ธนาคารโลก จับมือ สำนักงาน ก.พ.ร.
เซ็น MOU หนุนระบบราชการไทย เข้มแข็ง
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม 2552 เวลา 13.30-14.30 น.สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) และธนาคารโลก (World Bank) ร่วมจัดพิธีลงนามความร่วมมือ ด้านการศึกษาวิจัย พัฒนา และแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารการพัฒนาระบบราชการในระดับสากล ตลอดจนการเผยแพร่องค์ความรู้ต่างๆ ด้านการบริหารภาครัฐในบริบทของการเปลี่ยนแปลงของโลก เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการปฏิบัติงานของหน่วยงานของรัฐ ที่สนองต่อความต้องการประชาชน และการพัฒนาประเทศ โดยมี ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ ก.พ.ร. และ Ms. Annette Dixon ผู้อำนวยการธนาคารโลกประจำประเทศไทย เป็นผู้ลงนาม ณ ห้องประชุม 501-502 ชั้น 5 อาคารสำนักงาน ก.พ.ร.
ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ ก.พ.ร. กล่าวว่า ระบบราชการไทยในปัจจุบัน นับว่ามีการพัฒนาก้าวหน้าไปอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตาม ภาครัฐจำเป็นต้องปรับตัวให้ทันต่อกระแสการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว และรุนแรง เพื่อให้สามารถช่วงชิงทรัพยากร และสร้างศักยภาพการแข่งขันในเวทีโลกได้ โดยที่ระบบราชการเป็นกลไกสำคัญที่จะผลักดันนโยบายของรัฐไปสู่ความสำเร็จและสร้างความแข็งแกร่งให้ประเทศ ดังนั้น ภาคราชการจึงต้องปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้ง ยกระดับการทำงานให้เทียบเท่าสากล
 |
การลงนามดังกล่าว เป็นผลสืบเนื่องมากจาก ธนาคารโลก หรือ The World Bank ซึ่งเป็นองค์กรชั้นนำระหว่างประเทศ มีบทบาทสำคัญในการเป็นที่ปรึกษาและแหล่งความรู้ ในด้านการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ความยากจน สิ่งแวดล้อม การศึกษา และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบราชการ และเล็งเห็นการดำเนินงานด้านการพัฒนาระบบราชการของ สำนักงาน ก.พ.ร. ในฐานะเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนการพัฒนาระบบราชการไทยให้มุ่งสู่ความเป็นเลิศอย่างต่อเนื่อง จึงได้จัดให้มีพิธีลงนามความร่วมมือดังกล่าวขึ้น เพื่อเป็นแนวทางในการส่งเสริมความร่วมมือทางด้านการศึกษาวิจัย พัฒนา และแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แนวโน้มการพัฒนาระบบราชการในระดับสากล รวมทั้งเผยแพร่องค์ความรู้ต่าง ๆ ด้านการบริหารงานภาครัฐ ตลอดจน การผลักดันให้ภูมิภาคอาเซียน มีความเข้มแข็งในเวทีระหว่างประเทศ เกิดเสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองต่อเนื่องและยั่งยืน ความร่วมมือครั้งนี้ สำนักงาน ก.พ.ร. คาดหวังว่า จะสามารถสร้างนวัตกรรมทางการบริหาร เพื่อการพัฒนาสังคม การศึกษา แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ สร้างการมีส่วนร่วม เสถียรภาพ ความสามารถในการแข่งขัน และความเชื่อถือ ให้เกิดขึ้นทั้งในประเทศ และภูมิภาคเอเชีย ภายใต้กรอบบทบาทใหม่ของภาครัฐที่สอดรับกับสภาพในอนาคต เลขาธิการ ก.พ.ร. กล่าว
Ms. Annette Dixon ผู้อำนวยการธนาคารโลกประจำประเทศไทย กล่าวว่า ธนาคารโลกมีความสัมพันธ์อันดีกับประเทศไทยในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจมากว่า 60 ปี ซึ่งครอบคลุมในประเด็นที่ท้าทายหลายประเด็น ทั้งด้านการพัฒนามนุษย์และสังคม โครงสร้างพื้นฐาน และการพัฒนาระบบราชการ สำหรับการปฏิรูประบบราชการนั้น ธนาคารโลกได้ดำเนินงานร่วมกับประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างขีดสมรรถนะการบริหารจัดการด้านเศรษฐกิจ ยุทธศาสตร์การปฏิรูประบบบริหารงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงาน และดำเนินการปฏิรูประบบราชการในรูปแบบอื่นๆ นอกจากนี้ พระราชกฤษฎีกว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ.2546 มีความสอดคล้องกับกรอบการทำงานของธนาคารโลกในการผลักดันและสนับสนุนการพัฒนาระบบราชการ ซึ่งรับผิดชอบโดยกลุ่มส่งเสริมความร่วมมือด้านธรรมาภิบาลและการปฏิรูประบบราชการ ( Country Development Partnership on Good Governance and Public Sector Reforms)
 |
 |
ขณะนี้ ธนาคารโลกได้ดำเนินการพัฒนาการจัดทำยุทธศาสตร์ความเป็นหุ้นส่วนระหว่างประเทศ (Country Partnership Strategy) เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในอีกสองปีข้างหน้า ซึ่งวัตถุประสงค์หลักของของโครงการ เพื่อหาทางออกให้กับประเทศไทยในการรับมือกับวิกฤตการเงินโลกในปัจจุบัน และเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบราชการอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับการให้บริการและตอบสนองความต้องการของประชาชน ด้วยเหตุนี้ สำนักงาน ก.พ.ร. จึงเป็นพันธมิตรที่สำคัญในการสร้างฐานความรู้ และการลงนามตามบันทึกความเข้าใจในครั้งนี่ มีความสำคัญอย่างยิ่งในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ความร่วมมือของสองหน่วยงานให้มีความเป็นระบบและเกิดการประสานเชิงกลยุทธ์มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ Annette ยังกล่าวอีกว่า ธนาคารโลกได้ตระหนักถึงความสำคัญของสำนักงาน ก.พ.ร. ในการดำเนินการพัฒนาระบบราชการ เพื่อส่งมอบบริการที่ดีมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ตั้งแต่ ปี 2545 และประสบความสำเร็จในการผลักดันระบบราชการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความสำเร็จด้านการดำเนินการเกี่ยวกับตัวชี้วัด และส่งผลให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ริเริ่มนวัตกรรมใหม่ๆมาประยุกต์ใช้ในการปฏิรูประบบราชการ
ธนาคารโลกและประเทศสมาชิกต่างๆ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการสร้างความร่วมมือดังกล่าวจะเป็นคลังความรู้ในการศึกษาประสบการณ์ด้านการพัฒนาระบบราชการของประเทศไทย ซึ่งธนาคารโลกมีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินงานร่วมกับแประเทศไทยในประเด็นสำคัญต่างๆ ภายใต้กรอบความร่วมมือ เช่น การศึกษาเกี่ยวกับการทบทวนภารกิจภาครัฐ ซึ่งสำนักงาน ก.พ.ร. เป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบทั้งในส่วนแนวคิดและขอบเขตการดำเนินงาน ดังนั้นในเรื่องนี้จะเป็นการต่อยอดองค์ความรู้ การแสวงหาทางเลือกที่เหมาะสม ที่จะเกิดประโยชน์สูงสุดสำหรับประเทศไทย รวมถึงนานาประเทศ โดยในเบื้องต้น สำนักงาน ก.พ.ร. จะประสานความร่วมมือ ผ่านทางระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ (VDO Conference) กับทีมผู้เชียวชาญของธนาคารโลกในประเด็นการปฏิรูประบบราชการ Annette กล่าวในที่สุด
เผยแพร่ข้อมูลเมื่อ 21 สิงหาคม 2552 14:38:35 ปรับปรุงข้อมูลล่าสุดเมื่อ 21 สิงหาคม 2552 14:38:35