Logo of OPDC ก.พ.ร. FAQ สำหรับการค้นหา  |  ภาษาไทย   |   English   |   Mobile   |   Help   |  

หน้าหลัก หน้าหลัก | ติดต่อ | ผังเว็บไซต์ |  หน้าหลัก
Share แชร์ พิมพ์หน้านี้
ข่าวเด่น ก.พ.ร. / ปี 2553 / ธันวาคม / การตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานเพื่อประเมินผลรางวัลคุณภาพการให้บริการประชาชน ประจำปี พ.ศ. 2553 (โรงพยาบาลตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ)

การตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานเพื่อประเมินผลรางวัลคุณภาพการให้บริการประชาชน ประจำปี พ.ศ. 2553 (โรงพยาบาลตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ)

การตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานเพื่อประเมินผล
รางวัลคุณภาพการให้บริการประชาชน ประจำปี พ.ศ. 2553
(โรงพยาบาลตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ)   


          เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2553 อนุกรรม การพัฒนาระบบราชการ (อ.ก.พ.ร.) เฉพาะกิจเกี่ยวกับการยกระดับคุณภาพมาตรฐานและลดขั้นตอนระยะเวลาการปฏิบัติ ราชการเพื่ออำนวยความสะดวกและตอบสนองความต้องการของประชาชน ซึ่งมี นายปรีชา  จรุงกิจอนันต์  ประธาน อ.ก.พ.ร. เฉพาะกิจ เกี่ยวกับการยกระดับคุณภาพมาตรฐานและลดขั้นตอนระยะเวลาฯ  และ นายชัยยุทธ กมลศิริสกุล ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการพัฒนาระบบราชการ สำนักบริหารการเปลี่ยนแปลงและนวัตกรรม สำนักงาน ก.พ.ร. และคณะเจ้าหน้าที่สำนักงาน ก.พ.ร. ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานฯ ของ โรงพยาบาลตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการนำเสนอผลการพัฒนาคุณภาพการให้บริการประชาชนในกระบวนงาน โครงการรักษ์ตาน้องเพื่อป้องกันโรคตาขี้เกียจอย่างยั่งยืน เพื่อขอรับการประเมินเพื่อรับรางวัลคุณภาพการให้บริการประชาชน ประจำปี พ.ศ. 2553


 


          โรคตาขี้เกียจ เป็น โรคที่เกิดจากระบบการมองเห็นไม่ได้รับการพัฒนาในวัยเด็ก ได้แก่ โรคสายตาผิดปกติ โรคตาเหล่ โรคหนังตาตก และโรคที่ขัดขวางทางเดินของแสง ทำให้ความสามารถในการมองเห็นลดลงอย่างถาวร แต่ถ้ารับการรักษาก่อนอายุ 9 ปี จะสามารถรักษาให้หายเป็นปกติได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันโรคตาขี้เกียจในเด็ก กลุ่มงานตาโรงพยาบาลตำรวจ จึง เปลี่ยนแนวทางการให้บริการจากการตั้งรับรอให้ผู้ป่วยเข้ามารับการตรวจรักษา มาเป็นการให้บริการในเชิงรุก โดยออกไปให้ความรู้ ความเข้าใจ จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการวิธีการตรวจความสามารถในการมองเห็น และมอบอุปกรณ์การตรวจโรคตาขี้เกียจให้แก่ 8 โรงเรียนที่อยู่ในสังกัดของสำนักงานเขตปทุมวัน จนคุณครูสามารถตรวจคัดกรองเด็กนักเรียนได้ด้วยตนเอง และยังทำให้ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาได้อย่างทันท่วงที


 


          โรคตาขี้เกียจ เป็น โรคที่เกิดจากการที่ระบบของการมองเห็นของเด็กไม่ได้รับการพัฒนาในวัยเด็ก ได้แก่ โรคสายตาผิดปกติ โรคตาเหล่ โรคที่ขัดขวางทางเดินของแสง ทำให้ความสามารถในการมองเห็นลดลงอย่างถาวร แต่ถ้ารับการรักษาก่อนอายุ 9 ปี จะสามารถรักษาให้เห็นเป็นปกติได้ 

          การดูแลผู้ป่วยก่อนเริ่มทำโครงการฯ 
           เป็นการตั้งรับรอผู้ป่วยมารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาล
           ผู้ป่วยไม่รู้ว่าตนเองเป็นโรคตาขี้เกียจ 

          การดูแลผู้ป่วยหลังทำโครงการฯ
           เปลี่ยนแนวการให้บริการผู้ป่วยจากการตั้งรับมาเป็นเชิงรุกสู่โรงเรียน สร้างความตระหนักให้แก่บุคลากรของชุมชน และทำให้บุคลากรมีความรู้และความสามารถในการคัดกรองโรคตาขี้เกียจ
           อบมเชิงปฏิบัติการผู้บริหารและคุณครู เพื่อให้สามารถตรวจจคัดกรองเด็กนักเรียน และบอกให้ผู้ป่วยและผู้ปกครองทราบ
           ผู้ป่วยจะได้รับการดูแลรักษาแต่เนิ่นๆ จะสามารถป้องกันโรคตาขี้เกียจได้

          โครงการรักษ์ตาน้องจะยั่งยืนได้ จะต้องเป็นโครงการของชุมชน เพื่อชุมชน ดำเนินการโดยชุมชน โดยมีทีมจักษุแพทย์เป็นเพียงพี่เลี้ยง

          ระยะเวลาของการดำเนินโครงการฯ

          ระยะที่ 1 กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน โดยให้นักเรียนในโรงเรียนกทม.ในพื้นที่รับผิดชอบของโรงพยาบาลตำรวจ ปลอดโรคตาขี้เกียจ จำนวน 1,535 คน และ คุณครูในโรงเรียนทั้ง 8 แห่ง สามารถตรวจโรคตาขี้เกียจได้ด้วยตนเอง และ 

          ระยะที่ 2 เตรียมความพร้อม โดยการสร้างความพร้อมให้กับโรงเรียน ให้เข้าใจโครงการ เพื่อให้มีส่วนร่วมในการปฏิบัติอย่างเต็มใจ เพื่อความยั่งยืน

          ระยะที่ 3 หาความร่วมมือจากเครือข่ายต่างๆ เช่น สำนักงานเขตปทุมวัน โรงเรียนกทม.ในเขตรับผิดชอบ 

          ระยะที่ 4 ระยะนำร่อง เพื่อศึกษาปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น โดยทีมแพทย์ตรวจเด็ฏนักเรียนเอง

          ระยะที่ 5 ประสานกับผู้บริหาร เพื่อสร้างความเข้าใจกับผู้อำนวยการเขต และผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำให้เกิดความมีส่วนร่วมในความเป็นเจ้าของร่วมในโครงการอย่างเต็มใจ เพื่อความยั่งยืน

          ระยะที่ 6 จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง โรคตาขี้เกียจและการตรวจความสามารถในกรมองเห็น โดยเชิญครู - อาจารย์มาอบรวมด้วย

          ระยะที่ 7 ติดตาม เพื่อความมั่นใจในความสามารถของโรงเรียนในการดำเนินการได้ด้วยตนเอง และทีมของโรงพยาบาลตำรวจเป็นพี่เลี้ยง

          ระยะที่ 8 ประเมินผล เพื่อดูความสำเร็จของโครงการในด้านการป้องกัน และ ความยั่งยืน โดยดูจากการเปลี่ยนแปลงความสามารถในการมองเห็น 6 - 12 เดือน หลังจากการตรวจพบในครั้งแรก

          ระยะที่ 9 ขยายผล เพื่อขยายโครงการสู่โรงเรียนกทม.นอกพื้นที่รับผิดชอบ โดยความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง

          ลักษณะงานบริการ

          กลุ่มงานตาเป็นหน่วยงานหนึ่งของโรงพยาบาลตำรวจ มีหน้าที่ให้บริการตรวจ รักษา ป้องกัน และฟื้นฟูสมรรถภาพแก่ผู้รับบริการเกี่ยวกับดวงตา เพื่อให้ผู้รับบริการได้รับความปลอดภัย ด้วยวิทยาการทันสมัยตามมาตรฐานวิชาชีพ และมีความปลอดภัย

          ก่อนที่จะมีโครงการรักษ์ตาน้องเพื่อป้องกันโรคจาขี้เกียจอย่าง ยั่งยืนนี้ สภาพการปฏิบัติงานในการดูแลผู้ป่วยที่เป็นโรคตาขี้เกียจจะเป็นการตั้งรับรอ ผู้ป่วยมารับการตรวจรักษาที่ห้องตรวจตา และปัญหาส่วนใหญ่ของโรคตาขี้เกียจ คือ ผู้ป่วยเป็นเด็ก และไม่รู้ว่าตนเองตามัว ซึ่งกว่าจะรู้ผู้ป่วยก็เติบโตเป็นผู้ใหญ่ แล้วมีอาการมองเห็นไม่ชัด จึงมาพบจักษุแพทย์ แต่ก็สายเกินไป ทำให้จักษุแพทย์ไม่สามารถช่วยผู้ป่วยให้กลับมาเห็นได้อย่างคนปกติ ทั้งๆ ที่โรคตาขี้เกียจเป็นโรคที่รักษาได้ ดังนั้น จึงมีความจำเป็นจะต้องพัฒนาวิธีการตรวจให้ทราบว่าเด็กเป็นโรคตาขี้เกียจก่อน ที่เด็กจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่


          การดำเนินการพัฒนาการบริการ

          โรคตาขี้เกียจเป็นโรคที่เกิดจากระบบประสาทที่เกี่ยวกับการมองเห็น ไม่ได้รับกี่พัฒนาในวัยเด็กให้สมบูรณ์ ทำให้ความสามารถในการมองเห็นลดลงอย่างถาวร เนื่องจากตอนแรกเกิด ระบบของการการมองเห็นของคนยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ คือ เห็นไม่ชัด จำเป็นต้องได้รับการกระตุ้นจนอายุประมาณ 6 ปี ระบบของการมองเห็นถึงจะสมบูรณ์สามารถมองเห็นได้อย่างคนปกติ แต่ถ้าเกิดมีการขัดขวางขบวนการพัฒนานี้ เช่น โรคตาเหล่ โรคสายตาผิดปกติ โรคหนังตาตก เป็นต้น แล้วไม่ได้รับการแก้ไขแต่เนิ่นๆ จะทำให้ความสามารถในการมองเห็นลดลงอย่างถาวร และระยะเวลาที่ให้การรักษาที่ดีที่สุดนั้น เด็กควรจะมีอายุไม่เกิน 7 ปี และโรคตาขี้เกียจนี้เป็นโรคที่เป็นตั้งแต่วัยเด็ก ซึ่งเด็กจะต้องมีชีวิตอีกยาวนานและยังเป็นเยาวชนของชาติ ถ้าความสามารถในการมองเห็นของเด็กลดลงอย่างถาวรก็เป็นความสูญเสียต่อ ทรัพยากรที่สำคัญที่สุดของประเทศอย่างน่าสเยดาย ทั้งๆ ที่โรคตาขี้เกียจสามารถป้องกันได้ ถ้าได้รับการตรวจแต่เนิ่นๆ

          เพื่อเป็นการป้องกันโรคตาขี้เกียจในเด็ก กลุ่มงานตาโรงพยาบาลตำรวจจึงเปลี่ยนแนวทางการให้บริการผู้ป่วยจากการตั้งรับ มาเป็นการรุกสู่ชุมชน และให้ชุมชนเป็นจ้าของโครงการและสามารถดำเนินการด้วยตนเองได้อย่างตลอดไป เพื่อความยั่งยืน โดยการสร้างความตระหนักรู้ให้แก่ชุมชนในความจำเป็นที่จะต้องช่วยกันป้องกัน โรคตาขี้เกียจในเด็ก พร้อมทั้งให้องค์ความรู้ให้แก่บุคลากรในชุมชน เช่น การให้ความรู้แก่คุณครูในโรงเรียน โดยการอบรมเชิงปฏิบัตคิการในเรื่องของดวงตา โรคตาขี้เกียจ รวมถึง วิธีการตรวจความสามารถในการมองเห็น พร้อมทั้ง มอบอุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจคัดกรองให้แก่โรงเรียน จนคุณครูสามารถตรวจคัดกรองได้ด้วยตนเอง โดยมีทีมจักษุแพทย์โรงพยาบาลตำรวจเป็นพี่เลี้ยง ก็จะทำใก้ชุมชนเข้มแข็งและสามารถดูแลนักเรียนำด้ด้วยตนเองตลอดไป

          ผลจากการพัฒนาการให้บริการจากการตั้งรับมาเป็นการรุกสู่ชุมชน พบว่า

          1. คุณครูที่ผ่านการอบรมเชิงปฏิบัติการทั้ง 8 โรงเรียนที่อยู่ในสังกัดของสำนักงานเขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร มีความรู้ทางด้านดวงตา โรคตาขี้เกียจ และมีความสามารถในการตรวจคัดกรองความสามารถในการมองเห็น สามารถตรวจคัดกรองเด็กนักเรียนได้ด้วยตนเอง 100%

          2. เด็กนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 ถึง ชั้นประถมปีที่ 1 ในโณงเรียนที่อยู่ในสังกัดของกรุงเทพมหานคร เขตปทุมวัน ทั้ง 8 โรงเรียน จำนวน 1,556 คน ได้รับการตรวจคัดกรองความสามารถในการมองเห็น เพื่อหานักเรียนที่มีโอกาสเป็นโรคตาขี้เกียจ โดยผู้ปกครองไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาโรงพยาบาล

          3. เด็กนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 ถึง ชั้นประถมปีที่ 1 ในโรงเรียนที่อยู่ในสังกัดของกรุงเทพมหานคร เขตปทุมวัน ทั้ง 8 โรงเรียน จำนวน 65 คน พบว่า มีความสามารถในการมองเห็นผิดปกติ และได้แจ้งให้ผู้ปกครองทราบ เพื่อรับการรักษาและติดตามผลของการมองเห็นต่อไป

          4. เด็กนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 ที่เข้าใหม่ในปีต่อๆ ไปในโรงเรียนที่อยู่ในสังกัดของกรุงเทพมหานคร เขตปทุมวัน ทั้ง 8 โรงเรียน จะได้รับการตรวจคัดกรองโดยคุณครูที่ผ่านการอบรมแล้ว

          5. ชุมชนใรความตระหนักในรคตาขี้เกียจในทุกระดับที่เกี่ยวข้อง

          6. โรงพยาบาลตำรวจมีความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชนที่เกี่ยวข้อง

          ข้อพิจารณาที่เห็นควรได้รับรางวัลดีเด่น
           การให้บริการในเชิงรุก โดยการออกไปให้ความรู้ ฝึกอบรม และมอบอุปกรณ์การตรวจโรคตาขี้เกียจให้กับ 8 โรงเรียนที่อยู่ในสังกัดของสำนักงานเขตปทุมวัน เพื่อคัดกรองให้เด็กเข้ารับการรักษาได้ทันท่วงที
           เป็นการเผยแพร่ความรู้โรคตาขี้เกียจให้เด็ก พ่อแม่ ครู และชุมชน ได้รับรู้เข้าใจและตระหนักถึงปัญหาในโรคตาขี้เกียจ
           สร้างการมีส่วนร่วมและความรับผิดชอบต่อสังคมของบุคลากรในชุมชน เพื่อพัฒนาสุขภาพของเด็ก ซึ่งเป็นอนาคตของประเทศ


          สำหรับ พิธีมอบรางวัลคุณภาพการให้บริการประชาชน และรางวัลมาตรฐานศูนย์บริการร่วม/เคาน์เตอร์บริการประชาชน ประจำปี 2553 นั้น ได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2553 เวลา 12.30 - 18.30 น. ณ หอประชุมกองทัพเรือ ถนนอรุณอัมรินทร์ โดยมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานมอบรางวัล


ลลิดา (สลธ.) / ข่าว & ภาพ
วสุนธรา (สลธ.) / รายงาน
กลุ่มสื่อสาร ฯ / จัดทำ

 

 


เผยแพร่ข้อมูลเมื่อ 17 ธันวาคม 2553 10:35:14 ปรับปรุงข้อมูลล่าสุดเมื่อ 17 ธันวาคม 2553 10:35:14
ข่าวเด่น ก.พ.ร.
    ลิงค์     |     สมาชิกเครือข่าย     |     RSS feed     |     คำถามที่พบบ่อย            

เกี่ยวกับ

กฏหมายและระเบียบ

หนังสือเวียน

ข้อมูลหน่วยงานภาครัฐ

ศูนย์ความรู้

ประชาสัมพันธ์

W3C   Facebook Facebook สำนักงาน ก.พ.ร.   PMQA Channel  ฐานข้อมูลหน่วยงานภาครัฐ  ipv6 ready  www.info.go.th  การปฏิเสธความรับผิดชอบ |  Webmail| Intranet สำหรับข้าราชการ | ผังเว็บไซต์ นโยบายเว็บไซต์ 

Slocan

สงวนลิขสิทธิ์โดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ

59/1 ถนนพิษณุโลก แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300 โทร. 02 356 9999 โทรสาร 02 281 7882 สายด่วน 1785 e-mail: administrator@opdc.go.th