ปีใหม่แล้วนะค่ะ e-newsletter
ฉบับต้อนรับปี 2006 เรายังคง
คัดสรรความรู้ และสาระจาก
กิจกรรมต่าง ๆ ที่สำนักงาน
ก.พ.ร. จัดทำขึ้นเช่นเคย ไม่ว่า
งานการประชุมเชิงปฏิบัติการ
ผู้บริหารการเปลี่ยนแปลง (CCO) และงาน Innovative Forum
2005 รวมถึง พิธีมอบรางวัล
คุณภาพการให้ับริการประชาชน
พิเศษสุดด้วย  สารปีใหม่จาก
เลขาธิการ ก.พ.ร. มาอยู่ใน
หน้าจอทุกท่านแล้วค่ะ ...


เวทีนวัตกรรม 2548 (Part I) :
การขับเคลื่อนองค์การ
เพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จสูงสุด

               เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2548 สำนักงาน ก.พ.ร. ได้จัดการสัมมนาวิชาการประจำปี หรือ เวทีนวัตกรรม 2548 (Innovative Forum 2005) ในหัวข้อ การบริหารงานภาครัฐอย่างมีขีดสมรรถนะสูง (High Performance Public Management) ขึ้น ณ ห้อง ESCAP HALL ศูนย์การประชุมองค์การสหประชาชาติ (UNCC) โดยมีผู้บริหารขององค์กรภาครัฐต่าง ๆ เข้าร่วมรับฟังการบรรยายและแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากต่างประเทศ เพื่อนำองค์ความรู้ที่ได้รับไปสนับสนุนการดำเนินงานและผลักดันให้องค์กรภาครัฐสามารถ ปรับตัวให้ทันต่อกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก


ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์  เลขาธิการ ก.พ.ร.  กล่าวถึงการจัดสัมมนา วิชาการประจำปีของ สำนักงาน ก.พ.ร. หรือ เวทีนวัตกรรม (Innovative Forum) ว่า ได้ถูกริเริ่มขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 โดยมีวัตถประสงค์เพื่อเป็นเวทีให้ผู้บริหารของภาครัฐได้แลกเปลี่ยน องค์ความรู้ซึ่งกันและกัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพื่อให้ผู้บริหารของภาครัฐได้รับทราบถึงพัฒนาการด้านการบริหารจัดการ สมัยใหม่ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้กับภาคราชการ โดยในปี 2548 นี้ ใช้หัวข้อการสัมมนาว่า High Performance Public Management หรือ
การบริหารงานภาครัฐอย่างมี ขีดสมรรถนะสูง ซึ่งตรงกับทิศทางการพัฒนาระบบราชการที่กำลังจะดำเนินต่อไป

  
ประเด็นแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในการสัมมนาครั้งนี้ ประกอบด้วย 2 ประเด็นหลัก คือ
  
 
การขับเคลื่อนองค์การเพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จสูงสุด (Moving Towards High Performance Government Organizations) โดย Dr.Robert J. Thomas
 
  
การสร้างเครือข่ายและพันธมิตรในการปฏิบัติงานเพื่อความสำเร็จของหน่วยงานภาครัฐ (Governing By Network : The New Shape of the Public Sector)
โดย
Mr.William D. Eggers
  
ทั้งนี้ สำนักงาน ก.พ.ร.ได้รับความร่วมมือจากบริษัทที่ปรึกษา คือ บริษัท เอคเซนเชอร์ โซลูชั่นส์ จำกัด และ บริษัท ดีล้อยท์ ทูช โทมัชสุ จำกัด ในการเชิญวิทยากรทั้ง 2 ท่าน ซึ่งเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ ด้านการบริหารจัดการภาครัฐมาบรรยาย
     
  
 
         เวทีนวัตกรรมนั้น จะจัดต่อเนื่องไปทุกปี โดยหวังว่าจะเป็นโอกาสอันดีที่จะนำเสนอความรู้ใหม่ ๆและเป็น เวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ต่าง ๆ เพื่อให้มีการนำไปประยุกต์ใช้ใน ภาคราชการ เพิ่ม มากขึ้น ซึ่งต้องอาศัยการร่วมแรงร่วมใจของผู้บริหารขององค์กรภาครัฐ ในการเป็นเครือข่ายช่วย ขับ เคลื่อนระบบราชการของไทยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน ถาวร ซึ่งจะเป็นรากฐานที่มั่นคงในการ พัฒนาระบบราชการต่อไป
        
          ขอสรุปประเด็นสำคัญของการบรรยายในหัวข้อ การขับเคลื่อนองค์การเพื่อมุ่งสู่ความ สำเร็จสูงสุด (Moving Towards High Performance Government Organizations) โดย Dr.Robert J. Thomas มานำเสนอกันก่อน สำหรับการบรรยายในหัวข้อ การสร้างเครือข่ายและพันธมิตรในการปฏิบัติงานเพื่อความสำเร็จของหน่วยงานภาครัฐนั้น สามารถติดตามได้จากเวทีนวัตกรรม 2548 ( Part II ) ค่ะ
การขับเคลื่อนองค์การเพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จสูงสุด
(Moving Towards High Performance Government Organizations)
 
         การบรรยายในหัวข้อนี้ ได้รับเกียรติจาก Dr.Robert J. Thomas ซึ่งเป็น Executive Director ของ Accenture's Institute of High Performance Business & Government เป็นผู้บรรยาย โดยมี ดร.นิธินาถ สินธุเดชะ ซึ่งเป็น Partner ของบริษัท เอคเซนเชอร์ โซลูชั่นส์ จำกัด รับผิดชอบดูแลในสายงานทางด้าน Organization และ Human Performance ใน 9 ประเทศในแถบเอเชียแปซิฟิค เป็นผู้เกริ่นนำ

                                                                                

        
ดร.นิธินาถกล่าวว่า การบรรยายของ Dr.Thomas จะทำให้เรามองเห็นชัดเจนขึ้นว่า คำว่า High Performance Organization เกิดจากองค์ประกอบใด การทำกิจกรรมใด การคิดอย่างไร ในการที่จะสร้างองค์กรให้เกิดขึ้น ซึ่งผู้ที่เป็นผู้บริหารขององค์กร หรือ Chief Change Officer สามารถนำองค์ความรู้เหล่านี้ไปปรับปรุงและกำหนดทิศทางก้าวเดินขององค์กร เพื่อสร้างให้องค์กร ภาครัฐของไทยเป็นองค์กรที่มีคุณภาพ และสามารถสร้างผลสัมฤทธิ์ สร้างประโยชน์ และคุณค่าให้กับ สังคมได้อย่างแท้จริง โดย Dr.Thomas จะนำเสนอมุมมองว่า ในปัจจุบัน ภาคเอกชนทำอย่างไรเพื่อ ก้าวไปสู่การเป็น High Performance Organization เพื่อให้ผู้บริหารได้กลับมามองย้อนดูว่า สำหรับ ภาครัฐแล้ว ควรจะมีมุมมองอย่างไร       และการสร้าง High Performance Government จะเกิดขึ้นได้จากองค์ประกอบใดบ้าง

              จากนั้น Dr.Robert J. Thomas ได้บรรยายถึงสิ่งที่องค์กรที่มีขีดสมรรถนะสูงทำ เพื่อให้การทำงานที่ีประสิทธิภาพสูงดำรงอยู่ต่อไปในองค์กร โดยได้ หยิบยกสิ่งที่ได้เรียนรู้จากงานวิจัยเกี่ยวกับลักษณะขององค์กร ที่มี ขีดสมรรถนะสูงมานำเสนอ และขอให้ผู้บริหารภาครัฐถามตัวเองว่า สิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับองค์กรภาครัฐอย่างไร
 
          
Dr.Thomas กล่าวว่า ในภาคอุตสาหกรรม การเป็นองค์กรที่มีขีดสมรรถนะนั้นเป็นเรื่องยาก ไม่ได้เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ และไม่ใช่ผลพวงของความสำเร็จ เพราะความสำเร็จนั้น เป็นเพียงชั่วคราว และการรักษาความสำเร็จเอาไว้ให้อยู่ต่อไปเป็นระยะเวลานาน ๆ เป็นเรื่องยาก เพราะบริษัทที่ประสบความสำเร็จจะถูกท้าทายและต้องแข่งขันเสมอ ทำให้ในการจัดอันดับบริษัทที่เป็นสุดยอดนั้น จึงมีบริษัทที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นมาอยู่ในอันดับสุดยอดตลอดเวลา
 
ข้อบ่งชี้ของการเป็นองค์กรที่มีขีดสมรรถนะสูง
และทำให้ธุรกิจสามารถเอาชนะคู่แข่งได้
ได้แก่
 
1. การมุ่งตลาด (Market Focus and Position)

                  คือการนิยามตนเองว่า องค์กรทำธุรกิจอะไร แข่งขันกับใคร รวมไปถึงการกำหนด
วิสัยทัศน์และเป้าหมายขององค์กร

 
2. ความสามารถที่เด่นชัด (Distinctive Capabilities)
                  เป็นการนำความสามารถที่เป็นพื้นฐานมาผนวกเข้าด้วยกันและสร้างให้เกิดประสบการณ์ และทำให้เกิดความรู้สึกพึงพอใจของผู้รับบริการ หรือการรวมความสามารถพื้นฐานที่โดดเด่นขององค์กร เข้าด้วยกันแล้วสร้างสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ ขององค์กร

3. องค์ประกอบของการบริหารงานที่มีขีดสมรรถนะสูง (High Performance Anatomy)

                  เป็นประเด็นหลักที่ Dr.Thomas มาบรรยายในครั้งนี้       โดยเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ วัฒธรรมองค์กร คุณค่า ความเชื่อ และวิธีการทำงานของคนในองค์กร ซึ่งวัฒนธรรมองค์กรนั้นเป็นผล ของการกระทำ และกลายเป็นเรื่องราวที่มีการเล่าขานจากรุ่นหนึ่งไปสู่ อีกรุ่นหนึ่ง จนกระทั่งกลายเป็น กรอบ ความคิด (Mindsets) เป็นวิถีความคิดของคนในองค์กร ซึ่งมี   &nbs;ีทั้งทางด้านบวกและด้านลบ   ดังนั้น จะต้องมีการปรับปรุงวัฒนธรรมขององค์กรเพื่อให้เกิดประสิทธิิผลมากขึ้น และสนับสนุนงานใน ส่วนต่าง ๆ ขององค์กร โดยการทำให้ทั้งความคิดและหัวใจของ บุคลากรทุ่มเทให้กับอนาคต ไม่ใช่ ่ทำไปวัน ๆ และไม่ใช่เพื่อความอยู่รอดของตนเองหรือองค์กร แต่่เป็นการทำให้บุคลากรมีความมั่นใจ อยู่เสมอว่า ตนและองค์กรจะอยู่ต่อไปอย่างเนิ่นนาน ในอนาคต เพื่อส่งมอบงานบริการให้กับผู้รับ บริการ แม้ว่าการบริการนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงก็ตาม

  
 
จากการศึกษาบริษัทในหลาย ๆ สาขาธุรกิจ กว่า 50 บริษัท ในแง่ของมุมมองและกรอบความคิด ความเชื่อในเรื่องของคุณค่า พบว่า องค์กรที่มีขีดสมรรถนะสูงนั้น จะมีมุมมองและพฤติกรรมที่เป็นองค์ประกอบที่สำคัญอยู่ 5 ประการ คือ

1. ภาวะผู้นำในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ขององค์กร (Leadership)

                    เป็นการมองในเรื่องของความสมดุลระหว่างเป้าหมายขององค์กร และการปฏิบัติงาน จริง ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการสร้างวิสัยทัศน์ขององค์กร และทำให้วิสัยทัศน์เชื่อมโยงกับความเป็นจริง โดยการกำหนดวิสัยทัศน์ที่สามารถปฏิบัติได้จริง เป็นการดึงพลังซ่อนเร้นที่มีอยู่ออกมา และเป็นการให้
ความสำคัญและสร้างความสมดุลของปัจจุบันและอนาคต โดยการตรงไปตรงมากับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ในปัจจุบัน มองภาพที่เป็นจริง และการสร้างภาพและแรงบันดาลใจที่จะเกิดขึ้นอนาคต และดึงให้ บุคลากรมอง เห็นความสำคัญ มีความมั่นใจ และเข้ามามีส่วนร่วม นอกจากนี้ ผู้นำยังจะต้องสามารถ บริหารจัดการความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้ สามารถตอบสนองต่อแรงกดดันจากภายในและ ภายนอกที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลง และสามารถควบคุมการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 
2. การพัฒนาทรัพยากรบุคคล (People development)
                    เป็นมุมมองเกี่ยวกับระบบเสริมสร้างความสามารถพิเศษแบบทวีคูณ โดยมีความเชื่อใน ขีดความสามารถของบุคลากร ให้อำนาจกับบุคลากร และมองว่าบุคลากรเป็นทรัพยากรและเป็นอนาคต ของ บริษัท จึงให้ความสำคัญกับการสร้างคน ให้โอกาสกับบุคลากรในการพัฒนาและเรียนรู้ในขณะ ที่ทำงาน และเปิดกว้างในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อีกทั้งการสร้างบรรยากาศในการทำงานที่ส่งเสริมให้ บุคลากรประสบความสำเร็จ และปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
                    โดยสรุปก็คือ การให้ความสำคัญกับการจัดการและการพัฒนาทุนมนุษย์มากเท่า ๆ กับการจัดการเงินทุน หรืองบประมาณรายจ่าย
   3. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (Technology enablement)
               องค์กรที่มีขีดสมรรถนะสูงมีมุมมอง ใน เรื่องของ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ IT เป็นสินทรัพย์ในเชิงกลยุทธ์ ยกตัวอย่างเช่น การมีระบบ ที่ดีในการจัดการ IT เพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลง แนวโน้มและกระแสความนิยม และนำมาปรับปรุง /ประยุกต์ ใช้กับสินค้าและบริการของตน รวมทั้งการนำเทคโนโลยี ต่าง ๆ มาใช้ในการทำงานให้มีความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ช่วยให้ได้เปรีบเหนือคู่แข่ง และที่สำคัญคือ การนำ เทคโนโลยีมาเป็นปัจจัยในการตัดสินใจที่รวดเร็วขึ้น ให้เป็นไปตามกลยุทธ์ และวิสัยทัศน์ขององค์กร
 
4. การประเมินผลการดำเนินงาน (Performance management)
                    เป็นมุมมองในเรื่องของระบบการวัดผล โดยจะวัดผลหรือประเมินผลเฉพาะสิ่งที่มี สำคัญในเชิงกลยุทธ์ โดยมีการคิดล่วงหน้าว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญในการทำให้องค์กรประสบความสำเร็จ เพื่อนำมาเป็นประเด็นที่จะวัดผลหรือประเมิน ทั้งนี้ องค์กรที่มี ขีดสมรรถนะสูงยังได้ให้ความสำคัญ กับสินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้มีการนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ และบริหารสินทรัพย์ เหล่านี้โดยประเมินข้อดี ข้อเสียที่จะได้รับจากการลงทุน
 
5. การริเริ่มสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Agility and Innovation)
                    เป็นมุมมองในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง และริเริ่มอยู่ตลอดเวลา ทั้งใน เรื่องสินทรัพย์และบุคลากร   มีการท้าทายตนเอง  และปรับปรุงองค์กรอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งเป็นความรับผิดชอบเพื่อที่จะทำให้องค์กรประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียง ได้รับการยอมรับ และผู้รับบริการเกิดความพึง พอใจอยู่เสมอ

                    สิ่งสำคัญคือ ต้องทำให้ความรู้สึกรับผิดชอบนั้นเกิดขึ้นในทุกระดับของบุคลากร ตั้งแต่ ผู้บริหารระดับสูงไปจนกระทั่งถึงระดับผู้ปฏิบัติงาน เพื่อให้ทุกคนเกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เพื่อหา เทคนิควิธีหรือนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่จะปรับปรุงการทำงานขององค์กรให้ประสบความสำเร็จ     ซึ่งความคิด
ริเริ่มและนวัตกรรมต่าง ๆ อาจจะไม่ได้มาจากบุคลากรภายในหน่วยงานเท่านั้น    แต่ยังจะมาจากองค์กร
อื่น ๆ หรือจากผู้รับบริการได้อีกด้วย เพียงแต่เราจะต้องเข้าใจถึงความต้องการของผู้รับบริการ เพื่อนำมาปรับปรุงการทำงาน และริเริ่มสิ่งใหม่ ๆ เพื่อให้ผู้รับบริการเกิดความพึงพอใจนั่นเอง

 ในการบรรยายครั้งนี้ Dr.Thomas ได้มีการหยิบยกตัวอย่างกรณีศึกษาขององค์กรเอกชนต่าง ๆ อาทิเช่น UPS  Marriott  Toyota  General Electric  Amezon.com  Nokia  3M  Johnson & Johnson เป็นต้น มาประกอบการบรรยายเกี่ยวกับองค์ประกอบทั้ง  5 ด้าน    ของการ เป็นองค์กรที่มีขีดสมรรถนะสูงด้วย
  
ในช่วงท้ายเป็นการตอบข้อซักถามต่าง ๆ จากผู้รับฟังการบรรยาย โดยมี ดร.นิธินาถ เป็นผู้ดำเนินรายการ จากนั้น Dr.Thomas ได้ให้ข้อคิดทิ้งท้ายไว้ว่า องค์กรที่มีขีดสมรรถนะสูง เป็นองค์กรที่รักที่จะเรียนรู้ ทั้งการเรียนรู้ด้วยตัวเอง และการเรียนรู้ร่วมกับผู้อื่น ซึ่งการเรียนรู้นั้น เป็นประสบการณ์ที่ท้าทาย ไม่ใช่การ ทดสอบ แต่เป็นการตระหนักว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่เรารู้และไม่รู้ ต้องเปิดใจที่จะเรียนรู้ และให้คุณค่ากับการ เรียนรู้ เพื่อให้องค์กรสามารถดำรงอยู่ได้ และนั่นจะเป็นคุณสมบัติอย่างหนึ่งขององค์กรที่มีขีดสมรรถนะสูง

ดร.นิธินาถ
ได้กล่าวสรุปในตอนท้ายว่า หากจะกล่าวว่า High Performance Organization คือผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลง ผลลัพธ์ของการคิดที่แตกต่างและสร้างสรรค์ เราคงต้องหันกลับ มามองว่า คำจำกัดความของ “High Performance Organization” ของพวกเราหมายถึงอะไร และสิ่งที่เราต้องการมองเห็นคืออะไร ณ วันนี้เองที่การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและการปฏิรูประบบราชการ เกิดขึ้นมา ไม่ได้เกิดขึ้นมาจากแค่ความคิดของใครบางคน แต่สิ่งที่เป็นแรงผลักดันให้เกิดการปฏิรูป และการสร้างประสิทธิภาพในภาครัฐให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นประเทศใดในโลก ก็คือ Public Demand หรือความคาดหวังและความต้องการของประชาชนที่แตกต่างที่แตกต่างไปจากเดิม ซึ่งเป็นผลมากจาก สิ่งที่องค์กรเอกชนทำ ทำให้ประชาชนเกิดความคาดหวังอย่างใหม่ขึ้น ซึ่งประชาชนหรือลูกค้าของภาค เอกชนนั้น ก็คือเป็นผู้บริการของภาครัฐด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้น เมื่อความต้องการ และความคาดหวังของประชาชนเปลี่ยนแปลงไป โจทย์ของภาครัฐก็ควรจะต้องเปลี่ยนแปลงไปด้วย

หากการสร้างคุณค่า (Value Creation) ในภาคเอกชนหมายถึงการสร้างผลตอบแทนอย่างสินทรัพย์ ์และทุนให้มากที่สุด สำหรับภาครัฐแล้ว              การสร้างคุณค่าก็คือ การสร้างประโยชน์์ให้สูงสุดจาก
งบประมาณ และในขณะเดียวกันในปัจจุบันซึ่งเป็นยุค Knowledge Economy การสร้างคุณค่าคงจะ ไม่ได้เป็นการมองในเชิงของสินทรัพย์ที่จับต้องได้เพียงเท่านั้น แต่อยู่บนองค์ความรู้ ศักยภาพของ บุคลากร และประสิทธิภาพของกระบวนการที่เราทำ รวมทั้งเทคโนโลยีที่สร้างเสริมประสิทธิภาพต่าง ๆ ในการปฏิบัติงานให้เพิ่มมากขึ้นด้วย               



ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือภาคเอกชน สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เป็นความจริง ดังนั้น ในการมอง Performance Anatomy คงไม่แตกต่างกันระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน ไม่ว่าจะเป็นในเชิงของภาวะผู้นำ (Leadership)ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนต้องสร้างศักยภาพของผู้นำ ที่สามารถนำองค์กรไปสู่การ เปลี่ยนแปลงได้ ในขณะเดียวกันก็สามารถสร้างคนได้

         
การสร้างบุคลากรนั้น จำเป็นจะต้องสร้างบุคลากรที่ตอบโจทย์เป้าหมายและกลยุทธ์ขององค์กร อย่างแท้จริง และ ณ วันนี้ ทุก ๆ องค์กรของภาครัฐได้มีการทำข้อเสนอการเปลี่ยนแปลง (Blueprint for Change) ซึ่งเป็นการตอบโจทย์ว่า ในการที่จะให้แต่ละองค์กรของ ภาครัฐบรรลุซึ่งผลสำเร็จ และเป้าหมายของกลยุทธ์และยุทธศาสตร์ที่ตั้งไว้นั้น บุคลากรในองค์กรของเราต้องมีคุณลักษณะและ ความสามารถอะไรบ้าง ซึ่ง ดร.นิธินาถได้ฝากประเด็นนี้ไว้กับผู้บริหารของภาครัฐในทุกหน่วยงาน เพื่อช่วยสนับสนุนทีมที่จัดทำข้อเสนอการเปลี่ยนแปลง ให้สามารถนำแนวคความคิดดี ๆ เหล่านั้นไปสู่การปฏิบัติได้อย่างแท้จริง เพื่อที่วันข้างหน้าทุกองค์กรจะมีบุคลากรที่มีีคุณสมบัติิตรง
ตามความต้องการ ภายใต้เป้าหมายและกลยุทธ์ที่องค์กรได้วางไว้

 
การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ สร้างความแตกต่าง สร้างประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือภาคเอกชน นับว่าเป็นปัจจัยที่ช่วยสร้าง ความเข้มแข็งให้องค์กร  ดังนั้น องค์กรที่มีขีด สมรรถนะสูงจะต้อง มองว่าวิธีใดที่จะนำเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนทำให้องค์กรสามารถ พัฒนาตนเอง ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น

นอกจากนั้น ในเรื่องของ Performance Management นั้น การบริหารการปฏิบัติและการบริหารผลลัพธ์ของการดำเนินงาน ทั้งหลาย หากองค์กรไม่มุ่งผลสำเร็จ มุ่งผลสัมฤทธิ์ ก็คงจะไม่ สามารถมองเห็นเป้าหมายที่แท้จริง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การวัดผลและ การประเมินผลไม่ได้วัดเพียงแค่ว่าองค์กรอยู่ตรงไหน แต่ยังประเมินเพื่อหาจุดและประเด็นที่จะทำให้องค์กรดีขึ้นอีกด้วย
 
 
           องค์ประกอบสุดท้ายคือ การมุ่งไปสู่การคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในสิ่งใหม่ ซึ่งในความหมายของ คำว่า Innovation นั้น ไม่ได้เป็นเรื่องของนวัตกรรมที่จะต้องแปลก และแตกต่าง แต่จริง ๆ แล้วมี ีความหมายของการเปลี่ยนแปลงแฝงอยู่ในนั้นเป็นสาระสำคัญ เพราะฉะนั้น องค์กรทั้งภาครัฐและ ภาคเอกชนจำเป็นต้องมุ่งไปสู่แนวคิดใหม่ และการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อสร้างการพัฒนา อย่างยั่งยืนและต่อเนื่อง และนี่คือหัวใจขององค์กรที่เป็น High Performance Organization ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน

และสำหรับภาครัฐแล้ว ความมุ่งมั่นของผู้บริหารในการนำพาองค์กรไปสู่การเป็น High Performance
Government
นอกจากจะทำให้องค์กรภาครัฐมีขีดสมรรถสูงแล้ว นั่นหมายถึงความมั่นคงแข็งแรง และ
โอกาสดี ๆ ที่ประชาชนจะได้รับต่อไปด้วย
                                      
             

เลขาธิการ ก.พ.ร. มอบของที่ระลึกพร้อมถ่ายภาพร่วมกับวิทยากรทั้ง 2 ท่าน

เวทีนวัตกรรม 2548 (Part II) ต่อ >>>