รายงายผลการวิจัย Doing Business 2011 อันดับน่าลงทุนไทยลด  
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
          เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2553 ที่ธนาคารโลกประจำประเทศไทย 
สำนักงาน ก.พ.ร. ได้ร่วมกับธนาคารโลก กระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์ 
จัดการประชุมเพื่อรับฟังการ
นำเสนอรายงานผลการวิจัยเพื่อจัดอันดับความสะดวกในการเข้าไปประกอบธุรกิจใน
ประเทศต่างๆทั่วโลก ประจำปี 2554 (Doing Business 2011) ผ่านระบบ Video 
Conference จากกรุงวอชิงตัน ดี ซี สหรัฐอเมริกา โดยมี นายดาเลีย คาลิฟา ที่ปรึกษาอาวุโส Doing Business 2011 และ นายคารีม เบลายาชิ ผู้เขียนร่วม Doing Business 2011 เป็นผู้รายงาน พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมประชุมซักถามรายละเอียดและประเด็นข้อสงสัยต่างๆ
 
 
 
            ซึ่งผลการวิจัย ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีความสะดวกในการเข้าไปประกอบธุรกิจ อันดับที่ 19 จาก 183 ประเทศทั่วโลก ลด
    ลงจากปี 2010 ที่อยู่ในอันดับ 12 
    เนื่องจากไทยมีการจัดเก็บภาษีจากผู้ประกอบการหลากหลายประเภทมาก 
    ถือเป็นอุปสรรคของนักลงทุน ขณะที่เวียดนาม อันดับพุ่งขึ้น 10 อันดับ 
    อยู่ในอันดับ 78 เพราะมีการปฏิรูประเบียบการลงทุน และประเทศสิงคโปร์ ฮ่องกง
    นิวซีแลนด์ ยังคงนำประเทศอื่นๆ 
    ทั่วโลกในเรื่องของความสะดวกสบายในการดำเนินธุรกิจ
 
 
 
 
            นายอาวุธ วรรณวงศ์ รอง
    เลขาธิการ ก.พ.ร. กล่าวยอมรับว่า อันดับความน่าลงทุนของไทยที่ลดลงในปีนี้ 
    สาเหตุหลักมาจากความไม่สะดวกของนักลงทุน 
    เนื่องจากมีการจัดเก็บภาษีและค่าธรรมเนียมการโอนหลายประเภท 
    โดยจะจัดส่งรายงานดังกล่าวให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมที่ดิน 
    และกรมสรรพากร รวมทั้งรัฐบาลรับทราบ 
    และนำไปพิจารณาว่าจะสามารถปรเปลี่ยนวิธีการจัดเก็บภาษีให้เหลือเพียง
    ประเภทเดียวได้หรือไม่
 
            ด้าน นางเบญวรรณ รัตนประยูร ที่
    ปรึกษาการพาณิชย์ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า 
    มีข้อสงสัยการจัดเก็บข้อมูลของธนาคารโลก 
    เพราะทุกปีจะประสานงานเพื่อขอข้อมูลกับหน่วยงานราชการของไทย 
    แต่ปีนี้ไม่มีการประสานการเก็บข้อมูลแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม 
    ไทยยังคงต้องปรับปรุงด้านอื่นๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุน 
    ซึ่งขณะนี้ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง และกระทรวงแรงงาน 
    อยู่ระหว่างการหารือร่วมกัน เพื่อให้บริการ ซิงเกิล นัมเบอร์ คือ 
    การรวมหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร เลขทะเบียนนายจ้าง 
    และเลขทะเบียนบริษัท เป็นหมายเลขเดียวกัน เพิ่มความสะดวกให้ผู้ประกอบการ 
    คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 
    ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยให้อันดับความน่าลงทุนของประเทศในปีหน้าของไทยดีขึ้น
 
            ดร.แมทธิว เวอร์กิส หัว
    หน้านักเศรษฐศาสตร์ธนาคารโลก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า 
    แม้ไทยจะถูกลดอันดับประเทศที่สะดวกในการลงทุนมาอยู่อันดับที่ 19 
    แต่ก็ยังเป็นอันดับที่ดีระดับแถวหน้าของเอเชีย 
    และที่สำคัญธนาคารโลกได้เห็นการพัฒนาทางด้านนี้ของไทยอย่างต่อเนื่องและทำ
    ได้ดีกว่าจีน เวียดนาม และฟิลิปปินส์ อย่างไรก็ตาม อันดับที่ถูกลดลง 
    ไม่ได้ทำให้ไทยสูญเสียการลงทุนจากต่างประเทศ 
    เพราะนักลงทุนไม่ได้มองแค่ไทยประเทศเดียว 
    แต่มีการเปรียบเทียบกับประเทศคู่แข่งที่ไทยมีความสะดวกในการทำธุรกิจมากกว่า
 
 
 
 
 
 
 
     
 
  
  
 
 
ลลิดา (สลธ.) / ข่าว & ภาพ
 วสุนธรา (สลธ.) / รายงาน
      กลุ่มสื่อสาร ฯ /จัดทำ
 
 
  
 
	
	
	
  
 
            
						
            เผยแพร่ข้อมูลเมื่อ 20 ธันวาคม 2553 10:46:36 ปรับปรุงข้อมูลล่าสุดเมื่อ 20 ธันวาคม 2553 10:46:36