คณะเจ้าหน้าที่จากประเทศบัง
คลาเทศ
ศึกษาดูงานการพัฒนาระบบราชการ
เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2554 สำนักงาน
ก.พ.ร. ได้รับเกียรติจาก คณะ
เจ้าหน้าที่จากประเทศบังคลาเทศ ที่มาศึกษาดูงานเกี่ยวกับการพัฒนาระบบราชการ ณ
ห้องประชุม ก.พ.ร. ชั้น 5 สำนักงาน ก.พ.ร. โดยมี นางกิตติยา คัมภีร์ ผู้อำนวยการสำนักเผยแพร่และสนับสนุนการมี
ส่วนร่วมในการพัฒนาระบบราชการ เป็นผู้บรรยาย
คณะเจ้าหน้าที่จากประเทศบังคลาเทศ
ที่มาศึกษาดูงานยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการในครั้งนี้
เป็นข้าราชการระดับสูงจาก Ministry
of Establishment, the Government of the Peoples Republic of Bangladesh ที่
เข้ารับการฝึกอบรมเรื่อง Sustaining
Competitive Edge at the Crossroad of Emerging Technology: Management
Perspective ซึ่งจัดโดยสำนักงานบริหารวิชาการ
สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (Asian Institute of Technology (AIT))
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจในด้านนโยบายสาธารณะ
การจัดการและการบริหารรัฐกิจของประเทศไทย
เนื่อง
จาก AIT เล็งเห็นว่าสำนักงาน ก.พ.ร.
เป็นแบบอย่างที่ดีในการเรียนรู้ด้านยุทธศาสตร์ในการพัฒนาระบบราชการ
รวมทั้งการจัดการความรู้กับการบริหารราชการแนวใหม่ AIT
จึงนำคณะผู้เข้าอบรมในหลักสูตรดังกล่าวมาศึกษาดูงานและแลกเปลี่ยนประสบการณ์
เกี่ยวกับการพัฒนาระบบราชการ
โดยผู้ที่มาต้อนรับและบรรยายให้ความรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับคณะศึกษา
ดูงานในครั้งนี้ คือ นาง
กิตติยา คัมภีร์ ผู้
อำนวยการสำนักเผยแพร่และสนับสนุนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบราชการ
โดยได้บรรยายในหัวข้อ Public
Sector Development Initiatives: Thailand Experience โดย
ได้บรรยายถึงสาเหตุที่ทำให้ต้องมีการปฏิรูประบบราชการ
การดำเนินการพัฒนาระบบราชการไทยนับตั้งแต่การประกาศใช้พระราชบัญญัติระเบียบ
บริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545
ซึ่งกำหนดกรอบแนวทางการบริหารราชการแผ่นดินที่เน้นหลักการบริหารกิจการบ้าน
เมืองที่ดี และการบริหารงานภาครัฐแนวใหม่
เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน
และการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการไทย
นอกจากนี้
ผอ.กิตติยายังได้แนะนำให้คณะศึกษาดูงานได้รับทราบถึงบทบาทหน้าที่
และภารกิจของคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) และสำนักงาน ก.พ.ร. ซึ่งได้
ดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาระบบราชการ อาทิ
การจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการไทย
การปรับปรุงโครงสร้างส่วนราชการ
การจัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการและการติดตามประเมินผลการปฏิบัติราชการ
การลดขั้นตอนและระยะเวลาในการปฏิบัติราชการและพัฒนาคุณภาพการให้บริการ
ประชาชน การปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์
วัฒนธรรมและค่านิยมของข้าราชการให้เอื้อต่อการพัฒนาระบบราชการ
การพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ (PMQA)
การจัดทำโครงการส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-Learning)
เป็นต้น ซึ่งการดำเนินการต่าง ๆ ดังกล่าว
ส่งผลให้การพัฒนาระบบราชการบังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม
จนเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
ดังจะเห็นได้จากผลการจัดอันดับความยากง่ายในการเข้าไปประกอบธุรกิจของประเทศ
ต่าง ๆ ทั่วโลก (Doing Business) ที่จัดทำโดยธนาคารโลก (World Bank)
ซึ่งประเทศไทยได้รับการจัดให้อยู่ในอันดับ Top 20 ทุกปี นับตั้งแต่ปี 2005
เป็นต้นมา โดยล่าสุด การจัดอันดับในปี 2011 ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 19
จาก 183 ประเทศ และเป็นอันดับที่ 3 ของทวีปเอเชีย รองจากสิงคโปร์ และฮ่องกง
วสุนธรา & ภัทรพร (สลธ.) / รายงาน
ชนกสุดา & ธนาพร (สลธ.) / ข้อมูล
กลุ่มสื่อสาร ฯ / จัดทำ
เผยแพร่ข้อมูลเมื่อ 7 มีนาคม 2554 10:02:05 ปรับปรุงข้อมูลล่าสุดเมื่อ 7 มีนาคม 2554 10:02:05