Logo of OPDC ก.พ.ร. FAQ สำหรับการค้นหา  |  ภาษาไทย   |   English   |   Mobile   |   Help   |  

หน้าหลัก หน้าหลัก | ติดต่อ | ผังเว็บไซต์ |  หน้าหลัก
Share แชร์ พิมพ์หน้านี้
ข่าวเด่น ก.พ.ร. / ปี 2554 / มีนาคม / ก.พ.ร. จัดประชุมสัมมนาเสริมสร้างและพัฒนาเครือข่ายการฒนาระบบราชการ เรื่อง การประเมินผลและพัฒนาน่วยงาน ในภาคราชการ

ก.พ.ร. จัดประชุมสัมมนาเสริมสร้างและพัฒนาเครือข่ายการฒนาระบบราชการ เรื่อง การประเมินผลและพัฒนาน่วยงาน ในภาคราชการ

ก.พ.ร. จัดประชุมสัมมนาเสริมสร้างและพัฒนา
เครือข่ายการพัฒนาระบบราชการ
เรื่อง การประเมินผลและพัฒนาหน่วยงานในภาคราชการ



          
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 กุมภาพันธ์ 2554 สำนักงาน ก.พ.ร. จัดการประชุมสัมมนาเสริมสร้างและพัฒนาเครือข่ายการพัฒนาระบบราชการ เรี่อง การประเมินผลและพัฒนาหน่วยงานในภาคราชการ ซึ่งได้รับเกียรติจาก รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  นายสาทิตย์  วงศ์หนองเตย  เป็นประธานในการประชุม   โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมสัมมนาประกอบด้วย   ผู้บริหารระดับกระทรวง กรม ผู้ทรงคุณวุฒิ กลุ่มพัฒนาระบบบริหารจากทุกส่วนราชการ และผู้ที่เกี่ยวข้องกว่า 500 คน ณ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพมหานคร 



          การประชุมสัมมนาเสริมสร้างและพัฒนาเครือข่ายการพัฒนาระบบราชการในครั้งนี้ มีหัวข้อสำคัญคือ ระบบการประเมินผลภาคราชการแบบบูรณาการ (Government Evaluation System : GES) ซึ่งเป็นการบูรณาการระบบการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ โดยนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการบริหารจัดการข้อมูล นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ  (ค.ต.ป.) ได้กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า การประชุมสัมมนาในวันนี้ได้จัดขึ้นโดยมีที่มาจากการรับฟังความคิดเห็นของส่วนราชการต่างๆ ในเรื่องของตัวชี้วัดที่ต้องใช้เวลาในการทำงานด้านเอกสารค่อนข้างมาก ท่านนายกรัฐมนตรีได้ติดตามเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น สิ่งที่ท่านพูดถึงก็คือ การทำงานของแต่ละภาคส่วน โดยเฉพาะภาคราชการควรจะมุ่งเน้นเป้าหมายสุดท้ายคือ การให้บริการประชาชนเป็นสำคัญ สิ่งที่ช่วยลดภาระของส่วนราชการ หรือของข้าราชการ เพื่อให้สามารถทุ่มเทเวลาในการทำงานตามนโยบาย หรือตามภารกิจของหน่วยราชการนั้น จึงเป็นเรื่องที่พยายามผลักดันให้เกิดขึ้นตลอดมา จึงเป็นที่มาของแนวคิดที่ต้องมีการปรับตัวชี้วัด และนำเสนอคณะรัฐมนตรี ซี่งได้มีมติเห็นชอบเกี่ยวกับระบบการประเมินผลภาคราชการแบบบูรณาการ (Government Evaluation System : GES) เพื่อให้มีการทำงานแบบ Work Collaboration นั่นคือ คำนึงถึงการทำงานจริงของผู้ใช้เป็นหลัก สามารถลดความซ้ำซ้อนของการจัดทำรายงาน เนื่องจากระบบการประเมินผลภาคราชการแบบบูรณาการนี้มีระบบฐานข้อมูลเดียวกัน และสามารถทำการตรวจสอบและประเมินผลผ่านระบบ ออนไลน์ได้ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย กล่าว

          ด้าน ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ ก.พ.ร. กล่าวว่า เนื่องด้วยระบบการประเมินผลภาคราชการแบบบูรณาการ (Government Evaluation System : GES) เป็นเรื่องใหม่ ซึ่งเป็นการบูรณาการระบบการติดตามและประเมินผลภาครัฐให้มีความเป็นเอกภาพ ลดความซ้ำซ้อน และภาระงานเอกสาร โดยระบบการประเมินผลแบบบูรณาการจะมีการยกเลิกบางตัวชี้วัดตามคำรับรองการปฏิบัติราชการของส่วนราชการ และมุ่งเน้นเฉพาะตัวชี้วัดหลักที่มีความจำเป็นเท่านั้น

          ระบบการประเมินผลภาคราชการแบบบูรณาการ ได้กำหนดกรอบการประเมินผลเป็น 2 มิติ  ได้แก่  มิติภายนอก และ มิติภายใน  รวมทั้งให้มีการวางระบบสารสนเทศฐานข้อมูลกลาง เพื่อจะได้เชื่อมโยงข้อมูลกลางของประเทศ และข้อมูลของส่วนราชการเข้าไว้ในฐานข้อมูลเดียวกัน ดร.ทศพร กล่าว

         ผู้อำนวยการสำนักประเมินผล สำนักงบประมาณ นายเพิ่มศักดิ์ สัจจะเวทะกล่าวเพิ่มเติมในส่วนของสำนักงบประมาณว่า ปัจจุบัน ระบบงบประมาณเน้นที่ความสำเร็จในการดำเนินงานที่แสดงผ่านตัวชี้วัดต่างๆ เป็นเครื่องมือในการตรวจวัดระบบงาน ปรากฎว่าเครืองมือมีค่อนข้างมาก ทำให้เป็นภาระของส่วนราชการ นอกจากนี้ ยังมีรายงานรูปแบบต่างๆ บางตัวมีความซ้ำซ้อนของข้อมูล จึงมีแนวคิดที่จะลดภาระให้ส่วนนี้ลดลง อันเป็นที่มาของระบบการประเมินผลเป็นเครื่องมือเดียว โดยต้องไม่เสียแนวระบบงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงานตามยุทธศาสตร์ ซึ่งมีองค์ประกอบ 6 ประการ คือ 1. มุ่งเน้นผลสำเร็จของงานตามผลผลิต ผลลัพธ์ 2. การประมาณการงบประมาณรายจ่ายล่วงหน้าระยะปานกลาง (MTEF) 3. การมอบอำนาจการบริหารจัดการงบประมาณให้ส่วนราชการเพื่อให้เกิดความคล่องตัว 4. เน้นหลักธรรมาภิบาล 5. การเพิ่มขอบเขตความครอบคลุมของงบประมาณ และ 6.มีระบบติดตามประเมินผลเพื่อวัดผลสำเร็จในการดำเนินงาน จึงต้องมีระบบประเมินผลดังกล่าวเป็นเครื่องมือ นายเพิ่มศักดิ์ กล่าว 


          และนอกจากเรื่องของการประเมินผลภาคราชการแบบบูรณาการแล้ว ในการประชุมสัมมนาดังกล่าวยังได้มีการนำเสนอข้อคิดเห็นและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เรื่อง การจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาหน่วยงานของส่วนราชการระดับกระทรวงและกรมโดยได้เปิดโอกาสให้ส่วนราชการร่วมแสดงความคิดเห็นและแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากการดำเนินการใน 3 เรื่องคือ 1. การจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาหน่วยงาน 2. มาตรการทบทวนบทบาทภารกิจตามมาตรา 33 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 และ 3. แนวทางการจัดกลุ่มพัฒนาระบบบริหาร โดย รองเลขาธิการ ก.พ.ร. นายอาวุธ วรรณวงศ์ เป็นผู้ชี้แจงและตอบข้อซักถามต่างๆ ของส่วนราชการ


          ส่วนช่วงบ่ายเป็นการเสวนา เรื่อง ความสำเร็จของการดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาหน่วยงาน โดยได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคเอกชน ได้แก่ นายพลชม จันทร์อุไร กรรมการผู้จัดการบริษัทในเครือ เอสซีจี เคมิคอลส์  นายณัฐ วงศ์พานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทบีทูเอส จำกัด ดำเนินรายการโดย นายอนุชิต ฮุนสวัสดิกุล ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการพัฒนาระบบราชการ สำนักงาน ก.พ.ร. เพื่อให้ส่วนราชการสามารถเห็นตัวอย่างการจัดทำแผนพัฒนาองค์กร (Organization Development) ซึ่งเกิดผลสำเร็จในภาคเอกชนและเป็นแนวทางในการนำไปประยุกต์ใช้ในหน่วยงานภาครัฐต่อไป
 







อักสรณ์ (สลธ.) / ข่าว & ภาพ
วสุนธรา (สลธ.) / รายงาน
กลุ่มสื่อสาร ฯ / จัดทำ

 

 


เผยแพร่ข้อมูลเมื่อ 3 มีนาคม 2554 15:44:09 ปรับปรุงข้อมูลล่าสุดเมื่อ 3 มีนาคม 2554 15:44:52
ข่าวเด่น ก.พ.ร.
    ลิงค์     |     สมาชิกเครือข่าย     |     RSS feed     |     คำถามที่พบบ่อย            

เกี่ยวกับ

กฏหมายและระเบียบ

หนังสือเวียน

ข้อมูลหน่วยงานภาครัฐ

ศูนย์ความรู้

ประชาสัมพันธ์

W3C   Facebook Facebook สำนักงาน ก.พ.ร.   PMQA Channel  ฐานข้อมูลหน่วยงานภาครัฐ  ipv6 ready  www.info.go.th  การปฏิเสธความรับผิดชอบ |  Webmail| Intranet สำหรับข้าราชการ | ผังเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ 

Slocan

สงวนลิขสิทธิ์โดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ

59/1 ถนนพิษณุโลก แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300 โทร. 02 356 9999 โทรสาร 02 281 7882 สายด่วน 1785 e-mail: administrator@opdc.go.th