รายการเดินหน้า... พัฒนาราชการไทย เรื่อง
การลดขั้นตอนและระยะเวลาการปฏิบัติราชการ
สำหรับงานบริการที่มีความเชื่อมโยงหลายส่วนราชการ
รายการเดินหน้า...พัฒนาราชการไทย ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) ซึ่งออกอากาศเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2552 ได้นำเสนอในหัวข้อ การลดขั้นตอนและระยะเวลาการปฏิบัติราชการสำหรับงานบริการที่มีความเชื่อมโยงหลายส่วนราชการ โดยสืบเนื่องจากที่ได้มีการลงนามใน บันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการกำหนดวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับงานบริการที่มีความเชื่อมโยงหลายส่วนราชการ ระหว่างกรมที่ดินกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2552 ที่ผ่านมา ซึ่งนับว่าเป็นความพยายามของส่วนราชการที่จะพัฒนาปรับปรุงการให้บริการให้มีความสะดวกรวดเร็วขึ้น ทางรายการจึงได้เชิญผู้บริหารของ 2 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ กรมที่ดิน และ กรมป่าไม้ มาร่วมการสนทนาในเรื่องดังกล่าว โดยได้รับเกียรติจาก นายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลวุฒิ อธิบดีกรมที่ดิน และ นายสมชัย เพียรสถาพร อธิบดีกรมป่าไม้ มาเป็นแขกรับเชิญ
นายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลวุฒิ อธิบดีกรมที่ดิน ได้กล่าวถึงกระบวนงานของกรมที่ดินที่มีการเชื่อมโยงงานกับหลายส่วนราชการ และได้ลงนามใน บันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการกำหนดวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับงานบริการที่มีความเชื่อมโยงหลายส่วนราชการ ซึ่งมีอยู่ 3 กระบวนงาน ได้แก่ (1) การขอถอนสภาพที่ดินสาธารณะเพื่อให้ส่วนราชการนำไปใช้ (2) การขออนุญาตใช้ที่ดินรกร้างว่างเปล่าหรือที่ดินสาธารณะเพื่อให้เอกชนหรือองค์กรของรัฐนำไปใช้ และ (3) การขอสัมปทาน โดยที่แต่เดิมระยะเวลาดำเนินการตามปกติของทั้ง 3 งานนั้น อยู่ที่ประมาณ 2 - 3 ปี แต่ถ้ามีปัญหาติดขัดก็จะใช้เวลานานขึ้น ซึ่งสาเหตุใหญ่มาจากการสอบถามข้อมูลกันไปมาระหว่างหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบความถูกต้องชัดเจน
สำหรับการดำเนินการลดขั้นตอนและระยะเวลาการทำงานของกรมที่ดินนั้น มีที่มาจากนโยบายของรัฐบาลและมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2546 ที่ขอให้ทุกส่วนราชการปรับปรุงเรื่องการให้บริการ ซึ่งกรมที่ดินได้เริ่มดำเนินการเรื่องนี้ตั้งแต่ปี 2547 จนสามารถลดกระบวนงานลงได้ 33 กระบวนงานจากเดิมที่มีกว่า 200 กระบวนงาน และลดระยะเวลาการทำงานให้เหลือ 30 - 50% ของเวลางานเดิม ส่วนกรณีที่กรมที่ดินได้เชิญหน่วยงานราชการมาร่วมลงนามข้อตกลงร่วมกันในคราวนี้ ก็มีที่มาจากมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว รวมถึงพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 ซึ่งการจัดทำข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นการสัญญาผูกมัดให้หน่วยงานจะต้องปฏิบัติงานให้เป็นไปตามกำหนดเวลาที่ประกาศให้ประชาชนทราบ
สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไปนั้น อธิบดีกรมที่ดิน กล่าวว่า.. เมื่อได้มีการทำข้อตกลงร่วมกันแล้ว ก็จะต้องทำความเข้าใจกับส่วนราชการต่างๆ ในการปรับลดขั้นตอนการทำงาน และกรมที่ดินเองก็จะทำการปรับปรุงการทำงาน โดยเฉพาะงานให้บริการประชาชน ณ สำนักงานที่ดิน ซึ่งต้องปรับปรุงทั้งด้านภาพลักษณ์ วิธีการทำงาน โดยจะพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และพัฒนาจิตสำนึกพร้อมกับปรับทัศนคติของผู้ปฏิบัติงาน นอกจากนั้นยังมีแนวคิดที่จะลดขั้นตอนในงานอื่นในปีถัดไปอีกด้วย เช่น การขอใช้ที่ดินสาธารณประโยชน์ การขออนุญาตใช้ที่ดินของวัด การขอนำที่ดินรกร้างว่างเปล่ามาขึ้นทะเบียนเป็นที่ดินสาธารณะ เป็นต้น ท้ายนี้ อธิบดีกรมที่ดิน ได้ขอขอบคุณหน่วยงานที่ได้เชื่อมโยงการทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์ของประชาชน..
แขกรับเชิญอีกท่านคือ นายสมชัย เพียรสถาพร อธิบดีกรมป่าไม้ ได้อธิบายถึงการปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานเพื่อลดขั้นตอนและระยะเวลาการปฏิบัติงานว่า.. ลำดับแรกต้องปรับทัศนคติของเจ้าหน้าที่ในเรื่องการให้บริการประชาชน ให้เข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงที่ข้าราชการต้องเป็นนักฟังที่ดี เป็นผู้ให้บริการที่ดี เมื่อทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่แล้ว จึงกำหนดกรอบเวลาของแต่ละกระบวนงาน ซึ่งกระบวนงานที่กรมป่าไม้กำหนดให้ปรับลดขั้นตอน ได้แก่ การขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าไม้ การขออนุญาตการตั้งโรงงานคู่ค้าในอุตสาหกรรมป่าไม้ และการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ไม้
ในระหว่างนี้ทางกรมป่าไม้ได้ทำประกาศขั้นตอนการทำงานให้ประชาชนได้รับทราบ และผู้บริหารของกรมได้มีการเปิดรับฟังข้อคิดเห็นและข้อร้องเรียนของประชาชนด้วย และท้ายนี้ อธิบดีกรมป่าไม้ ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงโครงการเด่นของกรมที่กำลังจะดำเนินการ ได้แก่ โครงการส่งเสริมให้ประชาชนปลูกต้นไม้ในที่ดินของตัวเองตามโครงการไทยเข้มแข็ง โครงการแจกกล้าไม้เพาะชำให้ฟรีทั่วประเทศ และ งานป่าชุมชนโดยให้ประชาชนดูแลป่าเองแล้วกรมป่าไม้ให้เงินอุดหนุน...
จากความคิดเห็นของแขกรับเชิญทั้ง 2 ท่านทำให้เห็นภาพของความพยายามที่จะให้บริการที่รวดเร็ว ตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง นอกจากนี้ รายการยังได้นำภาพบรรรยากาศการทำงานของสำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานครมาให้ได้รับชม และได้สอบถามความเห็นของผู้มาใช้บริการด้วย ซึ่งสำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานครนั้น ได้พัฒนาปรับปรุงในด้านต่างๆ เช่น การนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้ มีการปรับปรุงสถานที่ และจัดระบบกลุ่มงานสำหรับประเภทผู้ใช้บริการให้เป็นหมวดหมู่ รวมถึงการรับชำระค่าธรรมเนียมผ่านธนาคาร และการให้บริการผ่านระบบอินเทอร์เน็ต การเชื่อมโยงกับกรมการปกครองในการตรวจสอบทะเบียนราษฎร์ สำหรับความเห็นของผู้มาใช้บริการนั้น พบว่าผู้ใช้บริการเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่ได้มีการพัฒนาขึ้น และมีความพึงพอใจในการบริการที่มีขั้นตอนการทำงานที่กระชับเร็วขึ้น
สุคนธ์ทิพย์ (สลธ.) / ข่าว & ภาพ
วสุนธรา & ภัทรพร ข. (สลธ.) / จัดทำ
เผยแพร่ข้อมูลเมื่อ 12 พฤศจิกายน 2552 12:26:20 ปรับปรุงข้อมูลล่าสุดเมื่อ 12 พฤศจิกายน 2552 12:26:20