เลขาธิการ ก.พ.ร. ให้โอวาทและกล่าวต้อนรับ นปร. 5 สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ

เลขาธิการ ก.พ.ร. ให้โอวาทและกล่าวต้อนรับ นปร. 5

เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2554 ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ได้จัดให้มีการรายงานตัวเข้าร่วมโครงการพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ (นปร.) รุ่นที่ 5 ณ ห้องประชุม ก.พ.ร. ชั้น 5 สำนักงาน ก.พ.ร. โดยมี ดร. ทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ ก.พ.ร. เป็นประธาน ร่วมด้วย นางสุพรรณี ไพรัชเวทย์ ที่ปรึกษาการพัฒนาระบบราชการ ผศ. ปัณรส มาลากุล ณ อยุธยา ที่ปรึกษาสถาบันส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี และ นายอุดมศักดิ์ อัศวรางกูร ที่ปรึกษาสถาบันส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
alt

         ดร. ทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ ก.พ.ร. ได้กล่าวแสดงความยินดีกับนักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ (นปร.) รุ่นที่ 5 ที่สามารถผ่านการคัดเลือกและได้เข้าร่วมโครงการฯ ได้ว่า การปฏิรูประบบราชการเป็นงานที่ไม่สามารถทำได้เสร็จในวันเดียว เพราะโลกมีเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ฉะนั้นระบบข้าราชการไทยก็ต้องมีการปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงนั้น โดยในปี พ.ศ. 2547 คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการได้เสนอแนวคิดว่า การพัฒนาระบบราชการให้ยั่งยืนนั้น ควรมีคนรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพเข้าสู่ระบบราชการให้มากขึ้น จึงได้มีการศึกษาดูงานเกี่ยวกับการพัฒนาบุคลากรของประเทศอังกฤษ ประเทศฝรั่งเศสและประเทศสิงคโปร์ โดยเฉพาะรูปแบบของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งได้ตั้งโรงเรียนนักบริหารขึ้นมา เพื่อผลิตบุคลากรรุ่นใหม่เข้ารับราชการปีละ 100 คน สำนักงาน ก.พ.ร. จึงได้นำเรื่องนี้เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อขออนุมัติดำเนินโครงการ

         โครงการพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ (นปร.) เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2548 ซึ่งเป็นโครงการที่มุ่งสร้างคนเก่ง พัฒนาคนดี เข้ามาเป็นทรัพยากรบุคคลที่เป็นข้าราชการรุ่นใหม่ของระบบราช การไทย เพื่อร่วมกันพัฒนาระบบราชการและประเทศชาติ ปัจจุบันนับเป็นรุ่นที่ 5 ซึ่งผู้ที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการฯ ในรุ่นนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 46 คน เป็นกลุ่มบุคคลผู้เพิ่งสำเร็จการศึกษา 23 คน กลุ่มบุคคลจากภาคเอกชน หน่วยงาน หรือองค์การระหว่างประเทศ 19 คน และกลุ่มข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐประเภทต่าง ๆ 4 คน ประกอบด้วยผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก 7 คน และปริญญาโท 39 คน

         ดร. ทศพร ได้กล่าวต่อไปว่า สำหรับผู้ที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ alt

นปร. รุ่นที่ 5 นี้ จะได้เรียนรู้การปฏิบัติราชการเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน โดยยึดหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีหรือหลักธรรมาภิบาล (Good Governance) และ นปร. ทุกคนจะต้องปฏิบัติตนตามระเบียบของทางราชการ รวมทั้งต้องปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกด้วย ในส่วนของการเรียนรู้และพัฒนาตนเองนั้น นปร. จะได้พัฒนาตนเองให้เป็นนักบริหารที่ีดสมรรถนะสูง คือ มีความชำนาญรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นนักคิดที่มีวิสัยทัศน์ เป็นนักพัฒนา นักวางแผนที่มีความเชี่ยวชาญ และเป็นนักปฏิบัติที่สามารถแปลงยุทธศาสตร์สู่การปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และสามารถเป็นผู้นำทางความคิดด้านวิชาการ ด้านการปฏิบัติตน สามารถนำนวัตกรรมด้านการบริหารจัดการมาพัฒนาหน่วยงานภาครัฐให้มีศักยภาพ และเกิดประโยชน์แก่ประชาชน ซึ่งโครงการฯดังกล่าวมีระยะเวลาการฝึกอบรมประมาณ 22 เดือน และเมื่อผ่านการพัฒนาจากโครงการฯ แล้ว ผู้ได้รับการประเมินให้ผ่านโครงการฯ จะได้ไปปฏิบัติราชการในส่วนราชการที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ต่อไป

alt

         นอกจากนี้ ดร. ทศพร ยังได้กล่าวทิ้งท้ายถึงบทบาทและภารกิจของสำนักงาน ก.พ.ร. ว่ามีหน้าที่ในการส่งเสริมธรรมาภิบาล ดูแลเรื่องการจัดโครงสร้างส่วนราชการ กระทรวง ทบวง กรม การจัดตั้งองค์การมหาชน การติดตามและประเมินผลการปฏิบัติราชการ รวมทั้งมีการจัดโครงสร้างการทำงานที่แยกส่วนงานจากสำนักงาน ก.พ.ร.ชื่อว่า สถาบันส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี (Service Delivery Unit : SDU) ซึ่งมีหน้าที่ในการให้บริการและบริหารจัดการโครงการต่าง ๆ ของสำนักงาน
ก.พ.ร.

         นอกจากนี้ ผศ. ปัณรส มาลากุล ณ อยุธยา ที่ปรึกษาสถาบันส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ได้กล่าวเกี่ยวกับการเรียนรู้ในโครงการพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ ว่า โครงการนี้เป็นอีกประตูหนึ่งที่เปิดให้ผู้ที่มีศักยภาพ และมีจิตที่ต้องการรับใช้แผ่นดินเข้ารับราชการ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อเป็นช่องทางใหม่ที่จะให้ผู้ที่มีความรู้ ความสามารถเข้าสู่ระบบราชการ 2) เพื่อพัฒนาข้าราชการให้เป็นข้าราชการที่ดีและเก่ง กล่าวคือ โครงการนี้ จะสร้างให้ข้าราชการรุ่นใหม่ เป็นนักคิดที่มีวิสัยทัศน์ เป็นนักพัฒนาและนักวางแผน รวมทั้งสามารถนำแนวทางไปสู่การดำเนินงานได้ และสุดท้าย คือ นปร. ต้องเป็นนักปฏิบัติ ที่สามารถดำเนินงานได้ จนกระทั่งบังเกิดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจากวัตถุประสงค์ของโครงการทั้ง 2ข้อนี้ จะส่งผลให้ นปร. เป็นข้าราชการที่สามารถบริหารการเปลี่ยนแปลงได้อย่างสมดุล และพร้อมที่จะขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ต่าง ๆ ได้

         ผศ. ปัณรส ได้กล่าวต่อไปว่า โครงการนี้มีระยะเวลาในการพัฒนา รวมทั้งสิ้น 22 เดือน โดยต้องผ่านกระบวนการเรียนรู้ ทั้งเนื้อหาในภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ซึ่งระหว่างพัฒนาในโครงการ นปร. ควรมีการคิดวิเคราะห์และติดตามแนวโน้ม และสถานการณ์ของสังคมทั้งในระดับโลกและระดับภูมิภาค หรือระดับจังหวัดด้วย หลังจากนั้น นปร. ควรออกแบบหรือร่างนโยบาย ยุทธศาสตร์ มาตรการต่าง ๆ ได้

           alt

สำหรับในช่วงสุดท้ายเป็นการกรอกรายละเอียดการายงานตัวของ นปร. รุ่นที่ 5

ปณิตา (สำนักนวัตกรรมฯ)/ข้อมูล
นนทญา (สลธ.) / ข่าว & ภาพ
วสุนธรา & ภัทรพร (สลธ.) / รายงาน
กลุ่มสื่อสาร ฯ / จัดทำ

เผยแพร่ข้อมูลเมื่อ 11 พฤษภาคม 2554 14:17:35 ปรับปรุงข้อมูลล่าสุดเมื่อ 11 พฤษภาคม 2554 14:17:35