มติคณะรัฐมนตรีวันอังคารที่ 4 กรกฎาคม 2549

ที่เกี่ยวข้องกับสำนักงาน ก.พ.ร.


         การประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ 4 กรกฎาคม 2549  ณ ห้องประชุม ชั้น 2 ตึกสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีหลังใหม่ ทำเนียบรัฐบาล ได้พิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับงานของสำนักงาน ก.พ.ร. จำนวน 7 เรื่อง ดังนี้


เรื่องที่ 3

ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเบี้ยประชุม
และประโยชน์ตอบแทนอื่น ของประธานกรรมการ
รองประธานกรรมการ กรรมการ และอนุกรรมการ
สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….


          คณะรัฐมนตรีพิจารณา ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเบี้ยประชุมและประโยชน์ตอบแทนอื่นของประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ กรรมการ และอนุกรรมการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และมีมติให้สำนักงาน ก.พ.ร. พิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำหนดเบี้ยประชุมและประโยชน์ตอบแทนอื่นของคณะกรรมการองค์การมหาชน ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2547 โดยกำหนดให้องค์การมหาชนที่อยู่ในประเภทหรือกลุ่มเดียวกัน ควรมีอัตราเบี้ยประชุมและประโยชน์ตอบแทนอื่นเพียงอัตราเดียว แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยด่วนภายในสองสัปดาห์ พร้อมกับร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเบี้ยประชุมและประโยชน์ตอบแทนอื่นของประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ กรรมการ และอนุกรรมการ สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ

เรื่องที่ 5

การดำเนินงานของสำนักงานกำกับระบบ GFMIS และโครงการเร่งด่วน


          คณะรัฐมนตรีอนุมัติการจัดตั้งสำนักงานกำกับระบบการบริหารการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์ (GFMIS) เป็นหน่วยงานบริการรูปแบบพิเศษ (Service Delivery Unit - SDU) การต่อสัญญาจ้าง ดำเนินการกับ บมจ.ธนาคารกรุงไทย และการดำเนินการส่วนขยายที่เป็นโครงการเร่งด่วน ตามมติคณะกรรมการกำกับระบบการบริหารการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์ ครั้งที่ 1/2549 เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2549 ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ และสำนักงาน ก.พ.ร. ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย

 

เรื่องที่ 7

แผนปรับโครงสร้างสินค้าข้าว


          คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการแผนปรับโครงสร้างสินค้าข้าว ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ สำหรับงบประมาณเพื่อใช้ดำเนินงานตามแผนปรับโครงสร้างข้าว ปี 2549 จำนวน 291.229 ล้านบาท ให้เจียดจ่ายจากงบประมาณของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตามลำดับความจำเป็นของแต่ละแผนงานไปก่อน

          โดยแผนปรับโครงสร้างสินค้าข้าว มีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้

          1. วัตถุประสงค์
               1.1 เพื่อให้มีกรอบทิศทางการพัฒนาข้าวในระยะยาวอย่างชัดเจน
               1.2 เพื่อพัฒนาการผลิตข้าว และผลิตภัณฑ์ข้าว
               1.3 เพื่อให้ชาวนามีรายได้และความเป็นอยู่ดีขึ้น
               1.4 เพื่อสนับสนุนการส่งออกข้าวและผลิตภัณฑ์ให้ขยายตัวมากขึ้น

          2. แนวทางการดำเนินงาน ประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์
               2.1 ยุทธศาสตร์ที่ 1 วิจัยและพัฒนาข้าว
               2.2 ยุทธศาสตร์ที่ 2 พัฒนาการผลิตข้าว
               2.3 ยุทธศาสตร์ที่ 3 พัฒนาชาวนา
               2.4 ยุทธศาสตร์ที่ 4 การสร้างมูลค่าเพิ่ม

          3. มาตรการสนับสนุน ประกอบด้วย 5 มาตรการ
               3.1 มาตรการกำหนดเขตการปลูกข้าวตามกลุ่มพันธุ์
               3.2 มาตรการผลักดันให้มีการใช้มาตรฐานการซื้อขายข้าวเปลือก
               3.3 มาตรการจูงใจให้เกษตรกรเข้าร่วมโครงการผลิตข้าวให้ได้มาตรฐาน Q ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
               3.4 มาตรการจัดตั้งองค์กรที่รับผิดชอบเรื่องข้าวอย่างครบวงจร
               3.5 มาตรการจัดตั้งคณะเจรจาข้อกีดกันทางการค้าและสร้างพันธมิตรทางการค้า

          โดยมีพื้นที่ดำเนินการ 76 จังหวัด ระยะเวลาดำเนินการ เมษายน 2549 ถึงกันยายน 2551 หน่วยงานที่รับผิดชอบ : กรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

 

เรื่องที่ 10

ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินเพิ่มพิเศษ
สำหรับผู้บริหารและเงินรางวัลสำหรับส่วนราชการและจังหวัด พ.ศ. ….


        
  คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินเพิ่มพิเศษสำหรับผู้บริหาร และเงินรางวัลสำหรับส่วนราชการและจังหวัด พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

          โดยร่างระเบียบฯ ดังกล่าวมีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้

          1. ปรับปรุงและเพิ่มเติมคำนิยาม “ข้าราชการ” “ลูกจ้างประจำ” “เงินเพิ่มพิเศษสำหรับผู้บริหาร” และ “เงินรางวัลสำหรับส่วนราชการและจังหวัด” จากระเบียบเดิมให้เหมาะสม ชัดเจนยิ่งขึ้น เพื่อให้สอดคล้องและเป็นไปตามกฎหมายของข้าราชการแต่ละประเภทที่ได้รับการปรับโครงสร้างส่วนราชการใหม่ พร้อมทั้งยกเลิกการจ่ายเงินรางวัลให้กับพนักงานของรัฐในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากปัจจุบันได้เปลี่ยนสถานะเป็นข้าราชการทั้งหมดแล้ว

          2. ยกเลิกหลักเกณฑ์การจ่ายเงินรางวัลสำหรับผู้บริหารที่เดิมกำหนดให้จ่ายเฉพาะผู้บริหาร ของกลุ่มท้าทายและกลุ่มนำร่อง โดยกำหนดให้ผู้บริหารทุกส่วนราชการที่ได้ทำข้อตกลงว่าด้วย การปฏิบัติราชการมีสิทธิได้รับเงินเพิ่มพิเศษตามหลักเกณฑ์และอัตราที่ ก.พ.ร. กำหนด ทั้งนี้ ได้นำหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเพิ่มพิเศษกำหนดเป็นบัญชีแนบท้ายระเบียบ เพื่อความสะดวกในการ แก้ไขปรับปรุง หาก ก.พ.ร. จะมีการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์ให้เหมาะสมในโอกาสต่อไป

          3. นำหลักเกณฑ์และวิธีการเบิกจ่ายที่เดิมกำหนดไว้เป็นหนังสือกระทรวงการคลังมากำหนด ไว้ในระเบียบ เพื่อให้ส่วนราชการมีความสะดวกในการค้นคว้า อ้างอิง พร้อมทั้งปรับปรุงถ้อยคำให้เหมาะสมยิ่งขึ้น


เรื่องที่ 11

การเพิ่มความคล่องตัวในการปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2549

          คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการเพิ่มความคล่องตัวในการปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2549 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้ผ่อนคลายการปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ พ.ศ. 2549 ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และหน่วยงานอื่นของรัฐที่อยู่ในสังกัดการบังคับบัญชา หรือการกำกับดูแลของฝ่ายบริหารตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน หรือกฎหมายจัดตั้งหน่วยงานดังกล่าว ดังนี้

          1. สำหรับรัฐวิสาหกิจ การจัดซื้อจัดจ้างที่มีวงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาท ซึ่งต้องปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ พ.ศ. 2549 ก็ให้รัฐวิสาหกิจดำเนินการตามนั้น เว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุผลความจำเป็น หรือมีปัญหาอุปสรรค ทำให้ไม่สามารถดำเนินการได้ตามระเบียบฯ ดังกล่าวได้
จึงผ่อนผันให้หัวหน้ารัฐวิสาหกิจใช้ดุลพินิจดำเนินการจัดซื้อหรือจัดจ้างตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการพัสดุของรัฐวิสาหกิจนั้น ๆ ได้ ทั้งนี้ ต้องชี้แจงเหตุผล ความจำเป็น หรือปัญหาอุปสรรค ดังกล่าวไว้ในรายงานขอซื้อหรือขอจ้าง ตามที่ระเบียบกำหนด

          2. การแต่งตั้งคณะกรรมการประกวดราคาตามโครงการ การคัดเลือกผู้ให้บริการตลาดกลางอิเล็กทรอนิกส์ กำหนดวัน เวลาและสถานที่เสนอราคา



      

               (1) สำหรับรัฐวิสาหกิจ การจัดหาพัสดุที่มีวงเงินไม่เกิน 300 ล้านบาท ให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจนั้น ที่จะพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการประกวดราคาตามโครงการ การคัดเลือกให้ผู้บริหารตลาดกลางอิเล็กทรอนิกส์ กำหนดวัน เวลาและสถานที่เสนอราคา โดยการคัดเลือกผู้ให้บริการตลาดกลางอิเล็กทรอนิกส์และการกำหนดสถานที่เสนอราคา จะต้องคัดเลือกและกำหนดจาก รายชื่อที่กรมบัญชีกลางได้ประกาศขึ้นทะเบียนไว้แล้วเท่านั้น

              (2) สำหรับส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ องค์การมหาชน และหน่วยงานอื่นของรัฐฯ การจัดหาพัสดุที่มีวงเงินไม่เกิน 50 ล้านบาท ให้เป็นอำนาจของหัวหน้าหน่วยงานที่จะจัดหาพัสดุ ที่จะพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการประกวดราคาตามโครงการ การคัดเลือกผู้ให้บริการตลาดกลางอิเล็กทรอนิกส์ กำหนดวัน เวลาและสถานที่เสนอราคา โดยการคัดเลือกผู้ให้บริการตลาดกลางอิเล็กทรอนิกส์และการกำหนดสถานที่เสนอราคา จะต้องคัดเลือกและกำหนดจากรายชื่อที่กรมบัญชีกลาง ได้ประกาศขึ้นทะเบียนไว้แล้วเท่านั้น


          3. สำหรับทุกหน่วยงาน ในกรณีที่คัดเลือกเบื้องต้นเพื่อหาผู้มีสิทธิเสนอราคาตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ พ.ศ. 2549 ข้อ 9(2) และ (3) แล้ว ปรากฏว่ามีผู้มีสิทธิเสนอราคารายเดียว หรือมีผู้มีสิทธิเสนอราคาเพียงรายเดียวเมื่อถึงเวลาเริ่มการเสนอราคา ตามระเบียบ ข้อ 10(1) โดยปกติให้เสนอหัวหน้าหน่วยงานยกเลิก แต่ถ้าคณะกรรมการประกวดราคาตามโครงการเห็นว่า มีเหตุผลสมควรที่จะดำเนินการต่อไปโดยไม่ต้องยกเลิกการประกวดราคา ก็ให้คณะกรรมการฯ ต่อรองราคากับผู้มีสิทธิเสนอราคารายนั้นแล้วเสนอหัวหน้าหน่วยงานต่อไป

          4. การดำเนินการผ่อนคลายการปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ พ.ศ. 2549 ตามข้อ 1-3 รวมทั้งการผ่อนคลายการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2549 ให้มีผลจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 ในระหว่างระยะเวลาดังกล่าว ให้กรมบัญชีกลางร่วมกับสำนักนายกรัฐมนตรี พิจารณาศึกษาและเสนอแนะแนวทางแก้ไขระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ พ.ศ. 2549 ต่อไป

                                                                      

          5. ให้รัฐวิสาหกิจถือปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ พ.ศ. 2549 โดยอนุโลม
          6. สำหรับฐานข้อมูลบุคคลภายนอก กระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลาง นำขึ้น website (http://www.gprocurement.go.th/) ดังนั้น หากหน่วยงานที่จะจัดหาพัสดุประสงค์จะคัดเลือกรายชื่อที่เป็นคณะกรรมการประกวดราคาบุคคลภายนอก สามารถเลือกรายชื่อจากเว็บไซต์ดังกล่าวได้

 

เรื่องที่ 29

แต่งตั้ง

มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี
และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี


          คณะรัฐมนตรีรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 128/2549 เรื่อง มอบหมายและมอบอำนาจให้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ดังนี้

          อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 10 มาตรา 11 มาตรา 12 มาตรา 15 และมาตรา 38 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติมครั้งสุดท้ายโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 นายกรัฐมนตรีจึงให้ยกเลิกคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 440/2548 ลงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2548 และคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 507/2548 ลงวันที่ 14 ธันวาคม 2548 และมีคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีกำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี และให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีสั่งและปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี และกำกับดูแล ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชนและหน่วยงานของรัฐ ดังต่อไปนี้

ส่วนที่ 1 นิยาม

          ในคำสั่งนี้

          “กำกับการบริหารราชการ” หมายความว่า กำกับโดยทั่วไปซึ่งการบริหารราชการแผ่นดินของ ส่วนราชการเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและนโยบายของคณะรัฐมนตรี หรือนายกรัฐมนตรี มีอำนาจสั่งให้ส่วนราชการ ชี้แจงแสดงความคิดเห็นหรือรายงานเกี่ยวกับการปฏิบัติราชการหรือการปฏิบัติงาน สั่งสอบสวนข้อเท็จจริง หรือสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน คณะกรรมการตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการแผ่นดิน และคณะกรรมการอื่น แทนนายกรัฐมนตรี ตลอดจนอนุมัติให้นำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี และอนุมัติตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2520 เกี่ยวกับการมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับการบริหารราชการแผ่นดิน อนุญาตหรืออนุมัติเรื่องต่าง ๆ ของส่วนราชการในกำกับไปก่อนได้ แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีทราบ

          “สั่งและปฏิบัติราชการ” หมายความว่า สั่ง อนุญาต หรืออนุมัติให้ส่วนราชการหรือข้าราชการหรือผู้ปฏิบัติงานในส่วนราชการ ปฏิบัติราชการหรือดำเนินการใด ๆ ได้ตามกฎหมาย ระเบียบ หรือมติคณะรัฐมนตรี ในฐานะผู้บังคับบัญชา รัฐมนตรีเจ้าสังกัดหรือรัฐมนตรีเจ้ากระทรวง

          “กำกับดูแล” หมายความว่า กำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หรือหน่วยงานของรัฐให้เป็นไปตามกฎหมาย และให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หรือหน่วยงานของรัฐ นโยบายของรัฐบาล และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการสั่งให้รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หรือหน่วยงานของรัฐชี้แจงแสดงความคิดเห็น ทำรายงาน หรือยับยั้งการกระทำของรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หรือหน่วยงานของรัฐที่ขัดต่อวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หรือหน่วยงานของรัฐ นโยบายของรัฐบาลหรือมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และสั่งสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินการ

ส่วนที่ 2

          1. รองนายกรัฐมนตรี (พลตำรวจเอก ชิดชัย วรรณสถิตย์)

              1.1 การมอบหมายและมอบอำนาจให้กำกับการบริหารราชการ และสั่งและปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ดังนี้
                    1.1.1 กำกับการบริหารราชการของส่วนราชการ ดังนี้
                             (1) กระทรวงกลาโหม
                             (2) กระทรวงมหาดไทย
                             (3) กระทรวงยุติธรรม
                    1.1.2 กำกับการบริหารราชการ และสั่งและปฏิบัติราชการของส่วนราชการ ดังนี้
                             (1) สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ
                             (2) สำนักข่าวกรองแห่งชาติ
                             (3) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

              1.2 การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานหรือประธานกรรมการในคณะกรรมการต่างๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ดังนี้
                    1.2.1 สภาความมั่นคงแห่งชาติ
                    1.2.2 คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ
                    1.2.3 คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ
                    1.2.4 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
                    1.2.5 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
                    1.2.6 คณะกรรมการคดีพิเศษ

             1.3 การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ดังนี้
                    1.3.1 คณะกรรมการนโยบายและอำนวยการพัฒนาเพื่อเสริมความมั่นคงของชาติ
                    1.3.2 คณะกรรมการสนับสนุนระบบการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ
                    1.3.3 คณะกรรมการป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ
                    1.3.4 คณะกรรมการกำหนดนโยบายและกำกับดูแลกิจการประปาแห่งชาติ
                    1.3.5 คณะกรรมการกองทุนลานกีฬาต้านยาเสพติด
                    1.3.6 คณะกรรมการบริหารระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ
                    1.3.7 คณะกรรมการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค
                    1.3.8 คณะกรรมการพิจารณาการเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นสายสะพาย

              1.4 การสั่งการตามกฎหมายว่าด้วยตำรวจแห่งชาติ และการสั่งการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ

              1.5 กำกับดูแลและลงนามในเอกสารที่เกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ ดังนี้
                    1.5.1 การขอพระราชทานอภัยโทษ
                    1.5.2 การขอแปลงสัญชาติเป็นไทย

              1.6 ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ และลงนามในประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้องกับการมีพระบรมราชโองการในเรื่องตามข้อ 1.1 – 1.5 ยกเว้น
                    1.6.1 เรื่องที่เกี่ยวกับกฎหมาย
                    1.6.2 การสถาปนาพระอิสริยยศ อิสริยศักดิ์ สมณศักดิ์
                    1.6.3 การแต่งตั้ง ในกรณีการแต่งตั้งประธานศาลฎีกาประธานศาลปกครองสูงสุด ข้าราชการตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงและกรมเอกอัครราชทูตประจำต่างประเทศ กงสุล และกรรมการ ที่มีตำแหน่งหน้าที่สำคัญ
                    1.6.4 การพระราชทานยศทหาร ตำรวจ ชั้นนายพล
                    1.6.5 การพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์แก่พระบรมวงศานุวงศ์ และการ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ประจำปี
                    1.6.6 การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต หรือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และการประกาศใช้ความตกลงระหว่างประเทศ
                    1.6.7 เรื่องสำคัญที่เคยมีประเพณีปฏิบัติให้เสนอนายกรัฐมนตรีลงนาม

ส่วนที่ 3

          2. รองนายกรัฐมนตรี (นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ)

              2.1 การมอบหมายและมอบอำนาจให้กำกับการบริหารราชการและสั่งและปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ดังนี้
                    2.1.1 กำกับการบริหารราชการของส่วนราชการ ดังนี้
                             (1) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ยกเว้นในส่วนที่เกี่ยวกับข้อ 3.4)
                             (2) กระทรวงคมนาคม
                             (3) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
                             (4) กระทรวงพลังงาน
                    2.1.2 กำกับการบริหารราชการ และสั่งและปฏิบัติราชการของส่วนราชการ ดังนี้
                             - สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

              2.2 การมอบหมายและมอบอำนาจให้กำกับดูแลหน่วยงานของรัฐ ดังนี้
                     - กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ

              2.3 การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานหรือประธานกรรมการ ในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่ตั้งขึ้นตามกฎหมาย
                    2.3.1 คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก
                    2.3.2 คณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
                    2.3.3 คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
                    2.3.4 คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
                    2.3.5 คณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน
                    2.3.6 คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ
                    2.3.7 คณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน

              2.4 การมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ดังนี้
                    2.4.1 คณะกรรมการประสานงานและสนับสนุนโครงการหลวง
                    2.4.2 คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
                    2.4.3 คณะกรรมการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน
                    2.4.4 คณะกรรมการนโยบายและฟื้นฟูทะเลไทย
                    2.4.5 คณะกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ

              2.5 การสั่งการตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ และการสั่งการตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน

              2.6 ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ และลงนามในประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการมีพระบรมราชโองการในเรื่องตามข้อ 2.1 – 2.5 เว้นแต่กรณีที่ระบุยกเว้นในข้อ 1.6

ส่วนที่ 4

          3. รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์)

              3.1 การมอบหมายและมอบอำนาจให้กำกับการบริหารราชการของส่วนราชการแทนนายกรัฐมนตรี ดังนี้
                    3.1.1 กระทรวงการคลัง
                    3.1.2 กระทรวงพาณิชย์
                    3.1.3 กระทรวงอุตสาหกรรม
                    3.1.4 สำนักงบประมาณ (ยกเว้นในส่วนที่เกี่ยวกับการอนุมัติงบประมาณ)
                    3.1.5 สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
                    3.1.6 สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

              3.2 การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ดังนี้
                    3.2.1 คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
                    3.2.2 คณะกรรมการนโยบายทุนรัฐวิสาหกิจ

  3.3 การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ดังนี้
                    3.3.1 คณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ
                    3.3.2 คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
                    3.3.3 คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร
                    3.3.4 คณะกรรมการบริหารสินเชื่อเกษตรแห่งชาติ
                    3.3.5 คณะกรรมการอำนวยการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์แห่งชาติ
                    3.3.6 คณะกรรมการนโยบายการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน
                    3.3.7 คณะกรรมการบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษถนนราชดำเนิน
                    3.3.8 คณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติ

  3.4 การสั่งการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับภาพรวมทางเศรษฐกิจ การปรับโครงสร้างการเกษตร รวมทั้งการตลาดสินค้าเกษตร

              3.5 ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ และลงนามในประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการมีพระบรมราชโองการในเรื่องตามข้อ 3.1 – 3.4 เว้นแต่กรณีที่ระบุยกเว้นในข้อ 1.6

ส่วนที่ 5

          4. รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ)

              4.1 การมอบหมายและมอบอำนาจให้กำกับการบริหารราชการ และสั่งและปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ดังนี้
                    4.1.1 กำกับการบริหารราชการของส่วนราชการ ดังนี้
                             (1) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
                             (2) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
                             (3) กระทรวงแรงงาน
                             (4) สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
                             (5) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ
                    4.1.2 กำกับการบริหารราชการ และสั่งและปฏิบัติราชการของส่วนราชการ ดังนี้
                             (1) สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน
                             (2) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

              4.2 การมอบหมายและมอบอำนาจให้กำกับดูแลองค์การมหาชนและหน่วยงานของรัฐ ดังนี้
                    4.2.1 สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
                    4.2.2 องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

              4.3 การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ดังนี้
                    4.3.1 คณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานเยาวชนแห่งชาติ
                    4.3.2 คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ
                    4.3.3 คณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติ
                    4.3.4 คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
                    4.3.5 คณะกรรมการกฤษฎีกา
                    4.3.6 คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน
                    4.3.7 คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ

              4.4 การมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี/ระเบียบอื่น ๆ ดังนี้
                    4.4.1 คณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ
                    4.4.2 คณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย
                    4.4.3 คณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ
                    4.4.4 คณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานสตรีและสถาบันครอบครัวแห่งชาติ
                    4.4.5 คณะกรรมการบริหารแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง
                    4.4.6 คณะกรรมการอำนวยการจัดระบบศูนย์ราชการ
                    4.4.7 คณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยสำนักนายกรัฐมนตรี

                                                        

              4.5 การสั่งการตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม

              4.6 การสั่งการตามกฎหมายว่าด้วยคณะกรรมการกฤษฎีกา และการสั่งการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน

              4.7 การมอบหมายให้ปฏิบัติราชการแทนในเรื่องที่เป็นงานประจำปกติของสำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ สำนักงานศาลปกครอง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์แห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ที่จำเป็นต้องเสนอนายกรัฐมนตรีสั่งการตามกฎหมาย หรือที่ต้องนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาตามกฎหมาย

              4.8 ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ และลงนามในประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการมีพระบรมราชโองการในเรื่องตามข้อ 4.1 – 4.7 เว้นแต่กรณีที่ระบุยกเว้นในข้อ 1.6

ส่วนที่ 6

          5. รองนายกรัฐมนตรี (นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย)

              5.1 การมอบหมายและมอบอำนาจให้กำกับการบริหารราชการ และสั่งและปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ดังนี้
                    5.1.1 กำกับการบริหารราชการของส่วนราชการ ดังนี้
                             (1) กระทรวงการต่างประเทศ
                             (2) กระทรวงวัฒนธรรม
                             (3) กระทรวงศึกษาธิการ
                    5.1.2 กำกับการบริหารราชการ และสั่งและปฏิบัติราชการของส่วนราชการ ดังนี้
                             (1) สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
                             (2) ราชบัณฑิตยสถาน

              5.2 การมอบหมายและมอบอำนาจให้กำกับดูแลองค์การมหาชนและหน่วยงานของรัฐ ดังนี้
                    5.2.1 สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา
                    5.2.2 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย

              5.3 การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ดังนี้
                    5.3.1 สภาวิจัยแห่งชาติ
                    5.3.2 สภานายกลูกเสือแห่งชาติ
                    5.3.3 คณะกรรมการพิจารณาการเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์

              5.4 การสั่งการตามกฎหมายว่าด้วยราชบัณฑิตยสถาน

              5.5 การสั่งการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัย และการสั่งการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการครู ซึ่งเรื่องอยู่ระหว่างการดำเนินการตามกฎหมาย รวมทั้งการดำเนินคดีปกครองและลงนามมอบอำนาจให้พนักงานอัยการดำเนินคดีปกครอง กรณีที่มีการฟ้องนายกรัฐมนตรีในการสั่งการตามกฎหมายดังกล่าว

              5.6 ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ และลงนามในประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการมีพระบรมราชโองการในเรื่องตามข้อ 5.1 – 5.5 เว้นแต่กรณีที่ระบุยกเว้นในข้อ 1.6

ส่วนที่ 7

          6. รองนายกรัฐมนตรี (นายสุชัย เจริญรัตนกุล)

              6.1 การมอบหมายและมอบอำนาจให้กำกับการบริหารราชการและสั่งและปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ดังนี้
                    6.1.1 กำกับการบริหารราชการของส่วนราชการ ดังนี้
                             (1) กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
                             (2) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
                             (3) กระทรวงสาธารณสุข
                    6.1.2 กำกับการบริหารราชการ และสั่งและปฏิบัติราชการของส่วนราชการต่าง ๆ ดังนี้
                             - สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค

              6.2 การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ดังนี้
                    6.2.1 คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
                    6.2.2 คณะกรรมการพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ
                    6.2.3 คณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ

              6.3 การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ดังนี้
                    6.3.1 คณะกรรมการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งชาติ
                    6.3.2 คณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
                    6.3.3 คณะกรรมการภูมิสารสนเทศแห่งชาติ
                    6.3.4 คณะกรรมการนโยบายเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ
                    6.3.5 คณะกรรมการปฏิรูประบบสุขภาพแห่งชาติ
                    6.3.6 คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์
                    6.3.7 คณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์และเมืองเก่า
                    6.3.8 คณะกรรมการนโยบายหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ


              6.4 การสั่งการตามกฎหมายว่าด้วยการขายตรงและตลาดแบบตรงและการสั่งการตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ

              6.5 ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ และลงนามในประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการมีพระบรมราชโองการในเรื่องตามข้อ 6.1 – 6.4 เว้นแต่กรณีที่ระบุยกเว้นในข้อ 1.6

ส่วนที่ 8

          7. รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ)

              7.1 การมอบหมายและมอบอำนาจให้สั่งและปฏิบัติราชการของส่วนราชการ ดังนี้
                    7.1.1 สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
                    7.1.2 สำนักงบประมาณ (ยกเว้นในส่วนที่เกี่ยวกับการอนุมัติงบประมาณ)
                    7.1.3 สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
                    7.1.4 กรมประชาสัมพันธ์
                    7.1.5 สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ
                    7.1.6 สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ


  7.2 การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ดังนี้
                    7.2.1 ประธานกรรมการในคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
                    7.2.2 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ
                    7.2.3 กรรมการในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด

  7.3 การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ดังนี้
                    7.3.1 คณะกรรมการพิจารณาการเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นต่ำกว่าสายสะพาย
                    7.3.2 คณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ
                    7.3.3 คณะกรรมการพัฒนาการเมือง
                    7.3.4 คณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ
                    7.3.5 คณะกรรมการจัดทำแผนบริหารราชการแผ่นดิน
                    7.3.6 คณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ

ส่วนที่ 9

          8. รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายเนวิน ชิดชอบ)

              8.1 การมอบหมายและมอบอำนาจให้สั่งและปฏิบัติราชการของส่วนราชการ ดังนี้
                    8.1.1 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
                    8.1.2 สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
                    8.1.3 สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

              8.2 การมอบหมายและมอบอำนาจให้กำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ ดังนี้
                    - บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)

              8.3 การมอบหมายและมอบอำนาจให้กำกับดูแลองค์การมหาชน ดังนี้
                    - สำนักงานบริหารการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน

              8.4 การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ดังนี้
          
          - คณะกรรมการควบคุมการเรี่ยไรของหน่วยงานของรัฐ

ส่วนที่ 10

          1. ให้รองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่สั่งและปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรีในส่วนราชการใด เป็นประธาน อ.ก.พ. ทำหน้าที่ อ.ก.พ.กระทรวงของส่วนราชการนั้นด้วย ยกเว้น อ.ก.พ.สำนักนายกรัฐมนตรี ให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายเนวิน ชิดชอบ) เป็นประธาน

          2. รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับการบริหารราชการส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจองค์การมหาชน หรือหน่วยงานของรัฐ ย่อมมีอำนาจให้ความเห็นชอบและลงนามในประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี หรือประกาศเกี่ยวกับเรื่องของหน่วยงานนั้น ๆ ดังนี้
              2.1 การแต่งตั้งบุคคลหรือกรรมการในหน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจนั้น
              2.2 การขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์แก่ชาวต่างประเทศ ยกเว้นเป็นเรื่องระดับผู้นำรัฐบาลหรือประมุขของรัฐต่างประเทศ
              2.3 การให้ความเห็นชอบในการรับเครื่องราชอิสริยาภรณ์หรือเหรียญตราจากต่างประเทศ
              2.4 การประกาศภาพเครื่องหมายราชการ

          3. ราชการที่รองนายกรัฐมนตรีได้รับมอบหมายและมอบอำนาจตามคำสั่งนี้ หากรองนายกรัฐมนตรีพิจารณาเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ และอาจมีผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนเป็นส่วนรวม หรือต้องสั่งการแก่หลายส่วนราชการ หรือหลายรัฐวิสาหกิจ แต่บางส่วนมิได้อยู่ในอำนาจหน้าที่กำกับการบริหารราชการของรองนายกรัฐมนตรีผู้หนึ่งผู้ใดโดยตรง ให้นำเสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อวินิจฉัยสั่งการ เมื่อรองนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมายและมอบอำนาจแล้ว ให้รายงานนายกรัฐมนตรีทราบทุกสามสิบวัน

          4. ให้รองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีในคำสั่งนี้ พิจารณาความจำเป็นและความเหมาะสมในการยุบเลิกคณะกรรมการดังกล่าว หากเห็นว่าหมดความจำเป็นหรือซ้ำซ้อนกับภารกิจของหน่วยงานอื่น หรืออาจยุบรวมคณะกรรมการชุดต่างๆ เข้าด้วยกัน หรือปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการดังกล่าว โดยการยกเลิกหรือแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง หรือจัดทำระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีขึ้นใหม่ โดยยึดหลักการมีผู้รับผิดชอบภารกิจอย่างชัดแจ้ง การไม่ปฏิบัติงานซ้ำซ้อนกัน และการบูรณาการภารกิจให้เกิดการประสานและสอดคล้องรองรับกัน แล้วเสนอผลการพิจารณาและข้อเสนอแนะ ตลอดจนร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีที่ขอแก้ไขเพิ่มเติม หรือจัดทำขึ้นใหม่ ต่อคณะรัฐมนตรีภายในสามสิบวัน ในกรณีที่เห็นควรให้คงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีนั้นๆ ไว้ตามเดิม ให้รายงานเหตุผลและความจำเป็นภายในกำหนดเวลาดังกล่าวด้วยเช่นกัน

          5. ในการปฏิบัติหน้าที่ตามที่มอบหมายและมอบอำนาจตามคำสั่งนี้ให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรียึดหลักการประสานราชการระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีประสิทธิภาพและบังเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทางราชการและประชาชน โดยคำนึงถึงนโยบายการพัฒนาระบบราชการ มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาต่างๆ ในเชิงรับอย่างเป็นระบบ และการกำหนดยุทธศาสตร์และกลยุทธ์ในเชิงรุก ด้วยการผลักดันนโยบายของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีให้เป็นรูปธรรม เพื่อสร้างความมั่นคงแข็งแกร่งในทางเศรษฐกิจ ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพประชากรในทางสังคม และรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยในทางการเมืองการปกครอง

          ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2549 เป็นต้นไป

 

การดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ก.พ.ร.


          คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ขยายเวลาการดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ก.พ.ร. ของ นายทศพร ศิริสัมพันธ์    ต่อไปอีก 1 ปี ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ

          ทั้งนี้ สำนักงาน ก.พ.ร. ชี้แจงว่า นายทศพร ศิริสัมพันธ์ ได้รับการแต่งตั้งให้รักษาราชการแทนเลขาธิการ ก.พ.ร. ในวันที่ 19 ธันวาคม 2545 ต่อมาคณะรัฐมนตรีได้ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ก.พ.ร. ในคราวการประชุมคณะรัฐมนตรี    เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2546 และมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ก.พ.ร. (นักบริหาร 10 บส.) สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2546 โดยจะดำรงตำแหน่งติดต่อกันเป็นเวลาครบ 4 ปีในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นไปตามหนังสือสำนักงาน ก.พ. ที่ นร 0708.1/ว 7 ลงวันที่ 30 เมษายน 2540 ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการสับเปลี่ยนหน้าที่ ย้าย หรือโอนข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ดำรงตำแหน่งระดับ 9 และระดับ 10 ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีลักษณะบริหารไว้ว่า กรณีที่ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ดำรงตำแหน่งที่มีลักษณะบริหารปฏิบัติหน้าที่เดียวติดต่อกันเป็นเวลาครบ 4 ปีแล้ว แต่ผู้บังคับบัญชาพิจารณาเห็นว่ายังมีความจำเป็นไม่อาจสับเปลี่ยนหน้าที่ ย้าย หรือโอนไปปฏิบัติหน้าที่อื่นได้  ให้ผู้บังคับบัญชาขอต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนสามัญผู้นั้นได้ครั้งละไม่เกิน 1 ปี และไม่เกิน 2 ครั้ง  ประกอบกับ คณะรัฐมนตรีได้มีมติในคราวการประชุม  เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2549  ขอให้ทุกส่วนราชการเร่งพิจารณาและเสนอเรื่องการแต่งตั้ง  โยกย้ายข้าราชการระดับสูง ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาภายในวันอังคารแรกของเดือนสิงหาคม 2549 นี้ เนื่องจากต้องส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาให้ความเห็นชอบ

อ่านต่อ คลิกที่นี่