เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2552 เวลา 14.00 น. ณ ตึกสันติไมตรีหลังใน ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.น.จ.) ได้เป็นประธาน การประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.น.จ.) ครั้งที่ 2/2552 เพื่อพิจารณาเรื่อง การพิจารณากลั่นกรองและให้ความเห็นชอบแผนพัฒนาจังหวัด แผนพัฒนากลุ่มจังหวัด แผนปฎิบัติราชการประจำปีของจังหวัด แผนปฎิบัติราชการ ประจำปีของกลุ่มจังหวัด และคำของบประมาณของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด โดยมีมติ ดังนี้
แผนปฎิบัติราชการประจำปีของจังหวัดแผนปฎิบัติ
ราชการ ประจำปีของกลุ่มจังหวัด ซึ่งจะถือเป็นคำของบประมาณของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดนั้น ในการพิจารณาต้องเป็นไปตามทิศทางในการพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดที่ชัดเจนและคำนึงถึงความสอดคล้องและเชื่อมโยงกับนโยบายของรัฐบาล แนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจของชาติ และความต้องการของประชาชนในพื้นที่ โดยกำหนดให้อยู่ภายใต้กรอบวงเงินงบประมาณ 18,000 ล้านบาท ซึ่ง ก.น.จ.จะพิจารณาข้อเสนองบประมาณรายจังหวัดและงบประมาณรายกลุ่มจังหวัด อีกครั้งหนึ่งภายใน 2 สัปดาห์ นับจากวันนี้
ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ ก.พ.ร. กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.น.จ.) ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติให้อนุกรรมการด้านแผนและด้านงบประมาณ 5 คณะ พิจารณากลั่นกรอง นำคำของบประมาณของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดไปทบทวนใหม่ เนื่องจากงบประมาณที่เสนอมาเป็นวงเงินกว่า 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งนายกฯ ต้องการให้ปรับลดงบเหลือ 1.8 หมื่นล้านบาท และให้นำมาเสนอที่ประชุม ก.น.จ. ภายใน 2 สัปดาห์
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ให้หลักการการจัดสรรงบประมาณของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ว่าจะต้องใกล้เคียงกับปีที่แล้ว หรือประมาณ 1.8 หมื่นล้านบาท และต้องเป็นโครงการที่สอดคล้องกับนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ในเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการจ้างงาน
สำหรับคณะอนุกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (อ.ก.น.จ.) ด้านแผนและด้านงบประมาณ 5 คณะดังกล่าว ประกอบด้วย
คณะที่ 1 มีรองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) เป็นประธาน
คณะที่ 2 มีรองนายกรัฐมนตรี (นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ) เป็นประธาน
คณะที่ 3 มีรองนายกรัฐมนตรี (พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์) เป็นประธาน
คณะที่ 4 มีรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย)เป็นประธาน
คณะที่ 5 มีรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายวีระชัย วีระเมธีกุล) เป็นประธาน
&nbs ซึ่งคณะอนุกรรมการแต่ละคณะจะเร่งรัดจัดประชุมให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว ก่อนเสนอ ก.น.จ. ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า
ดร.ทศพร กล่าวต่อไปว่า นายกรัฐมนตรียังสั่งการให้สำนักงาน ก.พ.ร. ชี้แจงและทำความเข้าใจเกี่ยวกับ พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ พ.ศ. 2551 ให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง อาทิ จังหวัด ท้องถิ่น และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้รับทราบ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันในขั้นตอนการปฏิบัติของการของบประมาณของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด
ทั้งนี้ แนวทางการพิจารณาเห็นชอบแผนพัฒนาจังหวัดและแผนพัฒนากลุ่มจังหวัด แผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัดและแผนปฏิบัติราชการประจำปีของกลุ่มจังหวัด ประกอบด้วย
1. คุณภาพของแผนพัฒนาจังหวัดและแผนพัฒนากลุ่มจังหวัด สามารถแสดงวัตถุประสงค์และทิศทางในการพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดที่ชัดเจน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ และผ่านกระบวนการเห็นชอบร่วมกันทุกฝ่าย
2. มีความสอดคล้องและเชื่อมโยงกับนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะนโยบายเร่งด่วนตามแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างโอกาสและเพิ่มรายได้ ลดภาระค่าครองชีพของประชาชน สอดคล้องกับการตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนในพื้นที่ และเหมาะสมกับศักยภาพของพื้นที่
นอกจากนี้ ก.น.จ. ได้เห็นชอบกับแนวทางการดำเนินการต่อไป เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จ และเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดย
ทบทวนแผนพัฒนาจังหวัดและแผนพัฒนากลุ่มจังหวัด ให้มีคุณภาพ ก่อนที่จะมีการจัดทำแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554
จัดทำต้นแบบแผนพัฒนาจังหวัด แผนพัฒนากลุ่มจังหวัด แผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัด และแผนปฏิบัติราชการประจำปีของกลุ่มจังหวัดที่มีคุณภาพ โดยดำเนินการนำร่องในพื้นที่ 4 กลุ่มจังหวัด ใน 4 ภูมิภาค โดยให้ อ.ก.น.จ.เกี่ยวกับการพัฒนาระบบการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ ร่วมกับฝ่ายเลขานุการ ก.น.จ. รับผิดชอบการดำเนินงานจัดทำต้นแบบดังกล่าว
การเสริมสร้างขีดสมรรถนะระบบการบริหารจัดการและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ในการขับเคลื่อนแผนพัฒนาจังหวัดและแผนพัฒนากลุ่มจังหวัด
กลุ่มสื่อสารฯ สลธ. / ข่าว & ภาพ
วสุนธรา (สลธ.) / จัดทำ