เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2551 เวลา 09.00 น. นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรม โครงการสร้างที่ปรึกษาในการพัฒนาองค์การ ตามแนวทางการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ ณ สถาบันส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ชั้น 13 อาคารวิทยกิตต์ สยามสแควร์
ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ ก.พ.ร. ได้กล่าวรายงานถึงที่มาของการจัดฝึกอบรมฯครั้งนี้ว่า โครงการสร้างที่ปรึกษาในการพัฒนาองค์การ ตามแนวทางการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ เป็นโครงการต่อเนื่องจากโครงการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ ที่สำนักงาน ก.พ.ร. ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2547 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับคุณภาพการปฏิบัติงานของภาครัฐ ให้สอดคล้องกับพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐนำไปใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการ ของหน่วยงานสู่ระดับมาตรฐานสากล รวมทั้งเป็นกรอบแนวทางในการประเมินตนเองและเป็นบรรทัดฐานการติดตาม และประเมินผลการบริหารจัดการของหน่วยงานภาครัฐ โดยผู้เข้ารับการอบรมในโครงการสร้างที่ปรึกษาพัฒนาองค์การฯ ดังกล่าว ได้รับคัดเลือกจากผู้มีความรู้ ประสบการณ์ด้านการพัฒนาคุณภาพบริหารจัดการภาครัฐที่มีสมรรถนะสูง ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรต่าง ๆ ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. กำหนด และมีความพร้อมในการร่วมผลักดันการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ จากส่วนราชการ จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษา รวมทั้งสิ้นจำนวน 60 คน ซึ่งถือเป็นรุ่นแรกของโครงการฯ
ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 นี้ ส่วนราชการต้องเริ่มดำเนินการปรับปรุงองค์กรตามแผนการปรับปรุงองค์การที่กำหนดไว้ แต่เนื่องจากหลายส่วนราชการยังไม่มีแนวทางในการปรับปรุงองค์การที่ชัดเจน ดังนั้น สำนักงาน ก.พ.ร. จึงได้ริเริ่มโครงการสร้างที่ปรึกษาในการพัฒนาองค์การตามแนวทางการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ เพื่อเสริมสร้างและพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถในการให้คำปรึกษากับส่วนราชการในการพัฒนา และปรับปรุงองค์การตามแนวทางการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ และการให้คำปรึกษาแนะนำในการวิเคราะห์เชิงคุณภาพของแผนการปรับปรุงองค์การให้เหมาะสมกับบริบทของส่วนราชการ ซึ่งขณะนี้ สำนักงาน ก.พ.ร. อยู่ระหว่างการจัดทำชุดเครื่องมือการพัฒนาองค์การ (Organization Improvement Tool Kits) ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในเร็ว ๆ นี้ เพื่อให้ส่วนราชการต่าง ๆ สามารถนำไปปรับใช้ในการพัฒนาปรับปรุงองค์กร ตามแนวทางการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐได้อย่างเหมาะสม ต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ ต่อไป
จากนั้น นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเปิดการฝึกอบรมและบรรยายพิเศษ เรื่อง การยกระดับคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ มีใจความสำคัญว่า รู้สึกชื่นชมเป็นอย่างยิ่งต่อผู้ที่ได้รับคัดเลือกให้เข้ามาฝึกอบรมที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรก สำหรับข้าราชการที่มีสมรรถนะสูง และมีความพร้อมในการร่วมผลักดันการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบราชการไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น สามารถนำพาประเทศให้ก้าวไปในทิศทางที่เหมาะสม และสอดคล้องกับความต้องการของประชาชน
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า เลขาธิการ ก.พ.ร. ได้ให้ข้อมูลถึงผู้ที่เข้ารับการฝึกอบรมในโครงการสร้างที่ปรึกษาในการพัฒนาองค์การว่า บุคคลเหล่านี้เป็นผู้ทำหน้าที่เปรียบเสมือนหมอที่คอยช่วยวินิจฉัยโรค วินิจฉัยส่วนราชการว่า ปัจจุบันมีปัญหาอย่างไร โดยจะเป็นผู้ให้คำปรึกษา ให้คำแนะนำแก่ส่วนราชการว่าจะต้องแก้ไข และต้องปรับปรุงอย่างไร ซึ่งคิดว่าโครงการนี้ฯ เป็นโครงการที่ดีมาก และจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาองค์การ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระบบราชการของประเทศไทย พร้อมกับได้ยกตัวอย่างถึงสำนักงาน ก.พ.ร. ที่ก่อเกิดขึ้นเพื่อทำหน้าที่เป็นมันสมองให้กับการพัฒนาระบบราชการว่าควรจะเดินหน้าไปในทิศทางใด ขณะเดียวกันเมื่อพัฒนาไปแล้วควรจะมีกลไกอย่างไร ที่จะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ต้องยอมรับว่าการปฏิรูประบบราชการที่ผ่านมา นับได้ว่าเป็นผลดี เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ และดีใจที่ได้เห็นสำนักงาน ก.พ.ร. เกิดขึ้น พร้อมได้ทำหน้าที่เป็นมันสมองสญในการพัฒนาระบบราชการไทยให้เจริญก้าวหน้ามาอย่างต่อเนื่อง นายชูศักดิ์กล่าว
ในส่วนของการบรรยายพิเศษในหัวข้อเรื่อง การยกระดับคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ นับว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้เข้ารับการฝึกอบรมเป็นอย่างมาก โดยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเริ่มการบรรยายว่า มีคำถามอย่างมากมาย ว่าเหตุใด ทำไมเราจึงต้องยกระดับคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ คำตอบประการหนึ่งที่ชัดเจนที่สุด ก็คือ เพราะประเทศไทยอยู่ในสังคมของโลก อยู่ในนานาอารยประเทศ ที่ต้องมีการปฏิสัมพันธ์กันระหว่างประเทศ ซึ่งเราจะเห็นว่าองค์กรระหว่างประเทศทั้งหลายในปัจจุบัน ไม่มีประเทศใดประเทศเดียวในโลกที่จะสามารถยืนอยู่ได้เพียงลำพัง และยิ่งในสังคมนานาชาติก็นิยมที่จะจัดอันดับความสำคัญ จัดอันดับตัวชี้วัดหรือคะแนน เช่น ประเทศใดมีการคอรัปชั่นมาก/ไม่มาก ประเทศใดที่น่าประกอบธุรกิจมากที่สุด หรือประเทศใดมีความโปร่งใส มีการบริหารจัดการดีที่สุด เป็นต้น ยกตัวอย่างประเทศในแถบเอเซียก็จะมีประเทศสิงค์โปร์ที่ได้อันดับหนึ่งของประเทศที่น่าประกอบธุรกิจมากที่สุด ดังนั้น ในเรื่องของการยกระดับคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ จึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญที่เราจะต้องทำ ไม่เช่นนั้นแล้วประเทศของเราก็ไม่สามารถที่จะก้าวเข้าไปสู่สังคมนานาชาติที่มากไปด้วยการแข่งขัน ทั้งในแง่ของการทำมาค้าขาย และในแง่ของการติดต่อเจรจาที่มีความเข้มแข็งได้ นี่คือความจำเป็น
โดยในส่วนของรายละเอียดในเรื่อง การยกระดับคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ให้ข้อคิดและหลักการเพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้ตระหนักเป็นสำคัญอยู่หลายข้อด้วยกัน ประกอบด้วย
1. การปรับปรุงรูปแบบบริหารจากเดิมที่มีสายบังคับบัญชาหลายชั้น ยึดวิธีการควบคุมสั่งการ และไม่ตอบสนองต่อปัญหาหรือความต้องการที่ซับซ้อน มาเป็นการประสานการทำงานระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร
2. การพัฒนาปรับปรุงองค์ความรู้ทั้งหลายที่เกี่ยวกับการบริหาร เพื่อยกระดับคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐอย่างสม่ำเสมอ กล่าวคือข้าราชการจะต้องตื่นตัวในเรื่องของการรับองค์ความรู้ใหม่ๆ การบริหารจัดการใหม่ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาองค์กร
3. สร้างทางเลือกที่หลากหลายในการให้บริการต่อประชาชนที่มีความต้องการหลากหลายมากยิ่งขึ้น หมายความว่า ส่วนราชการจะต้องไม่หยุดนิ่งในการที่จะออกแบบ และสร้างกลไกทั้งหลายเพื่อให้ประชาชนได้มีทางเลือกในการรับบริการที่ดีและเหมาะสม ซึ่งในการให้บริการในแต่ละกระทรวง กรม ย่อมมีความแตกต่างกัน ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของแต่ละส่วนราชการที่จะต้องช่วยกันทำ
4. การให้บริการที่ตอบสนองต่อความต้องการ และการจัดการปัญหาให้กับประชาชน โดยแบ่งเป็น 2 เรื่องใหญ่ๆ คือ ปัญหาในแง่ขององค์รวมในจังหวัดและกลุ่มจังหวัด เช่น ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของคนโดยส่วนใหญ่ และปัญหาเฉพาะตัวบุคคล ซึ่งระบบราชการจำเป็นต้องเข้าไปช่วยแก้ไข อาจเป็นการดูแลมาตรการต่างๆ
5. การบริหารจัดการและจัดสรรงบประมาณ ต้องมีการจัดลำดับความสำคัญของผลลัพธ์ที่ประชาชนต้องการอย่างแท้จริง
6. การให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ในการออกแบบรูปแบบการบริการภาครัฐ ผ่านระบบการตรวจสอบการให้บริการสาธารณะของภาครัฐได้
เหล่านี้คือหลักการการดำเนินงาน ที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ฝากไว้เป็นแนวทางในการปฏิบัติ ให้กับผู้เข้ารับการฝึกอบรมโครงการสร้างที่ปรึกษาในการพัฒนาองค์การ ตามแนวทางการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ เพื่อให้สามารถนำไปสู่การยกระดับคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ ได้สมตามเจตนารมณ์ของโครงการฯ ในอันจะก่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลได้เป็นอย่างดี
สำหรับการจัดฝึกอบรมฯ ครั้งนี้ กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 กรกฎาคม 1 สิงหาคม 2551 และวันที่ 14 -15 สิงหาคม 2551 ณ สถาบันส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
กลุ่มสื่อสาร (สลธ.) / ข่าว & ภาพ
วสุนธรา & ภัทรพร ข. (สลธ.) / จัดทำ