ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของส่วนราชการที่อยู่ในเกณฑ์
ได้รับรางวัลดีเด่น เพื่อรับรางวัลคุณภาพการให้บริการประชาชน
ประจำปี พ.ศ. 2553

เมื่อวันอังคารที่ 2 พฤศจิกายน 2553 อนุกรรม การพัฒนาระบบราชการเฉพาะกิจเกี่ยวกับการยกระดับคุณภาพมาตรฐานและลดขั้นตอน ระยะเวลาการปฏิบัติราชการเพื่ออำนวยความสะดวกและตอบสนองความต้องการของ ประชาชน (อ.ก.พ.ร.เฉพาะกิจฯ) นำโดย นายชุมพล พรประภา นางวิยะดา สิมะเสถียร และนายชาตรี กุลเพ็ชร์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงาน ก.พ.ร. ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของ 3 หน่วยงาน คือ สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ สำนักควบคุมวัตถุอันตราย กรมโรงงานอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เพื่อ นำเสนอผลการพัฒนาคุณภาพการให้บริการประชาชนในกระบวนงานต่างๆ ในการขอรับการประเมินเพื่อรับรางวัลคุณภาพการให้บริการประชาชน ประจำปี พ.ศ. 2553

สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ นำเสนอกระบวนงาน การให้บริการจัดทำบัตรประจำตัวคนพิการ นวัตกรรมบัตรประจำตัวคนพิการ (e card) ซึ่ง แต่เดิมนั้นกระบวนการในการขอรับบริการจดทะเบียนคนพิการ ตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 มักพบว่ามีความซ้ำซ้อนของข้อมูล อีกทั้งข้อมูลที่บันทึกลงในแบบจดทะเบียนคนพิการและสมุดประจำตัวจะเป็นการ บันทึกจากลายมือของเจ้าหน้าที่ ทำให้บางครั้งฐานข้อมูลทะเบียนกลางคนพิการมีรายละเอียดข้อมูลหลักรายบุคคล ของคนพิการที่ไม่ถูกต้อง ครบถ้วน และทันสมัย

จึง ได้มีการนำเอานวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถรับบริการด้านทะเบียนคนพิการได้อย่างเบ็ดเสร็จในจุด เดียว (one Stop Service) โดยการนำระบบคอมพิวเตอร์แบบออนไลน์ (online) มาใช้ตรวจสอบข้อมูลคนพิการทั่วประเทศ เจ้าหน้าที่สามารถบันทึกข้อมูลเข้าระบบพร้อมทั้งจัดพิมพ์บัตรประจำตัวได้ ทันที ในส่วนของบัตรประจำตัว ได้มีการพัฒนาในรูปแบบของบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (e card) ที่มีรูปลักษณ์ทันสมัย พกพาง่าย และสามารถตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ของคนพิการทั้งประวัติส่วนบุคคล ประวัติการรับบริการต่างๆ เชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิเช่น กรมการปกครอง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กรมการจัดหางาน เป็นต้น ถือเป็นการลดขั้นตอน เพิ่มความสะดวก รวดเร็ว ให้กับผู้มาใช้บริการได้เป็นอย่างดี

สำนักควบคุมวัตถุอันตราย กรมโรงงานอุตสาหกรรม นำเสนอกระบวนงาน การรับแจ้งข้อเท็จจริงการนำเข้า/ส่งออกวัตถุอันตราย โดยผู้ประกอบการจะต้องมีการแจ้ง เมื่อได้รับโควต้า การนำเข้าและส่งออกให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบ และเมื่อจะนำเข้าหรือส่งออกจะต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนที่จะมีการนำหรือส่ง วัตถุอันตรายออกจากด่านศุลกากรทุกครั้ง ซึ่งแต่เดิมนั้น การรับแจ้งข้อเท็จจริงการนำเข้า/ส่งออกวัตถุอันตราย (ตามแบบวอ./อก.6) จะมีขั้นตอนการดำเนินงานถึง 5 ขั้นตอน ใช้เวลา 2 วันทำการ

กระทั่งปีงบประมาณ 2552 กรมโรงงานอุตสาหกรรมได้พัฒนากระบวนการรับแจ้งนำเข้า/ส่งออกวัตถุอันตราย โดยสามารถแจ้งผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ทำให้ลดขั้นตอนและระยะเวลาการปฏิบัติงานเหลือเพียง 2 ขั้นตอน ใช้อัตราเจ้าหน้าที่ 2 คน ในเวลาเพียง 15 นาที พร้อมปรับปรุงจุดบริการให้เป็นแบบเบ็ดเสร็จครบวงจร ณ จุดเดียว (One Stop Service) ใช้ชื่อว่า ศูนย์บริการสารพันทันใจ (Single Window) โดยผลที่ได้จากการบริการนอกจากความสะดวก รวดเร็วแล้ว ยังทำให้ภาครัฐมีฐานข้อมูลที่มีประโยชน์สำหรับการติดตามสารเคมีไปใช้อย่าง ไม่ถูกต้องได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน นำเสนอกระบวนงาน การเริ่มต้นธุรกิจ (Starting a Business) นวัตกรรม ศูนย์ประสานการบริการด้านการลงทุน (One Start One Stop Investment Center : OSOS) ซึ่ง ในอดีตนั้นการเริ่มต้นทำธุรกิจ ผู้ประกอบการและนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ ต่างก็ไม่ได้รับความสะดวกและล่าช้า เนื่องจากมีขั้นตอนการดำเนินงานหลายขั้นตอน และมีหน่วยงานที่ต้องติดต่ออยู่หลายแห่ง

หลังจากที่ได้มีการจัดตั้งศูนย์ประสานการบริการด้านการลงทุน (OSOS) ขึ้น นักลงทุนทั้งรายเดิม (Existing Investors) และรายใหม่ (New Investors) ต่างก็ได้รับความสะดวกในการติดต่อธุรกิจ และสามารถรับบริการที่เกี่ยวข้องกับการเริ่มต้นทำธุรกิจในประเทศได้จาก 10 กระทรวง 21 หน่วยงาน ณ จุดเดียว ทำให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนในการได้รับบริการที่มีประสิทธิภาพจาก หน่วยงานราชการ อีกทั้งยังเป็นการจูงใจให้นักลงทุนสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น อีกด้วย

ลลิดา (สลธ.) / ข่าว & ภาพ
วสุนธรา (สลธ.) / รายงาน
กลุ่มสื่อสาร ฯ / จัดทำ

เผยแพร่ข้อมูลเมื่อ 27 ธันวาคม 2553 10:30:02 ปรับปรุงข้อมูลล่าสุดเมื่อ 27 ธันวาคม 2553 10:41:06

ลลิดา (สลธ.) / ข่าว & ภาพ วสุนธรา (สลธ.) / รายงานกลุ่มสื่อสาร ฯ / จัดทำ

ลลิดา (สลธ.) / ข่าว & ภาพ
วสุนธรา (สลธ.) / รายงาน
กลุ่มสื่อสาร ฯ / จัดทำ