พิธีมอบรางวัลคุณภาพการให้บริการประชาชน และ
รางวัลมาตรฐานศูนย์บริการร่วม/เคาน์เตอร์บริการประชาชน
ประจำปี 2552
ผ่านไปแล้วสำหรับพิธีมอบ รางวัลคุณภาพการให้บริการประชาชน และ รางวัลมาตรฐานศูนย์บริการร่วม/เคาน์เตอร์บริการประชาชน ประจำปี 2552รางวัลเพื่อประกาศเกียรติคุณและแสดงเครื่องหมายยืนยันถึงความเป็นเลิศในการ
ให้บริการด้วยใจของส่วนราชการต่างๆ
ที่ได้มุ่งมั่นทุ่มเทในการปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพงานบริการให้ดียิ่งขึ้น
อันนำไปสู่การบริหารราชการเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน โดยมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานและมอบรางวัล พร้อมด้วย ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ ก.พ.ร. เป็นผู้กล่าวรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 15 ธันวาคม 2552 ณ หอประชุมกองทัพเรือ
โดยในปีนี้ มี
ส่วนราชการและหน่วยงานภาคเอกชนได้รับการพิจารณาคัดเลือกให้ได้รับ
รางวัลคุณภาพการให้บริการประชาชนและรางวัลมาตรฐานศูนย์บริการร่วม
/เคาน์เตอร์บริการประชาชน ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ประจำปี 2552
รวมทั้งสิ้น 88 รางวัล (คลิกที่นี่ เพื่อดูรายชื่อหน่วยงานที่ได้รับรางวัล)
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายก
รัฐมนตรี ได้กล่าวแสดงความยินดีแก่หน่วยงานที่ได้รับ
รางวัลคุณภาพการให้บริการประชาชนและ
รางวัลมาตรฐานศูนย์บริการร่วม/เคาน์เตอร์บริการประชาชน ทั้ง 86 รางวัล
รวมทั้งหน่วยงานภาคเอกชนที่สนับสนุนภาครัฐในการพัฒนาคุณภาพการให้บริการ
ประชาชน อีก 2 รางวัล พร้อมกล่าวว่า ในการทำงานของภาครัฐนั้น
ได้ย้ำเสมอว่าระบบราชการเป็นกลไกที่สำคัญที่สุดอันจะนำมาซึ่งความสำเร็จของ
การทำงานของภาครัฐ และจุดสำคัญที่เป็นภารกิจหลักของกลไกของราชการก็คือ หนึ่ง การขับเคลื่อนนโยบายที่สำคัญๆของรัฐบาลเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน สอง งานที่เป็นการให้บริการโดยตรงกับประชาชนซึ่งถือเป็นหน้าตาของระบบราชการ
เพราะประชาชนจะสัมผัสกับระบบราชการมากที่สุด
เมื่อมีความจำเป็นจะต้องเข้าไปติดต่อเพื่อขอรับบริการในรูปแบบใดรูปแบบหนึ้ง
ที่ในอดีตนั้นระบบราชการมักจะถูกมองว่ามีความล่าช้า ไม่สะดวก
รวมทั้งไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีเท่าที่ควร
แต่ในระยะหลังรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับเรื่องการให้บริการของประชาชนมากยิ่ง
ขึ้น จนถึงขณะนี้ทุกส่วนราชการทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค
และส่วนท้องถิ่นได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงการให้บริการต่างๆที่สามารถ
อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้รับบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และประชาชนมีความประทับใจในบริการมากยิ่งขึ้น
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปอีกว่าธนาคารโลกได้จัดอันดับความยากง่ายของการเข้าไปประกอบธุรกิจในประเทศต่างๆ
ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่าประเทศไทยได้ก้าวกระโดดขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 12
จาก 183 ประเทศ และเป็นอันดับที่ 2 ในอาเซียน และอันดับที่ 3
ในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นการเสริมสร้างขีดความสามารถ
และศักยภาพในการแข่งขันของประเทศโดยรวมด้วย ทั้งนี้
รัฐบาลได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการสานต่องานทางด้านนี้
และพยายามที่จะคิดค้นนวัตกรรม
และสนับสนุนปัจจัยต่างๆที่จะทำให้การบริการประชาชน มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการสนับสนุนทางด้านเทคโนโลยี
การสนับสนุนในเรื่องของการที่จะจูงใจให้มีการลดขั้นตอน คลายกฎระเบียบต่างๆ
และในเรื่องของการบูรณาการการบริการซึ่งเชื่อมโยงกันหลายส่วนราชการ
โดยล่าสุดรัฐบาลได้จัดตั้งศูนย์ประสานการบริการด้านการลงทุน ที่เรียกว่า
One Start One Stop Investment Center หรือ OSOS
เพื่อเชื่อมโยงการให้บริการแก่นักลงทุน ณ บริเวณชั้น 18
อาคารจัตุรัสจามจุรี ถนนพญาไท กรุงเทพฯ ซึ่งมีการเปิดทำการเรียบร้อยแล้ว
และกำลังจะบูรณาการงานทางด้านวีซ่า
และใบอนุญาตการทำงานเพิ่มเติมในช่วงต้นปีด้วย
นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่า การ
ปรับปรุงการให้บริการนั้น
ที่สุดแล้วผู้ที่จะรู้ดีที่สุดว่าจำเป็นจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนใด
ก็คือผู้ให้และผู้รับบริการ ดังนั้น
ผู้ที่ทำหน้าที่ในการให้บริการประชาชนจะต้องสังเกตว่ามีสิ่งใดที่ยังสามารถ
ปรับปรุงได้อีกในเชิงขั้นตอน และถ้าติดขัดในเรื่องของกฎระเบียบ
หรือการได้รับการสนับสนุนจากส่วนกลาง ขอให้แจ้งมายังรัฐบาล
ซึ่งเราพร้อมที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
ที่
สำคัญคือการรับฟังเสียงสะท้อนจากผู้รับบริการ
เพราะหากเรายึดประโยชน์และความสะดวกของผู้รับบริการแล้ว
จะมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เราสามารถปรับปรุงได้
และการสร้างความประทับใจก็มาจากการทำงานด้วยจิตใจที่มีความตั้งใจในการ
บริการประชาชนอย่างแท้จริง นายกรัฐมนตีกล่าวในที่สุด
&sp;
นอกจากนี้ ภายในงานยังได้จัดการเสวนาในหัวข้อ บริการอย่างไร ถึงได้ใจประชาชน โดยเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับภาคเอกชน คือ นายอภัยชนม์ วัชรสินธุ์ รองกรรมการผู้จัดการด้านประสานกิจการสัมพันธ์ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด
และหน่วยงานที่ได้รับรางวัลดีเด่น รางวัลคุณภาพการให้บริการประชาชน และ รางวัลมาตรฐานศูนย์บริการร่วม/เคาน์เตอร์บริการประชาชน อันประกอบด้วย
|
นายศุภชัย จงศิริ รองปลัดกระทรวงการคลัง |
|
นายชัยรัตน์ สงวนชื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก |
|
นายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลวุฒิ อธิบดีกรมที่ดิน |
|
และนายนิมิต จิวะสันติการ นายกเทศมนตรีนครลำปาง |
ซึ่งผู้บริหารแต่ละท่านได้มาถ่ายทอด
ประสบการณ์ แนวคิด วิธีการและเทคนิคต่างๆ
อันนำมาซึ่งความสำเร็จของหน่วยงาน
เพื่อให้หน่วยงานอื่นได้นำไปเป็นแบบอย่างและประยุกต์ใช้
ในการเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติราชการในหน่วยงานของตน
ตลอดจนสร้างสรรค์แนวคิดใหม่ๆ
อันจะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพการให้บริการประชาชนในที่สุด
ซึ่งดำเนินการเสวนาโดย นายอนุชิต ฮุนสวัสดิกุล ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการพัฒนาระบบราชการ สำนักงาน ก.พ.ร.
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการให้บริการของ 4 งานบริการภาครัฐ จาก
2 ส่วนราชการชั้นนำ คือ กรมการขนส่งทางบก และ กรมการปกครอง
ที่นำงานบริการมาเปิดให้บริการกับผู้ที่สนใจ ได้แก่
การเปลี่ยนใบอนุญาตขับรถแบบเดิมเป็นใบอนุญาตขับรถรูปแบบใหม่ (Smart Card)
การชำระภาษีประจำปีตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522
การให้บริการด้านการทะเบียนด้วยเครื่องบริการทะเบียนอัตโนมัติ (Multi
Purpose Machine : MPM) และการจัดทำบัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์
(Smart Card)
กลุ่มสื่อสารฯ สลธ. / ข่าว & ภาพ
วสุนธรา (สลธ.) / จัดทำ
เผยแพร่ข้อมูลเมื่อ 7 มกราคม 2553 09:17:49 ปรับปรุงข้อมูลล่าสุดเมื่อ 7 มกราคม 2553 09:23:43