจารณาให้ความเห็นชอบ ดังนี้ 
 
                 2.1
 
ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการปรับปรุงบริการเพื่อเพิ่มขีดความสามารถใน
การประกอบธุรกิจของประเทศเป็นผลสำเร็จและอันดับของประเทศไทยดีขึ้น 
ตามความเห็นของ ก.พ.ร. ในการประชุมครั้งที่ 7/2554 เมื่อวันที่ 21 
พฤศจิกายน 2554 ที่เห็นควรดำเนินการ ดังนี้
 
                       1) ด้านการจดทะเบียนทรัพย์สิน ให้กรมที่ดิน และกรมสรรพากรเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบหลัก 
ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมในการปรับลดอัตราภาษีหรือค่าธรรมเนียมในการจด
ทะเบียนทรัพย์สินเพื่อกำหนดเป็นมาตรการถาวร 
หรือปรับแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 
และควรเชื่อมโยงฐานข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากับกรมที่ดินให้สามารถตรวจ
สอบความเป็นนิติบุคคลของผู้ขอจดทะเบียนได้แบบ real time
 
                        2)
 ด้านการชำระภาษี ให้กระทรวงการคลัง 
และหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการจัดเก็บภาษีและค่าธรรมเนียมให้รัฐเป็นหน่วยงาน
ที่รับผิดชอบหลัก 
ดำเนินการศึกษารายละเอียดกระบวนการจัดเก็บภาษีของประเทศและปฏิรูประบบการจัด
เก็บภาษีใหม่ให้เกิดการบูรณาการ 
และศึกษาแนวทางการมอบอำนาจให้หน่วยงานอื่นจัดเก็บภาษีแทนได้อย่างจริงจัง 
เพื่อให้เกิดระบบการชำระภาษีเพียงจุดเดียว
 
                        3) ด้านการปิดกิจการ ให้
กรมบังคับคดี และศาลยุติธรรมเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบหลัก 
ดำเนินการเร่งปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 
และกำหนดมาตรการเพื่อลดระยะเวลาในกระบวนการปิดกิจการ
 
                        4) ด้านการค้าระหว่างประเทศ ให้กรมศุลกากร 
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการนำเข้า-ส่งออกสินค้าเป็นหน่วยงานที่
รับผิดชอบหลัก ดำเนินการผลักดันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำระบบ National 
Single Window ไปใช้ในการนำเข้า-ส่งออกอย่างเป็นรูปธรรม 
และศึกษาเพื่อกำหนดแนวทางในการลดค่าใช้จ่ายและลดจำนวนเอกสารในการนำเข้า-ส่ง
ออกให้แก่ผู้ประกอบการ
 
                        5) ด้านการเริ่มต้นธุรกิจ ให้
กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบหลัก 
ดำเนินการพัฒนาระบบการให้บริการจัดตั้งธุรกิจให้เป็นการให้บริการผ่านระบบ
อิเล็กทรอนิกส์ 
 
                        6) ด้านการได้รับสินเชื่อ ให้
กระทรวงการคลัง และกรมบังคับคดีเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบหลัก 
ดำเนินการเร่งรัดการประกาศใช้พระราชบัญญัติหลักประกันทางธุรกิจ 
ตลอดจนปรับปรุงกฏหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น 
กฎหมายล้มละลายเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งในสิทธิทางกฎหมายของเจ้าหนี้และ
ลูกหนี้ในการขอสินเชื่อ 
กฎหมายเกี่ยวกับข้อมูลเครดิตเพื่อขยายขอบเขตการจัดเก็บข้อมูลเครดิต เป็นต้น
 
                  2.2
 
ให้สำนักงบประมาณพิจารณาสนับสนุนงบประมาณการดำเนินงานหรือโครงการที่เกี่ยว
ข้องกับการปรับปรุงบริการตามรายงานผลการวิจัยเรื่อง Doing Business 
แก่หน่วยงานที่รับผิดชอบ และสนับสนุนงบประมาณแก่สำนักงาน ก.พ.ร. 
เพื่อดำเนินการศึกษาวิจัยแนวทางการดำเนินงานของประเทศที่ได้รับการจัดให้
อยู่ในอันดับต้น ๆ (Benchmarking) 
เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของไทย (มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 
18 มกราคม 2554) มอบหมายให้สำนักงาน ก.พ.ร. ดำเนินการศึกษาวิจัย)
 
                  2.3
 
ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาศึกษาและปรับปรุงกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการ
ดำเนินการปรับปรุงบริการของหน่วยงานต่าง ๆ ตามรายงานผลการวิจัยเรื่อง Doing
 Business ของธนาคารโลก
 
                  2.4
 
ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสนับสนุนและพัฒนาระบบการให้บริการ
ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์แก่หน่วยงานต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง 
 
                  2.5
 ให้สำนักงาน ก.พ.ร. รายงานความก้าวหน้าในการดำเนินการของหน่วยงานต่าง ๆ 
ที่รับผิดชอบในการปรับปรุงบริการให้คณะรัฐมนตรีทราบทุก 6 เดือน
 
    
 
    
 
    
  
     
    
   
 วสุนธรา (สลธ.) / รายงาน
 กลุ่มสื่อสารฯ / จัดทำ
 ข้อมูลจาก : หนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และหนังสือสำนักงาน ก.พ.ร.
 
 
	
	
	
  
 
            
						
            เผยแพร่ข้อมูลเมื่อ 11 มกราคม 2555 09:42:16 ปรับปรุงข้อมูลล่าสุดเมื่อ 11 มกราคม 2555 09:42:16