นักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ รุ่นที่ 4
รายงานตัวเข้าร่วมโครงการฯ
เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2553 สำนักงาน ก.พ.ร. ได้จัดให้มีการรายงานตัวเข้าร่วมโครงการพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ (นปร.) รุ่นที่ 4 ณ ห้องประชุม ก.พ.ร. ชั้น 5 สำนักงาน ก.พ.ร. โดยมี ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ ก.พ.ร. เป็นประธาน ร่วมด้วย นางสุพรรณี ไพรัชเวทย์ ที่ปรึกษาการพัฒนาระบบราชการ ผศ.ปัณรส มาลากุล ณ อยุธยา ผู้อำนวยการหลักสูตรพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ ที่ปรึกษาสถาบันส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี นายอุดมศักดิ์ อัศวรางกูร ที่ปรึกษาสถาบันส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี และ นพ.รณภพ ปัทมะดิษ รักษาการหัวหน้าฝ่ายโครงการ นปร.
ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์เลขาธิการ ก.พ.ร. ได้ให้โอวาทกับ นปร. รุ่นที่ 4
โดยกล่าวแสดงความยินดีกับผู้ที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการฯ
และกล่าวถึงที่มาของโครงการฯ ว่า จากการปฏิรูประบบราชการเมื่อปลายปี พ.ศ.
2545 ได้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในหลาย ๆ เรื่อง หนึ่งในนั้นก็คือ
การเพิ่มบทบัญญัติเรื่องธรรมาภิบาล (Good Governance) ไว้ในมาตรา 3/1
แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545
ซึ่งกำหนดให้รัฐบาลต้องให้ความสำคัญในการปรับระบบราชการให้มีหลักธรรมาภิบาล
มากขึ้น นอกจากนี้
ในพระราชบัญญัติดังกล่าวยังกำหนดให้มีคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.)
และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (สำนักงาน ก.พ.ร.)
เพื่อเป็นเจ้าภาพในการขับเคลื่อนการพัฒนาให้ระบบราชการมีธรรมาภิบาลมากขึ้น
จากนั้น ในปี 2546
ก.พ.ร. และสำนักงาน ก.พ.ร.
ได้เริ่มดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของการพัฒนาระบบราชการ
โดยการนำระบบการบริหารจัดการสมัยใหม่เข้ามาใช้ในภาคราชการ อาทิ
การบริหารเชิงยุทธศาสตร์
การกำหนดให้มีตัวชี้วัดและการจัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการ
การประเมินผลและให้รางวัลตอบแทนตามผลงาน
การเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม การปรับปรุงการให้บริการประชาชน
เป็นต้น
ในการเปลี่ยนแปลงต่าง
ๆ นั้น ต้องเริ่มที่ตัวผู้นำ ดังนั้น
ในช่วงแรกของการเปลี่ยนแปลงจึงได้มีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ
ให้กับผู้บริหารระดับสูงของส่วนราชการและจังหวัดเพื่อเสริมสร้างความรู้ความ
เข้าใจเพื่อให้เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม
ในการบริหารการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ประเทศสามารถก้าวทันกระแสของโลกแห่งการ
เปลี่ยนแปลงในยุคโลกาภิวัตน์นั้น จะต้องมีทีมงานเข้ามาช่วยทำงานด้วย
ก.พ.ร.
จึงได้มีแนวคิดที่จะสร้างทีมงานที่จะมาช่วยผู้บริหารของส่วนราชการ/จังหวัด
ในการบริหารการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น
โดยจัดทำโครงการหนึ่งขึ้นโดยประยุกต์จากโรงเรียนนักบริหารแห่งชาติ (Ecole
nationale d'administration : ENA) ของประเทศฝรั่งเศส
ที่จัดตั้งขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
โดยมุ่งหวังที่จะดึงให้คนรุ่นใหม่ไฟแรงมาผ่านหลักสูตรพิเศษ
ก่อนจะจบออกไปทำงานในส่วนราชการต่าง ๆ
เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมการทำงานของภาคราชการของประเทศ
ฝรั่งเศสได้
นอก
จากนี้ ก.พ.ร. ยังได้ศึกษาโครงการของประเทศต่าง ๆ ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับประเทศไทย
รวมทั้งศึกษาความเป็นมาในการขับเคลื่อนการปฏิรูประบบราชการ
ตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และ
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6
ที่ได้มีการจัดระบบการศึกษาสำหรับฝึกหัดข้าราชการพลเรือน
และเตรียมคนเข้าสู่ระบบราชการ
นี่จึงเป็นที่มาของการจัดทำ โครงการพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ซึ่ง ก.พ.ร. ได้เสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา
จากนั้นจึงได้เริ่มดำเนินโครงการพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่
รุ่นที่ 1 เมื่อปี 2548 และดำเนินการต่อเนื่องมาเรื่อย ๆ
โดยกำหนดจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ รุ่นละ 60 คน
อย่างไรก็ตาม โครงการพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ รุ่นที่ 4ได้ถูกตัดลดงบประมาณลงเนื่องจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ
ส่งผลให้ต้องลดจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการลง เหลือเพียง 35 คน
และจะใช้เวลาในการศึกษาเรียนรู้ตามโครงการ 22 เดือน
โดยผู้เข้าร่วมโครงการฯ จะได้เรียนรู้แบบผสมผสานทั้งด้านวิชาการ
การฝึกปฏิบัติราชการกับผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน
ทั้งในและต่างประเทศ และการเรียนรู้ด้วยตนเอง
รวมทั้งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ระหว่างกัน
ใน
ช่วงท้าย เลขาธิการ ก.พ.ร. ได้กล่าวกับ นปร. รุ่นที่ 4 ว่า
นักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ได้รับการคาดหวังจากสังคมไว้มาก
จึงขอให้ทุกคนมีความตั้งใจแน่วแน่ มุ่งมัน และภูมิใจในสิ่งที่จะทำ
เพื่อเปลี่ยนสังคมและบ้านเมืองให้ดีขึ้น
มีจิตสาธารณะที่จะเข้ามาเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทำงานเพื่อประชาชน ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาระบบราชการ
และขอให้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตั้งใจและปรารถนาที่จะทำ
จากนั้น ผศ.ปัณรส มาลากุล ณ อยุธยา ผู้อำนวยการหลักสูตรนักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ ได้ชี้แจงรายละเอียดของหลักสูตรฯ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ ดังนี้
1.
เพื่อพัฒนาผู้เข้าร่วมโครงการฯ ซึ่งถือเป็นนักบริหารรุ่นใหม่
ให้เป็นข้าราชการที่ดี และมีคุณสมบัติเป็นนักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่
ที่มีสมรรถนะครบครันในการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง (Change Leader)
โดยสามารถเป็นได้ทั้งนักคิดที่มีวิสัยทัศน์ (Visionary Thinker)
นักพัฒนาและวางแผน (Developer & Planner) และนักปฏิบัติ (Operator)
อย่างสมดุล
2.
เพื่อพัฒนาผู้เข้าร่วมโครงการฯ
ให้มีขีดสมรรถนะและคุณสมบัติในการปฏิบัติงานในฐานะผู้ช่วยผู้บริหาร
และผู้บริหารในภาครัฐ
ในการริเริ่มและขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในการบริหารภาครัฐต่อไป
3.
เพื่อให้มีการรวบรวมและถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับการบริหาร
ภาครัฐในระหว่างผู้บริหาร วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ
และนักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่
เพื่อให้มีการบริหารองค์ความรู้และแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ทั้งความรู้ที่เก็บไว้ในตัว (Tacit Knowledge) และความรู้ที่เปิดเผย
(Explicit Knowledge) เพื่อเสริมสร้างขีดสมรรถนะในการบริหารภาครัฐของไทย
สำหรับระยะเวลาและกิจกรรมการ
เข้าร่วมโครงการพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ จะใช้เวลาทั้งสิ้น
22 เดือน โดยแบ่งออกเป็นการเรียนรู้ภาควิชาการ 9 เดือน
และการเรียนรู้การบริหารจัดการจากการปฏิบัติราชการในหน่วยงานภาครัฐและเอกชน
13 เดือน โดยมีรายละเอียด ดังนี้
การเรียนรู้ภาควิชาการ ระยะเวลา 9 เดือน
1. หมวดวิชาการบริหารราชการแผ่นดินและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
2. หมวดวิชาบริบทและความท้าทายต่อการบริหารราชการแผ่นดิน
3. หมวดวิชานโยบายสาธารณะ กระบวนการ การวิเคราะห์และพัฒนานโยบายและยุทธศาสตร์
4. หมวดวิชาการบริหารจัดการภาครัฐและบริหารการเปลี่ยนแปลง
5. หมวดวิชาการพัฒนาภาวะผู้นำ ทักษะ และความเป็นข้าราชการที่ดี
การเรียนรู้การบริหารจัดการจากการปฏิบัติราชการในหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ระยะเวลา 13 เดือน
1. การเรียนรู้จากการปฏิบัติราชการในส่วนภูมิภาค 3 เดือน
2. การเรียนรู้ระบบบริหารงานของหน่วยงานกลางในการบริหารนโยบาย 1 เดือน
3. การเรียนรู้จากการปฏิบัติราชการในราชการบริหารส่วนกลาง 3 เดือน
4. การเรียนรู้จากการปฏิบัติราชการในการฝึกงานในภาคธุรกิจเอกชน 3 เดือน
5. การเรียนรู้จากการปฏิบัติราชการในต่างประเทศ 3 เดือน
โดย
การเรียนรู้นั้นจะสลับสับเปลี่ยนกันไประหว่างการเรียนรู้ภาควิชาการและการ
เรียนรู้จากการปฏิบัติราชการ
และมีการสอบประเมินผลในช่วงระหว่างการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเป็นระยะ ๆ
นอกจากนี้ยังมีการเรียนรู้ด้วยตนเองและการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์
ระหว่างผู้เข้าร่วมโครงการด้วยกัน
และหลังจากสิ้นสุดการเรียนรู้ทั้งหมดตลอด 22 เดือนแล้ว
จะมีการสอบประเมินเป็นผู้ผ่านโครงการฯ
ก่อนจะเข้ารับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในส่วนราชการที่มีความสำคัญเชิง
ยุทธศาสตร์ เพื่อสร้างสรรค์งานที่มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลต่อไป
จากนั้นเป็นการชี้แจงระเบียบเบื้องต้นที่ควรรู้ในการเป็นข้าราชการ โดย นางดารุณีย์ เผ่าสุวรรณ ผู้
อำนวยการกลุ่มบริหารทรัพยากรบุคคล สำนักงานเลขาธิการ
ก่อนจะให้นักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ (นปร.) รุ่นที่ 4
ได้กรอกเอกสารการบรรจุเข้ารับราชการเป็น นักพัฒนาระบบราชการ
สังกัดสำนักงาน ก.พ.ร. ซึ่ง นปร. รุ่นที่ 4 จะเริ่มการเรียนรู้ตามโครงการฯ
ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2553 เป็นต้นไป
อนึ่ง สำนักงาน ก.พ.ร. ได้ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ รุ่นที่ 4ไปเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2553 โดยได้พิจารณาผู้ผ่านการคัดเลือกจำนวน
35 คน เพื่อเข้าร่วมโครงการฯ แบ่งออกเป็น 1)
กลุ่มบุคคลทั่วไปที่เพิ่งสำเร็จการศึกษา จำนวน 16 คน 2)
กลุ่มบุคคลจากภาคเอกชน หน่วยงาน หรือองค์การระหว่างประเทศ จำนวน 18 คน
และ 3) กลุ่มข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐประเภทต่าง ๆ จำนวน 1 คน
วสุนธรา (สลธ.) / รายงาน
เผยแพร่ข้อมูลเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2553 11:01:15 ปรับปรุงข้อมูลล่าสุดเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2553 11:04:54