คำถามที่พบบ่อย

F A Q/การจัดทำคำรับรองและประเมินผลการปฎิบัติราชการและการจัดสรรสิ่งจูงใจ/

หลักเกณฑ์ของการจัดสรรเงินรางวัล ปี พ.ศ. 2552 ต่างจากปีที่ผ่านมา อย่างไร?

   

              หลักเกณฑ์ แนวทางของการจัดสรรเงินรางวัลของปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ส่วนใหญ่จะไม่แตกต่างจากหลักเกณฑ์ วิธีการจัดสรรเงินรางวัลปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ยกเว้น การจัดสรรเงินรางวัล ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 จะไม่มีเงินสมทบจากเงินเพิ่มพิเศษสำหรับผู้บริหาร เหมือนปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 เนื่องจากไม่ได้รับการจัดสรรเงินเพิ่มพิเศษสำหรับผู้บริหาร

สำหรับหลักเกณฑ์ แนวทางและวิธีการจัดสรรเงินรางวัลประจำปีสำหรับผู้ปฏิบัติของส่วนราชการ จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษาให้แก่ข้าราชการและลูกจ้างประจำในสังกัด ดังนี้

               หลักเกณฑ์ 

               (1) ส่วนราชการ สถาบันอุดมศึกษา และจังหวัด ต้องไม่นำเงินรางวัลทั้งหมดที่ได้รับไปจัดสรรโดยวิธีการหารเฉลี่ยให้ผู้มีสิทธิได้รับเงินรางวัลได้รับเท่ากัน

               (2) ส่วนราชการ สถาบันอุดมศึกษา และจังหวัด เมื่อได้รับการจัดสรรเงินรางวัลไปแล้วจะต้องนำไปจัดสรรให้แก่ผู้มีสิทธิได้รับการพิจารณาจัดสรรเงินรางวัลประจำปี ได้แก่ ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ

               (3) ผู้มีสิทธิได้รับเงินรางวัลต้องได้รับการประเมินผลการปฏิบัติราชการ โดยแบ่งการประเมินผลเป็น 5 ระดับ เช่นเดียวกันกับการประเมินผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการ สถาบันอุดมศึกษา และจังหวัด ผู้ที่มีคะแนนการประเมินผลการปฏิบัติราชการต่ำกว่า 3.0000 คะแนน ไม่มีสิทธิได้รับเงินรางวัล

               (4) จำนวนเงินรางวัลที่ผู้มีสิทธิจะได้รับขึ้นอยู่กับการมีส่วนร่วมผลักดันให้ผลงานของหน่วยงาน ส่วนราชการ หรือจังหวัด บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ และผลการประเมินการปฏิบัติราชการของผู้มีสิทธินั้นๆ

               (5) ให้ส่วนราชการเป็นผู้จัดสรรเงินรางวัลให้แก่ข้าราชการและลูกจ้างประจำที่สังกัดราชการบริหารส่วนกลางและราชการบริหารส่วนกลางที่ปฏิบัติราชการอยู่ในภูมิภาค และให้จังหวัดเป็นผู้จัดสรรเงินรางวัลให้แก่ข้าราชการและลูกจ้างประจำที่สังกัดราชการบริหารส่วนภูมิภาค

               วิธีการจัดสรรเงินรางวัล 

               (1) ให้ส่วนราชการ สถาบันอุดมศึกษา จังหวัดแต่งตั้งคณะกรรมการจัดสรรเงินรางวัลขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่พิจารณาหลักเกณฑ์ และวิธีการในการจัดสรรเงินรางวัล และต้องประกาศหลักเกณฑ์ให้ข้าราชการและลูกจ้างประจำได้ทราบโดยทั่วกัน

                (2) ให้คณะกรรมการจัดสรรเงินรางวัลของส่วนราชการ สถาบันอุดมศึกษา และจังหวัดพิจารณาสัดส่วนเงินรางวัลที่จะแบ่งให้แก่สำนัก/กอง หรือสำนักงาน ออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่หนึ่งคือรางวัลสำหรับความร่วมมือกันระหว่างสำนัก/กอง หรือสำนักงาน ส่วนที่สองคือรางวัลสำหรับสำนัก/กอง หรือสำนักงาน ที่มีผลงานโดดเด่นในการผลักดันงานของส่วนราชการ สถาบันอุดมศึกษา และจังหวัดให้บรรลุเป้าหมาย โดยสัดส่วนรางวัลความร่วมมือต่อรางวัลความโดดเด่นอาจจะเป็น 50:50 หรือสัดส่วนอาจจะเป็น 60:40 เป็นต้น ซึ่งสัดส่วนทั้งสองจะเป็นเท่าไร ขึ้นกับการพิจารณาผลของคณะกรรมการจัดสรรเงินรางวัลของแต่ละส่วนราชการ

                (3) การจัดสรรเงินรางวัลให้พิจารณาตามผลการประเมินของสำนัก/กอง ซึ่งผลการประเมินของสำนัก/กอง ควรสอดคล้องกับวิธีการประเมินระดับกรมและจังหวัด นั่นคือ มีระดับคะแนนจาก 1.00005.0000 โดยคะแนน 1.0000 หมายถึง ระดับที่ต้องปรับปรุงและคะแนน 5.0000 หมายถึง ระดับที่ดีเลิศหรือดี

 


เปิดดู 1391 ครั้ง   ล่าสุดเมื่อ 22 ธันวาคม 2567 17:25:27