ศุลกากรขานรับนโยบายนำร่องถ่ายโอนงานด้านการตรวจสอบฯ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ

ศุลกากรขานรับนโยบาย
นำร่องถ่ายโอนงานด้านการตรวจสอบฯ

กรมศุลกากรขานรับนโยบายถ่ายโอนงานด้านการตรวจสอบและรับรองคุณภาพ มาตรฐานของส่วนราชการต่างๆ ให้ภาคเอกชน หรือภาคส่วนอื่นรับไปดำเนินการแทน โดยจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงการถ่ายโอนงานด้านการตรวจสอบวิเคราะห์สินค้าของกรมศุลกากรกับบริษัทห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด มี นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมศุลกากร และ นายเอกชาติ นาคาไชย์ กรรมการ ผู้จัดการ ร่วมลงนาม พร้อมผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ของกรมศุลกากร บริษัทห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด และผู้แทนจากสำนักงาน ก.พ.ร. ได้แก่ นางสาวนลินี จันสว่าง ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาโครงสร้างระบบราชการ และ นายสุรพรรณ เก็งทอง ผู้ เชี่ยวชาญส่วนการพัฒนาระบบราชการกลุ่มกระทรวงที่ 1 ร่วมเป็นสักขีพยาน เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2554 ณ ห้องประชุมภาศกรวงศ์ กรมศุลกากร

ความร่วมมือดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องมาจาก มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2553 ที่เห็นชอบตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ ให้ดำเนินการถ่ายโอนงานด้านการตรวจสอบและรับรองคุณภาพมาตรฐานของส่วนราชการ ต่างๆ ให้ภาคเอกชน หรือภาคส่วนอื่นรับไปดำเนินการแทนในระยะแรกจำนวน 37 งาน ใน 18 ส่วนราชการ โดยกรมศุลกากรเป็นหน่วยงานหนึ่งที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการตามมติคณะ รัฐมนตรีดังกล่าว และได้แต่งตั้งคณะทำงานถ่ายโอนงานด้านการตรวจสอบและรับรองคุณภาพมาตรฐาน ของกรมศุลกากรเป็นผู้รับผิดชอบ ดำเนินการเพื่อให้การถ่ายโอนงานบรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธ ผล

นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดี กรมศุลกากรกล่าวถึงนโยบายการอำนวยความสะดวกทางการค้า และความสำคัญของการถ่ายโอนงานด้านวิเคราะห์สินค้าของกรมศุลกากรว่า การตรวจสอบวิเคราะห์สินค้านับเป็นกระบวนการหนึ่งในการให้บริการของกรม ศุลกากรที่มีความสำคัญต่อการนำเข้าและส่งออก นอกเหนือจากสินค้าที่มีการนำเข้าและส่งออกแล้ว กรมศุลกากรยังต้องวิเคราะห์ตัวอย่างของต้องห้าม ที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายของศุลกากรและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ที่ผ่านมาการตรวจสอบและวิเคราะห์สินค้าดำเนินการโดยใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ ของกรมศุลกากร แต่เนื่องจากปริมาณและนวัตกรรมของสินค้าได้พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วส่งผลให้ การวิเคราะห์สินค้าให้ได้มาตรฐาน จำเป็นต้องใช้ห้องปัติการและเครื่องมือตรวจวิเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพสูง ดังนั้น การดำเนินงานร่วมกันระหว่างกรมศุลกากรและบริษัทห้องปฏิบัติการกลางประเทศไทย จำกัด ด้านการตรวจสอบวิเคราะห์สินค้าในวันนี้ ถือเป็นแนวทางใหม่ในการให้บริการที่จะอำนวยความสะดวก รวดเร็ว โปร่งใส และจะเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนการตรวจสอบและรับรองผลคุณภาพสินค้าของกรม ศุลกากรให้มีมาตรฐานสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล อันจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการค้าของประเทศต่อไป นายประสงค์ พูนธเนศ กล่าว

นายเอกชาติ นาคาไชย์ กรรมการ ผู้จัดการบริษัทห้องปฏิบัติการกลางประเทศไทยจำกัด กล่าวถึงความร่วมมือระหว่าง 2 หน่วยงานว่า บริษัทห้องปฏิบัติการกลางประเทศไทยจำกัด เป็นหน่วยงานที่มีห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ตามมาตรฐานสากลและมีคุณสมบัติ ตามข้อกำหนดและขอบเขตการถ่ายโอนงานด้านการตรวจสอบวิเคราะห์สินค้าของกรม ศุลกากร จึงได้รับการคัดเลือกและขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยงานรับถ่ายโอนงานด้านการตรวจ วิเคราะห์สินค้าของกรมศุลกากร เพื่อนำผลวิเคราะห์ไปใช้ประกอบการพิจารณาจัดจำแนกพิกัดอัตราศุลกากร โดยสามารถแยกเป็นกลุ่มสินค้าหลักๆ ได้แก่ เคมีภัณฑ์อินทรีย์ อนินทรีย์ อาหาร เครื่องดื่ม และโลหะ ความร่วมมือดังกล่าวจึงถือเป็นการร่วมขับเคลื่อนให้การตรวจสอบและรับรอง คุณภาพมาตรฐานงานตรวจวิเคราะห์สินค้าของกรมศุลกากรมีมาตรฐานตามนโยบายของคณะ รัฐมนตรี และตอบสนองความต้องของผู้ประกอบการ อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ อย่างยั่งยืนต่อไป นายเอกชาติ นาคาไชย์ กล่าว

การ ดำเนินงานร่วมกันระหว่างกรมศุลกากรและบริษัทห้องปฏิบัติการกลางประเทศไทย จำกัดด้านการตรวจสอบวิเคราะห์สินค้าในวันนี้ นับเป็นตัวอย่างหนึ่งของการถ่ายโอนงานด้านการตรวจสอบและรับรองคุณภาพมาตรฐาน ของส่วนราชการต่างๆ ให้ภาคเอกชน หรือภาคส่วนอื่นรับไปดำเนินการแทน เพื่อให้การบริหารราชการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า ซึ่งหากการดำเนินการดังกล่าวประสบผลสำเร็จส่วนราชการอื่นอาจใช้เป็นรูปแบบ หรือแนวทางในการถ่ายโอนภารกิจของส่วนราชการนั้นๆ ต่อไปได้

อักสรณ์ (สลธ.) / ข่าว & ภาพ
วสุนธรา (สลธ.) / รายงาน
กลุ่มสื่อสาร ฯ / จัดทำ

เผยแพร่ข้อมูลเมื่อ 16 สิงหาคม 2554 10:18:23 ปรับปรุงข้อมูลล่าสุดเมื่อ 16 สิงหาคม 2554 10:18:23